‘อิ๊งค์’ไปต่อเมิน2พันล.พลิกขั้ว
"อิ๊งค์" มั่นใจมาก ศุกร์นี้เข้าทำเนียบฯ ตั้งแต่เที่ยง ก่อน สส.เพื่อไทยแห่เสนอหน้าให้กำลังใจบ่ายสองโมง ร่วมลุ้นมติ 9 ตุลาการพร้อมกัน รอด-ไม่รอด "รองเลขาฯ นายก" ไม่เชื่อข่าวปล่อยทุ่ม 2 พันล้านซื้อตัว สส.รัฐบาลเปลี่ยนขั้วโหวตนายกฯ คนใหม่ มั่นใจพรรคร่วมฯ ไม่หักหลัง หลัง พท.โดนด่าหูชา รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายไม่มาตามนัด สส.รัฐบาลเร่งสปีด ผ่านสองร่าง กม.สำคัญจบในวันเดียว สว.แบะท่าไม่ดึง-ไม่คว่ำ
ความเคลื่อนไหวก่อนถึงวันศุกร์ที่ 29 ส.ค. ที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติคำร้องคดีถอดถอน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะลงมติเวลา 09.30 น. และเริ่มอ่านคำวินิจฉัยในเวลา 15.00 น. คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกิน 16.00 น.
โดยพบว่า เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม น.ส.แพทองธารยังคงไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องดังกล่าวกับสื่อมวลชน และได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ เพื่อประกาศผลการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2567 โดยมีท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส กล่าวสวัสดีคณะกรรมการฯ และทักทายสื่อมวลชนก่อนเปิดประชุมว่า "เราไม่ได้เจอกันมาพักหนึ่ง"
ด้านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมายังทําเนียบรัฐบาล วันที่ 29 ส.ค.นี้ ช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. เพื่อมาฟังคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยจะมีรัฐมนตรีมารอและร่วมนั่งฟังด้วย จากนั้นเวลา 15.00-16.00 น. สส.พรรคเพื่อไทยจะมาทำเนียบรัฐบาลเพื่อร่วมให้กําลังใจ ซึ่งไม่ว่าผลออกมาบวกหรือลบ ไม่ใช่ปัญหา และจะส่งตัวแทนไปฟังการอ่านคำวินิจฉัยที่ศาล รธน.
ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า หาก น.ส.แพทองธารไปต่อไม่ได้ จะมีการทุ่มเงินเพื่อซื้อ สส.มาโหวตให้กับฝั่งตัวเองนั้น นายสมคิดกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเพียงข่าวเชิงแหล่งข่าว แต่เรื่องจริงไม่น่าเป็นเช่นนั้น เพราะคะแนนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลเดิมยังเป็นตัวเลขเดิม หากผลออกมาเป็นลบกับ น.ส.แพทองธาร ก็โหวตนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ อีกคนของพรรค พท. แต่ถ้าเป็นบวกก็ทำงานต่อ ยืนยันรัฐบาลไม่ได้วิตกอะไร
“ที่มีคนไปปั่นกระแสว่ามีจํานวนเงิน 2,000 ล้านบาท ก็เป็นการสร้างกระแส ยืนยันพรรคร่วมรัฐบาลยังจับมือกันแน่น ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร แต่หาก น.ส.แพทองธารไม่ได้ไปต่อ ก็อาจเสียเวลาสัก 2-3 สัปดาห์ เพื่อเลือกนายกฯ แม้เสียงจะไม่เยอะมาก แต่เราสามารถเลือกนายกฯ ได้เหมือนเดิม ส่วนเรื่องซื้อเสียง คิดได้แต่ทําไม่ได้” รองเลขาธิการนายกฯ ระบุ
เมื่อถามว่า ไม่กังวลว่าจะมีการพลิกขั้วใช่หรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ไม่มี จะไปพลิกทําไม ตัวเลขก็ค้ำกันอยู่ สมมติพรรคภูมิใจไทยเสนอชื่อ ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ยกมือให้แล้วจะไปอย่างไร คิดว่าพรรคประชาชนจะเลือกหรือ ถ้าเลือกแล้วจะพอหรือไม่ อัตราเสี่ยงสูงมากกว่า ก็เดินไปแบบนี้แหละ ส่วนรัฐบาลจะครบเทอมหรือไม่ เป็นอีกเรื่อง จะอยู่นานหรือไม่ก็อยู่ที่ผลงาน ไปตัดสินกันที่สนามเลือกตั้งดีกว่า ขอให้ฝ่ายค้านอดทนอีกนิด เชื่อว่าไม่เกินเดือน พ.ค.2570 ได้เลือกตั้งแน่นอน อย่ารีบร้อน อยากฝากไปถึงคนที่ปั่นข่าวเรื่อง 2,000 ล้านบาทว่าเก็บเงินไว้ให้ลูกกินขนมดีกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันเดียวกัน ระหว่างเปิดให้ สส.หารือความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ โดยนายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวในที่ประชุมสภาฯ ตอนหนึ่งว่า "สถานการณ์ในประเทศไทยในขณะนี้เป็นสถานการณ์ที่ย่ำแย่ ที่เราจะขาดผู้นำไม่ได้ ในวันที่ 29 ส.ค.นี้ ะตัดสินนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ขอให้ท่านนายกฯ ปลอดภัยทุกสิ่ง และกลับมาเป็นนายกฯ ขวัญใจให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป"
ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนําพิราบขาว 2006 ได้ไปยื่นหนังสือเพื่อให้กำลังใจตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในการทําหน้าที่ โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า เพื่อดํารงไว้ซึ่งความมั่นคงของชาติ และรักษาไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ ความถูกต้อง ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญที่ให้นักการเมือง และคณะผู้บริหารบ้านเมืองต้องมีคุณธรรม มีมาตรฐานทางจริยธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
นายนพรุจให้สัมภาษณ์ว่า ด้วยสถานการณ์ของประเทศที่เข้าสู่ภาวะวิกฤตหลายๆ ด้าน ในฐานะตัวแทนภาคประชาชนนอกสภา มอบกําลังให้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้ทําหน้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย ส่วนที่มีนักวิพากษ์วิจารณ์ออกมาวิเคราะห์ตามสื่อทั้งนายกฯ รอดและไม่รอด ก็ไม่รู้ว่าเป็นไปตามข้อกฎหมายใด ขอไม่ก้าวล่วง แต่พฤติกรรมของนายกฯ แสดงถึงความอ่อนด้อยในการบริหาร แต่ไม่ว่าผลการตัดสินจะเป็นอย่างไร อยากให้ทุกฝ่ายยอมรับ
สภาเร่งเครื่องรถไฟฟ้า 20บ.
ด้านความคืบหน้าการเดินหน้านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย หลังจากที่กระทรวงคมนาคมอ้างเหตุว่าไม่สามารถเริ่มให้ใช้ได้ทัน 1 ต.ค.2568 ตามที่เคยประกาศไว้ เพราะติดปัญหาเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับ จึงต้องขยับออกไปเป็นวันที่ 15 พ.ย.2568 จนทำให้เรื่องดังกล่าวถูกมองว่าอาจส่งผลต่อคะแนนนิยมของรัฐบาลเพื่อไทยนั้น
ปรากฏว่าที่ประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับในการทำนโยบายดังกล่าวคือ ร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ….. (พ.ร.บ.ตั๋วร่วม) และ พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ.2543 (พ.ร.บ.รฟม.) และจากนี้จะส่งไปให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป
โดยในส่วนของร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ที่สภาได้พิจารณาต่อจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ในวาระ 2 และ 3 ซึ่งการประชุมเป็นไปอย่างขลุกขลัก เพราะ สส.ฝ่ายค้านไม่ร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุมให้ ต้องเสียเวลารอ สส.ฝ่ายรัฐบาลมาแสดงตนเป็นองค์ประชุมเกือบ 10 นาที จึงมีผู้มาแสดงตน 248 คน เกินองค์ประชุม 246 คน อย่างฉิวเฉียดเพียง 2 เสียงเท่านั้น จนเมื่อมีการพิจารณาร่างฯ ครบหมดทุกมาตรา ที่ประชุมสภาฯ โหวตผ่านวาระ 3 ด้วยคะแนน 382 ต่อ 0 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 5 เสียง
จากนั้น ที่ประชุมสภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.รฟม.ต่อเนื่อง จนสุดท้ายที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบในวาระ 3 ด้วยคะแนนเสียง 398 เสียง เห็นด้วย 248 เสียง ไม่เห็นด้วย 151 เสียง
ต่อมา พรรคประชาชน โดยนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และนายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. ร่วมแถลงข่าวภายหลังที่ประชุมสภาฯ มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับดังกล่าว
โดยนายสุรเชษฐ์ระบุว่า ถือเป็นความสำเร็จร่วมกันของสภาผู้แทนราษฎร แม้ พ.ร.บ.จะผ่านแล้ว แต่รัฐบาลก็ยังเลื่อนไปเรื่อยๆ หากจํากันได้ตอนที่รัฐบาลเข้ามาประกาศไว้ที่ 3 เดือน และเลื่อนมาเป็น 2 ปี คือวันที่ 1 ตุลาคม ล่าสุดก็จะเลื่อนอีก ทั้งที่กระบวนการพิจารณาสภาเป็นไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับ พ.ร.บ.อื่น ไม่ได้มีการล่าช้าแต่อย่างใด แม้จะมีการถกเถียงกันบ้างในบางมาตราของ พ.ร.บ.ราง และ พ.ร.บ.ตั๋วร่วม แต่เราก็ร่วมผลักดันด้วย
“พรรคประชาชนจึงตั้งคําถามว่า นโยบายเรือธงของรัฐบาลที่เลื่อนไป จะเลื่อนไปถึงเมื่อไหร่ และจะมีการดําเนินการตาม พ.ร.บ.ทั้ง 3 ฉบับหรือไม่ เพราะหากจะดําเนินการก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะประชาชนจะได้สามารถใช้บัตรใบเดียวแตะเข้าแตะออก และมีส่วนลดได้” นายสุรเชษฐ์กล่าว
นายศุภณัฐกล่าวในฐานะตัวแทน สส.กทม.พรรคประชาชน ยืนยันอีกครั้งว่า พรรคประชาชน ทั้ง สส.กทม.และปริมณฑล เราเห็นด้วยกับการอุดหนุนค่าโดยสารให้กับพี่น้องประชาชน เราเห็นด้วยกับการทําตั๋วร่วม เพราะถ้าสังเกตจะพบว่าใน พ.ร.บ.ตั๋วร่วม พรรคประชาชนก็มีการเสนอ และในหลายๆ ประเด็นใน พ.ร.บ.ของ ครม. ที่ยังมีความไม่ครบถ้วน ก็ต้องอาศัยร่างของพรรคประชาชนเข้าไปช่วยให้สมบูรณ์ โดยเฉพาะการที่จะทําให้ครอบคลุมในส่วนของรถเมล์ รวมถึงการทําค่าโดยสารร่วม แต่สิ่งเดียวที่ไม่เห็นด้วย คือการเสนอใช้เงินของทาง รฟม.ขึ้นมา ซึ่งเป็นปัญหา ที่มีการพิจารณาในคณะกรรมาธิการแล้ว สิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่จากพรรคประชาชน เพราะกรรมาธิการในสัดส่วนพรรคประชาชน ไม่มีการเล่นเกม เราร่วมประชุมทุกครั้ง ซึ่งได้พยายามผลักดัน ให้ข้อเสนอแนะ และแบกองค์ประชุมแล้ว แต่สิ่งที่มีความล่าช้าเกิดจากการวางนโยบายของรัฐบาลที่ผิดพลาดเอง
อ้วนถามใครคือเบนจามิน
ส่วนท่าทีของวุฒิสภาต่อร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) แถลงว่า ที่ประชุมวุฒิสภาเมื่อ 25 ส.ค. ได้พิจารณารับหลักการร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง ที่มีกว่า 150 มาตรา ที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว และขอให้สบายใจว่าวุฒิสภามีวุฒิภาวะอย่างเพียงพอในการโหวตเพื่อผลประโยชน์ของคนไทย แต่ขอให้ประชาชนเข้าใจว่า สว.ต้องใช้เวลาในการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน สว.คงไม่ใช้วุฒิภาวะในการโหวตเพื่อผลประโยชน์ให้แก่กลุ่มคนหรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ดังนั้นเมื่อมีมาตราจํานวนมากจึงต้องใช้ความรอบคอบในการพิจารณา
ขณะที่ความเคลื่อนไหวการเมืองอื่นๆ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย (มท.1) กล่าวถึงกรณีกรมการปกครองได้เสนอเรื่องการขอสัญชาติไทยของนายเบนจามิน เมาเออร์ เบอร์เกอร์ นักธุรกิจชาวแอฟริกาใต้ และนายหน้าขายเครื่องบินให้กับนายทักษิณ ชินวัตร มาให้พิจารณาหรือไม่ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง มาก็ว่าไปตามกฎหมาย หากมีสิทธิ์ขอ ก็ขอได้ ส่วนจะอนุมัติหรือไม่อยู่ที่เรา เพราะมีกฎเกณฑ์อยู่แล้วในเรื่องการขอสัญชาติ ถ้าอะไร หรือมีปัญหาทางด้านกฎหมายเราก็ไม่ให้ แต่ถ้าไม่มีอะไรเป็นไปตามข้อตกลง กติกาก็ไม่เป็นปัญหาอะไร ซึ่งตนยังไม่เคยได้ยินชื่อ และไม่รู้จักเขา ถ้าจะยื่นมาต้องผ่านหลายขั้นตอน ผ่านกองบัญชาการตำรวจสันติบาล มาอีกเยอะ
“นายเบนจามินก็ไม่เกี่ยวกับผม และไม่เกี่ยวกับอะไรกับกระทรวงมหาดไทย ผมก็ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน” นายภูมิธรรมระบุ
เมื่อถามว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ระบุว่านายเบนจามินเคยเสนอมาในยุคของนายอนุทิน แต่เนื่องจากเอกสารไม่ครบ นายภูมิธรรมกล่าวว่า อันนี้ไม่ทราบได้ ถ้าขึ้นมาไม่ผิดเลยก็ว่าไปตามกฎหมาย ถ้ามีอะไรที่ผิดกฎหมายไม่ให้ยื่น ถ้าชัดเจนมีอะไรขึ้นมาจะดำเนินการตามเนื้อผ้า
เมื่อถามย้ำว่า เรื่องนี้เชื่อมโยงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ด้วย นายภูมิธรรมกล่าวว่า ทุกอย่างเชื่อมโยงตลอด แต่ว่าการเชื่อมโยงนายทักษิณจะเป็นอย่างไร ไม่เชื่อมโยงการทำงานของตนและกระทรวงมหาดไทย.