เช็กอินเป็นศิลป์! 5 Design Hotels รอบโลกที่เปลี่ยนการเข้าพักให้เป็นประสบการณ์
เมื่อโรงแรมไม่ใช่แค่ “ที่พัก” อีกต่อไป แต่กลายเป็นผืนผ้าใบที่สถาปนิกและนักออกแบบใช้เล่าเรื่องราว ทั้งมรดกทางประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ หรือแม้แต่การเมืองร่วมสมัย การเดินทางจึงไม่หยุดอยู่ที่การเช็กอิน แต่เป็นการก้าวเข้าสู่พื้นที่ที่งานออกแบบและไลฟ์สไตล์ผสานกันอย่างแนบแน่น บทความนี้ชวนสำรวจ 5 Design Hotels รอบโลกที่ได้รับการพูดถึงอย่างมากในปี 2024–2025 ว่าคือ “ที่พักที่กลายเป็นศิลป์”
VISTA Ostuni: Puglia ประเทศอิตาลี
เมืองสีขาวแห่ง Puglia ถูกปลุกชีวิตขึ้นใหม่ด้วยการรีโนเวตอารามศตวรรษที่ 14 ให้กลายเป็นบูติกโฮเทล 28 ห้องที่ทั้งโมเดิร์นและเคารพประวัติศาสตร์ ผลงานของสถาปนิก Roberto Murgia ผสมผสานเมดิเตอร์เรเนียนเข้ากับความเรียบง่ายแบบญี่ปุ่น เฟอร์นิเจอร์ร่วมสมัยขับเน้นด้วยงานช่างฝีมือท้องถิ่น ทำให้ทุกพื้นที่สะท้อนจิตวิญญาณของ “White City” ได้อย่างลึกซึ้ง และไม่เพียงแค่มีความหรูหรา แต่ยังชวนให้นักเดินทางตระหนักถึงการอนุรักษ์รากเหง้าท้องถิ่นอีกด้วย
La Fondation Hotel : กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ตึกคอนกรีตดิบสไตล์ Brutalist ซึ่งเคยเป็นที่จอดรถ กลายเป็นโรงแรมดีไซน์ใหม่ที่อบอุ่นขึ้นในมือของ PCA-STREAM และ Roman & Williams พื้นที่สาธารณะอย่างสวนบนดาดฟ้ามีวิวเมืองปารีสแบบเต็มตา ขณะที่ภายในเล่นกับความดิบและเฟอร์นิเจอร์วินเทจยุค 70s–80s ได้อย่างลงตัว ที่นี่จึงไม่ใช่แค่โรงแรมแต่เป็นตัวอย่างว่าดีไซน์สามารถรีไซเคิลเมืองได้อย่างไร ทั้งยังเปลี่ยนสิ่งที่ถูกมองว่าไม่สวยงามให้กลายเป็นพื้นที่พักผ่อนที่ใครๆ ก็อยากสัมผัส
Six Senses Kyoto : เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
โรงแรมใหม่ในเกียวโตที่เปิดปี 2024 คือบทพิสูจน์ว่าความเฮอันยังร่วมสมัยได้ ดีไซน์วางผังให้ทุกห้องมองเข้าสวนและศาลเจ้าท้องถิ่น เชื่อมโยงธรรมชาติเข้ากับการพักผ่อนอย่างสงบ รายละเอียดเล็กๆ อย่างขวดน้ำแก้ว ก๊อกไม้ไผ่ และฝ้าไม้รีไซเคิลสะท้อนความยั่งยืนที่เป็นหัวใจของ Six Senses ทำให้การพักผ่อนไม่ใช่แค่การหลีกหนี แต่คือการเรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งแวดล้อมอย่างรับผิดชอบ
Municipal Grand : Savannah สหรัฐอเมริกา
อดีตธนาคารยุค 1960s ใน Historic District ถูกพลิกฟื้นให้เป็นบูติกโฮเทลที่เน้นการสร้างสังคมการดื่มและพบปะ ล็อบบี้คือค็อกเทลบาร์ที่เปิดทั้งวัน พร้อมรูฟท็อปพูลเด็คและบาร์ใต้ดินที่ขับเคลื่อนด้วยดีไซน์สีพาสเทลและเฟอร์นิเจอร์โค้งแบบมิดเซนทูรี นี่คือโรงแรมที่ทำให้สเปซสาธารณะกลายเป็นของเมืองอีกครั้ง และแสดงให้เห็นว่า hospitality ไม่ได้หยุดแค่แขกที่มาพัก แต่ยังรวมถึงชุมชนรอบๆ ที่สร้างเสน่ห์ให้สถานที่นี้เป็นอย่างดี
Desert Rock Resort : ซาอุดิอาระเบีย
หลายคนคงไม่คิดว่ารีสอร์ตหรูจะซ่อนตัวอยู่ในภูเขาแทนที่จะครอบงำภูมิทัศน์ แต่ Desert Rock Resort ทำได้จริงในโครงการ The Red Sea โดยฝังสถาปัตยกรรมเข้าไปในไหล่เขาหินทราย เพื่อลดรอยเท้าสิ่งแวดล้อมและทำให้ธรรมชาติเป็นพระเอก และอินทีเรียร์โดย Studio Paolo Ferrari ให้บรรยากาศไซไฟราวกับฉากจาก Dune แต่ยังเชื่อมโยงกับวิถีทะเลทรายได้อย่างแนบเนียน ที่นี่คือคำตอบของลักชัวรีแบบใหม่และเป็นความหรูหราที่เคารพธรรมชาติไปพร้อมกัน
การพักในโรงแรมเหล่านี้คือเหมือนการใช้ชีวิตอยู่กับงานศิลป์ เพราะทุกห้องและทุกพื้นที่ถูกออกแบบให้เป็นบทสนทนาไม่ว่าจะเป็นกับประวัติศาสตร์ เมือง และธรรมชาติ สิ่งที่ทำให้ Design Hotels น่าหลงใหลจึงไม่ใช่แค่ดีไซน์สวย แต่คือการที่งานออกแบบช่วยเล่าเรื่องและทำให้ผู้เข้าพักกลายเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนั้นได้อีกด้วย
Note : The information in this article is accurate as of the date of publication.