“แกร็บฟู้ด” ชี้ศึก “บุฟเฟ่ต์หม้อไฟ” ดันยอดออร์เดอร์เมนูสุกี้โต 65%
นายจิรกิตติ์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเดลิเวอรี แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสงครามการแข่งขันในตลาดบุฟเฟ่ต์หม้อไฟมูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท ได้สร้างสีสันและความคึกคักให้กับธุรกิจร้านอาหาร และยังส่งผลถึงพฤติกรรมการสั่งอาหารผ่านบริการฟู้ดเดลิเวอรีด้วย โดยในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา (มิ.ย.-ก.ค. 68) พบว่ามีจำนวนการค้นหาเมนูสุกี้บนแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว และมียอดสั่งเมนูสุกี้เติบโตขึ้นกว่า 65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน โดยผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ กว่า 80% เลือกสั่งสุกี้จานเดี่ยว ไม่ว่าจะเป็น สุกี้แห้งหรือสุกี้น้ำ
“สุกี้สไตล์ไทยถือเป็นหนึ่งในเมนูอาหารจานเดียวที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นเมนูที่กินง่าย มีรสชาติเข้มข้น และมีวัตถุดิบที่หลากหลาย ทำให้ถูกใจคนกินอาหารจานเดียวที่ โดยในปีที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการแกร็บฟู้ด สั่งเมนูสุกี้มากกว่า 270,000 ออร์เดอร์ ซึ่งเมนูยอดฮิตคือ สุกี้แห้งหมู ตามมาด้วย สุกี้แห้งเนื้อ และสุกี้แห้งทะเล โดย 3 แบรนด์สุกี้จานเดี่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ สุกี้ช้างเผือก สุกี้ดาวเรียง และ เอลวิสสุกี้&ซีฟู้ด”
นายจิรกิตติ์ กล่าวต่อว่า เพื่อช่วยร่วมยกระดับร้านอาหารท้องถิ่นในตำนานให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ล่าสุดแกร็บจึงได้คว้าแบรนด์ดังจากเชียงใหม่อย่าง “สุกี้ช้างเผือก” ซึ่งโดดเด่นด้วยเมนูสุกี้ผัดแห้ง ผักกรอบ หอมกระทะ อันเป็นเอกลักษณ์ มาให้บริการรูปแบบเดลิเวอรีภายใต้ซับแบรนด์ “Only at Grab” เพื่อเอาใจสายกินในกรุุงเทพฯ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้สามารถสั่งได้แบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่แกร็บเท่านั้น หลังร้านสุกี้ช้างเผือกประเดิมเปิดสาขาแรกในกรุงเทพฯ บนถนนบรรทัดทอง ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังประสบความสำเร็จอย่างมากกับ 6 สาขาในเชียงใหม่
ด้าน น.ส.ณัฐสุวรรณ อิ่มใจบุญ เจ้าของร้านสุกี้ช้างเผือก กล่าวว่า หลังได้รับเสียงเรียกร้องจากลูกค้าทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ จึงได้ตัดสินใจขยายสาขาออกนอกเชียงใหม่ โดยเลือกถนนบรรทัดทองเป็นสาขาแรก ซึ่งเป็นไพรม์โลเคชั่นใจกลางกรุงเทพฯ และเป็นแหล่งรวมของสตรีทฟู้ดชั้นนำ ซึ่งช่องทางการขาย เน้นไปที่การสร้างความสมดุลระหว่างช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ และลดความเสี่ยงทางธุรกิจ โดย แกร็บ ถือเป็นพันธมิตรหลักรายสำคัญของเรามาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ทำให้สุกี้ช้างเผือกสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยปัจจุบันเรามียอดขายจากช่องทางเดลิเวอรีคิดเป็น 30% ของยอดขายทั้งหมด และหากได้รับกระแสตอบรับที่ดีในสาขาแรก เตรียมพิจารณาขยายสาขาเพิ่มในกรุงเทพฯ ภายในปีนี้