โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

รัฐรื้อใหญ่ พ.ร.บ.โรงแรม ดูแลโฮมสเตย์ โฮสเทล แพลตฟอร์มดิจิทัล

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ปรับปรุงพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 โดยยกร่างพระราชบัญญัติสถานที่พักแรม พ.ศ. …. ขึ้นมาใหม่ ล่าสุดได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไป เพื่อให้ได้รับข้อมูล ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่า ที่ผ่านมา พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน จึงไม่สอดคล้องกับสภาพการท่องเที่ยวในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอย่างรวดเร็ว และมีการท่องเที่ยวในลักษณะใหม่ ซึ่งแตกต่างไปจากเดิมทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพ

ทั้งจากการท่องเที่ยวแบบมวลชน (mass tourism) ขยายไปสู่การท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม เช่น การท่องเที่ยวแบบหรูหรา (luxury tourism) การท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์เพื่อการพัฒนาตนเอง เช่น การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (creative tourism) การท่องเที่ยวแบบเนิบช้า (slow tourism) หรือการท่องเที่ยวโดยลำพัง (solo tourism) ที่นักท่องเที่ยวเป็นผู้ออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวเองตามความสนใจเฉพาะตัว

รวมทั้งการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวมีความต้องการสินค้าและบริการที่แตกต่างไปจากเดิม เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์ (medical and wellness tourism) การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (sports tourism) นอกจากนั้น รูปแบบของการท่องเที่ยวร่วมสมัยยังเรียกร้องความรับผิดชอบของนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยว ว่าต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทั้งในมิติของสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และชุมชน (responsible tourism)

จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานที่พักแรมให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และมีช่องทางที่รัฐจะสามารถส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการทุกฝ่ายโดยรีบด่วน ทั้งต่อผู้ประกอบการในลักษณะเดิม เช่น โรงแรมขนาดใหญ่

รวมถึงผู้ประกอบการในลักษณะใหม่ เช่น การให้บริการสถานที่พักแรมขนาดเล็ก (hostel and boutique hotel) การให้บริการสถานที่พักแรมในลักษณะเศรษฐกิจแบ่งปัน (sharing economy) หรือการให้บริการท่องเที่ยวของท้องถิ่นหรือชุมชน (homestay) ที่จะต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับทิศทางใหม่ของการท่องเที่ยว

สาระสำคัญของร่างกฎหมาย

1. ปรับปรุงพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และรูปแบบธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปตามหลักการของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562

เนื่องจากนิยาม “โรงแรม” ในกฎหมายปัจจุบันจำกัดเฉพาะสถานที่พักที่มีลักษณะเป็นอาคารถาวร มีระบบสาธารณูปโภคครบถ้วน และดำเนินการในเชิงธุรกิจเพื่อแสวงหากำไร ส่งผลให้สถานที่พักรูปแบบใหม่ เช่น โฮมสเตย์ เต็นท์ บ้านต้นไม้ แพ โฮสเทล

รวมทั้งการให้บริการบ้านพักหรือห้องพักเพื่อการอยู่อาศัยรายวัน ไม่สามารถขออนุญาตได้ตามกฎหมาย ผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมากจึงอยู่นอกระบบ ถูกมองว่า “ผิดกฎหมาย” ทั้งที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจฐานรากและการท่องเที่ยวชุมชน ร่างพระราชบัญญัตินี้จึงกำหนดนิยาม “โรงแรม” และ “สถานที่พักแรม” ให้ชัดเจนและครอบคลุมทั้งโรงแรมและสถานที่พักรูปแบบอื่น ๆ

2. แก้ไขปัญหาการกำหนดหลักเกณฑ์แบบ “One Size Fits All”

เพื่อให้กฎหมายมีความยืดหยุ่นและเป็นธรรมมากขึ้นสำหรับผู้ประกอบการทุกขนาด โดยเฉพาะรายย่อยที่เคยถูกบังคับใช้กฎหมายแบบเดียวกับรายใหญ่ ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับบริบทของกิจการนั้น ๆ รวมทั้งเพื่อขจัดช่องว่างทางกฎหมายที่เคยทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยกลายเป็นผู้กระทำผิดโดยไม่ตั้งใจ

โดยมีมาตรการที่สำคัญ คือ ใช้ระบบ “จดแจ้ง” หรือ “ขึ้นทะเบียน” แทน “ขออนุญาต” สำหรับกิจการที่มีความเสี่ยงต่ำ และปรับปรุงกลไกการกำกับดูแลให้เหมาะสมกับลักษณะกิจการ เช่น ไม่บังคับให้ที่พักขนาดเล็กต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกหรือมาตรฐานการประกอบธุรกิจเหมือนโรงแรมใหญ่ แต่ยังคงมาตรฐานความปลอดภัยที่จำเป็น

3. กำหนดมาตรการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ

เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการขออนุญาตและการติดต่อราชการ ซึ่งเดิมเคยเป็นอุปสรรคสำคัญต่อผู้ประกอบการรายย่อย โดยมีมาตรการที่สำคัญ กล่าวคือ การจัดให้มีระบบและวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการบันทึกทะเบียนผู้พัก การรับแจ้ง รับคำขอ การออกใบรับแจ้ง ใบรับขึ้นทะเบียน หรือใบอนุญาต หรือการดำเนินการอื่นใดตามร่างพระราชบัญญัตินี้

การตรวจคำขอที่รวดเร็วตามกฎหมายว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ รวมทั้งจัดให้มีระบบ Super License ที่ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถานที่พักแรมใบเดียวครอบคลุมหลายกิจกรรม เพื่อลดความซ้ำซ้อนและภาระของประชาชนในการขออนุญาตหลายใบ

4. กำหนดมาตรการส่งเสริมการประกอบธุรกิจ

เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนและการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยและธุรกิจท้องถิ่น โดยมีมาตรการที่สำคัญ กล่าวคือ การกำหนดให้มี “คณะกรรมการส่งเสริมการประกอบธุรกิจสถานที่พักแรม” ทำหน้าที่กำหนดแนวทางการส่งเสริมและการกำกับดูแลธุรกิจสถานที่พักแรมในภาพรวม

รวมทั้งยังเป็นกลไกเชิงนโยบายที่เชื่อมโยงระหว่างภาคธุรกิจกับรัฐบาล เชื่อมโยงผู้ประกอบการกับหน่วยงานรัฐและผู้บริโภค และทำหน้าที่เป็นกลไกตรวจสอบและถ่วงดุลการใช้อำนาจของนายทะเบียน รวมทั้งการกำหนดให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมธุรกิจสถานที่พักแรม มีหน้าที่จัดทำนโยบาย แผน และมาตรการส่งเสริมธุรกิจที่พักแรม ให้ครอบคลุมทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม มาตรฐานบริการ และการพัฒนาบุคลากร

5. กำหนดมาตรการกำกับดูแลธุรกิจการจับคู่ระหว่างผู้ให้บริการที่พักและผู้เข้าพัก

เป็นประเด็นสำคัญในยุคที่แพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น Airbnb, Agoda, Booking.com มีบทบาทอย่างมากในการเชื่อมโยงผู้ประกอบธุรกิจสถานที่พักแรมกับผู้พัก ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์แก่การคุ้มครองผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจ และสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหญ่ รวมทั้งเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ และส่งเสริมการเข้าสู่ระบบของธุรกิจที่พักที่เคยอยู่นอกกฎหมาย

6. แก้ไขบทกำหนดโทษ

เพื่อปรับปรุงกฎหมายให้มีความเป็นธรรมและเหมาะสมกับบริบทของผู้ประกอบการ วางหลักการในการกำหนดโทษให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับระดับความร้ายแรงของการกระทำโดยใช้แนวทาง “จูงใจมากกว่าบังคับ” เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการที่ปฏิบัติตามกฎหมาย รวมทั้งลดการใช้โทษทางอาญาในกรณีที่ไม่จำเป็น ตามหลักการของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

อินโดฯ เดือด ม็อบต้านสิทธิพิเศษ ส.ส. ดับ 6 ราย ปราโบโวถอยตัดเบี้ยบ้าน-ห้ามทริปนอก

22 นาทีที่แล้ว

ราคาก๊าซยังชะลอตัว

54 นาทีที่แล้ว

ราคาทองวันนี้ 1 กันยายน 2568 เปิดตลาดราคาทองปรับเพิ่มขึ้น 200 บาท

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ปากีสถานอพยพกว่าล้านคน หลังน้ำท่วมรุนแรงสุดในรอบ 40 ปี

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสังคมอื่น ๆ

รถยางแตกจอดแป๊บเดียว เสียงดังโครม ลงมาดู ช็อก! จยย.เสยท้ายดับคู่

สยามนิวส์
วิดีโอ

เปิดด่านคลองลึก! ให้คนไทย-กัมพูชาข้ามแดนทุก พุธ-อาทิตย์ 13.00-16.00 น.

THE ROOM 44 CHANNEL

Smart member ยิ่งเติมยิ่งได้ยิ่งใช้ยิ่งคุ้ม เติมน้ำมันให้ฉ่ำ ที่ปั๊มซัสโก้ เติม 1 ลิตรรับ 1 คะแนน นำคะแนนมาเปลี่ยนเป็น บัตรของขวัญ แลกทอง , ส่วนลดน้ำมัน และของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย..

สวพ.FM91

สลดกลางถนน! จยย.เปลี่ยนเลนกะทันหัน พุ่งชนกระบะ ดับคาที่

สยามนิวส์

"อมรัตน์" แก้ผ้ารำแก้บน หลัง "อิ๊งค์" หลุดนายกฯก่อนสิ้นปี

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

กรมอุตุฯ เปิดชื่อ 43 จังหวัด เตือน ฝนถล่มหนัก ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

สยามนิวส์

ประกาศ! กปน. 2 ก.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ตัดบรรจบท่อประธานชั่วคราวที่วางใหม่

สวพ.FM91

ดัชนีราคาผู้ผลิต ส.ค. 68 ร่วง 3.5% สินค้าล้นตลาด-ค่าเงินบาทแข็ง

ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...