ครึ่งปีหลังนี้กินอะไรกันดี? จับตา 6 เทรนด์อาหารที่ครองใจสาย Food Lover
ครึ่งหลังของปีมักเป็นช่วงเวลาที่ทั้งเชฟและเหล่าสายกินพร้อมทดลองสิ่งใหม่ๆ จนเกิดเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงที่ล้วนสะท้อนความสนใจของคนยุคใหม่ที่มองหา ‘ความอร่อยที่มีความหมาย’ไม่ว่าจะเป็นความใส่ใจต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่ประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างเหนือความคาดหมาย จนเกิดเป็น 6เทรนด์อาหารที่ครองใจสาย Food Lover ในช่วงหลังจากนี้
1.High–Low Pairings
หนึ่งในเทรนด์ที่เห็นได้ชัดคือ ‘High–Low Pairings’ การจับคู่ของสองโลกที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว เช่น การโรยผงทองคำบนไอศกรีมโฮมเมด หรือเสิร์ฟสลัดเคลคู่กับมันฝรั่งทอดกรอบ เทรนด์นี้ดึงดูดทั้งสายตาและรสสัมผัสเพราะความคอนทราสต์กันระหว่างความ‘หรูหรา’กับ ‘บ้าน ๆ’ทำให้ทุกคำมีเรื่องราว
2.Functional, Wellness Foods
อีกเทรนด์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องคือ ‘Functional, Wellness Foods’ อาหารและเครื่องดื่มที่ใส่ส่วนผสมที่มีคุณค่าต่อสุขภาพทั้งกายและใจ เช่น Adaptogen ที่ช่วยจัดการความเครียด, เห็ดฟังก์ชั่นที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน หรือ Prebiotics ที่ดูแลระบบย่อยอาหาร ซึ่งอาหารแนวนี้กำลังกลายเป็นทางเลือกประจำวันของคนเมืองที่ใช้ชีวิตเร่งรีบแต่ยังใส่ใจสุขภาพ
3.Sustainability & Zero-waste
ด้านความยั่งยืนก็ยังเป็นประเด็นหลักโดย ‘Sustainability & Zero-waste’ ไม่ใช่แค่เทรนด์ชั่วคราวอีกต่อไป ร้านอาหารและเชฟทั่วโลกรวมถึงในไทยกำลังใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเพื่อลดรอยเท้าคาร์บอน(ปริมาณแก๊สเรือนกระจก) ใช้ทุกส่วนของวัตถุดิบให้เกิดประโยชน์สูงสุด และออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ลดขยะให้มากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับกระแสผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับอาหารที่ดีต่อโลก
4.Grab & Go, Healthier & Global
ในแง่ไลฟ์สไตล์คนเมือง Grab & Go, Healthier & Global กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว เราเห็นร้านอาหารและคาเฟ่ที่ออกแบบเมนูสลัด, โยเกิร์ต, หรือของว่างสุขภาพในแพ็กเกจพกพาง่าย พร้อมนำเสนอรสชาติจากหลายวัฒนธรรม เช่น เบอร์ริโต้เวียดนาม หรือข้าวปั้นสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน เพื่อตอบโจทย์ชีวิตที่ต้องการทั้งความรวดเร็วและความหลากหลาย
5.Dessert Caviar & Gourmet Snacks
ฝั่งสายหวานต้องไม่พลาดกับ Dessert Caviar & Gourmet Snacks ที่ยกระดับของหวานและของทานเล่นให้กลายเป็นงานศิลปะ ตั้งแต่คาเวียร์ที่เสิร์ฟคู่ไอศกรีมวานิลลาโฮมเมด ไปจนถึงมันฝรั่งทอดปรุงรสทรัฟเฟิลหรือคาราเมลsea salt ที่เป็นการผสมผสานความพรีเมียมเข้ากับความเพลินแบบคอมฟอร์ตฟู้ด
6.Sake with Casual Dining
ปิดท้ายไปด้วยเทรนด์ที่กำลังน่าจับตาในประเทศไทยคือ Sake คู่เมนู Casual Dining ที่ไม่ต้องรอให้ถึงร้านไฟน์ไดนิ่งอีกต่อไป สาเกกำลังถูกจับคู่กับเมนูง่ายๆ เช่น ยากิโทริหรือราเมนเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับคนรักอาหารญี่ปุ่นและผู้ดื่มสาเกหน้าใหม่
ครึ่งหลังของปี 2025 จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะจะออกไปสัมผัสรสชาติใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลองจับคู่รสชาติที่ไม่คาดคิด เติมสารอาหารที่ดีต่อใจ หรือเลือกเมนูรักษ์โลก เพราะสุดท้ายแล้วอาหารไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งที่เรากิน แต่เป็นเรื่องราวที่เราสร้างขึ้นทุกครั้งที่เราได้สัมผัสรสชาติ
Note : The information in this article is accurate as of the date of publication.