24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 26 ก.ค.68
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 26 ก.ค.68
>> บุกทลายปาร์ตี้ไก่งวง นุ่งกางเกงในมั่วสุมยาเสพติด ย่านรามคำแหง พบชายนักเที่ยว 44 คน มีสารเสพติดในร่างกาย 27 คน
01.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล , สน.วังทองหลาง ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.บช.น.) และเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (กก.สส.บก.น.4) บุกเข้าตรวจสอบอาคารแห่งหนึ่ง ภายในซอยรามคำแหง 21 แยก 2 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. หลังได้รับเบาะแสแจ้งว่ามีการจัดปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติด
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 3 ชั้น บริเวณชั้นบนมีห้องพักบริการประมาณ 40 ห้อง ส่วนชั้นล่าง พบชายนักเที่ยว 44 คน อายุประมาณ 30-60 ปี สภาพนุ่งกางเกงในเพียงตัวเดียวมั่วสุมกันอยู่ เจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดกิจกรรมทุกอย่าง จากการตรวจค้นพบยาไอซ์จำนวนหนึ่ง พร้อมอุปกรณ์การเสพและเข็มฉีดยาเข้าเส้น ยึดไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายชายนักเที่ยวทั้งหมด
จากการสอบสวนนายวิทยา (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ผู้ดูแลประจำเคาน์เตอร์ ให้การว่า มีลูกค้าเพศชายรักชายที่รสนิยมแบบเดียวกันมาเที่ยวใช้บริการสถานที่แห่งนี้ จะเก็บค่าบริการคนละ 250 บาท ส่วนยาเสพติดและอุปกรณ์การเสพ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเจอเป็นของลูกค้าที่นำมาเสพกันเอง
พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง กล่าวว่า สถานที่แห่งนี้เคยถูกตำรวจ สน.วังทองหลาง เข้าตรวจสอบจับกุมดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้ง แต่ยังมีการแอบเปิดให้บริการซ้ำอีก ลักลอบจำหน่ายสุราและมั่วสุมยาเสพติด เบื้องต้นผลตรวจปัสสาวะนักเที่ยวทั้งหมด 44 คน พบมีสารเสพติดในร่างกาย 27 คน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
>> ทบ. แจงกระสุนปืนใหญ่ หลงตกฝั่งลาว 10 นัด ยันไทยมีมาตรการคุมใช้อาวุธเข้มงวด
12.00 น. พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 09.40 น. ได้มีลูกกระสุนปืนใหญ่จำนวน 10 นัด ตกในเขตพื้นที่ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) บริเวณสามเหลี่ยมมรกต
กองทัพบกยืนยันว่าฝ่ายไทยมีมาตรการควบคุมการใช้อาวุธอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่ประชิดชายแดน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนหรือพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการทางทหาร ทั้งนี้ กองทัพบกจะยังคงประสานงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่าย สปป.ลาว เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศต่อไป
>> ปอศ. รวบหนุ่ม วัย 21 ปี ใช้ AI เขียนโค้ด แฮกสัญญาณกล่องทีวี กระจายขายเถื่อน เสียหายกว่า 10 ล้านบาท โดนรวบรับสารภาพสิ้น
14.00 น. พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. นำกำลังเข้าตรวจค้น ห้องพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจับกุม นายธนวัต (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ในความผิดฐาน “ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้า โดยการแพร่เสียงแพร่ภาพของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมตรวจยึดของกลาง กล่องรับสัญญาณรวมกว่า 40 กล่อง
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายธนวัต มีพฤติกรรมนำกล่องแพร่เสียงแพร่ภาพช่องทีวีรายการ มาแฮกสัญญาณ หรือ ดัดแปลงเป็นกล่องรับสัญญาณทีวีเถื่อน สามารถเข้าชมได้ทุกช่องโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ก่อนนำไปจำหน่ายให้กับผู้ที่สนใจ มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลเข้าตรวจค้นห้องพักของ นายธรวัต ซึ่งตั้งอยู่ภายในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชลบุรี จากการตรวจสอบภายในห้องพบ กล่องรับสัญญาณ 2 ยี่ห้อ รวมกว่า 40 กล่อง ซึ่งทั้งหมดกำลังเตรียมถูกนำมาดัดแปลงเพื่อจำหน่ายต่อให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวนายธนวัต ตรวจยึดสิ่งของทั้งหมดไว้เป็นของกลาง
สอบสวน นายธนวัต ให้การรับสารภาพว่า กระทำผิดดังกล่าวจริง รวมถึงยอมเผยขั้นตอนและวิธีทำว่าจะซื้อกล่องมือหนึ่ง หรือกล่องมือสองของบริษัทต่างๆจากช่องทางออนไลน์ และนำมาดัดแปลง โดยเขียนโค้ดใส่ไปในกล่องรับสัญญาณ เพื่อปลดล็อคการเข้าถึงข้อมูลในช่องสตรีมมิ่งต่างๆ พร้อมทั้งเขียนโปรแกรมเข้าไปใหม่ โดยใช้ AI ช่วยเขียนโค้ด จากนั้นจึงนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้าเพื่อหารายได้เสริม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> ตชด.บาดเจ็บ 5 นาย ถูกกระสุนปืน ค.กัมพูชา ยิงใส่ฐานปฏิบัติการ
16.00 น. เพจ ตำรวจตระเวนชายแดน ได้โพสต์ข้อความ “ตชด. บาดเจ็บ จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด.ต.สรชัย โฮเม จ.ส.ต.วชิระ กุศลพันธ์ จ.ส.ต.สุชาติ เวหน จ.ส.ต.จิระชัย ตันตระกูล ส.ต.อ.ธวัชชัย จันทร์ผาย ขอส่งกำลังใจให้ทุกนาย แข็งแรงโดยเร็ววัน”
โดยเจ้าหน้าที่ทั้งหมด สังกัด กก.ตชด.22 ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดกระสุนปืน ค. ของฝ่ายทหารกัมพูชา ขณะปฏิบัติหน้าที่พิทักษ์พื้นอธิปไตย ที่บริเวณฐานปฏิบัติการใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 กรกฎาคม 2568
ซึ่งเมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 ก.ค.68 พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผบช.ตชด. พร้องผู้เกี่ยวข้อง เดินทางไปเยี่ยมอาการป่วยของ จ.ส.ต.สุชาติ เวหน ผบ.หมู่ กก.ตชด.22 ที่ได้รับบาดเจ็บขาข้างซ้าย มีรอยช้ำบริเวณท้อง แน่นหน้าอก หูอื้อ
และเมื่อช่วงสายวันเดียวกัน พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. ได้เข้าเยี่ยม จ.ส.ต.วชิระ กุศลพันธ์ ผบ.หมู่ กก.ตชด.22 ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ
>> เจ็ตสกีลุยช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม แพร่ น่าน สุโขทัย ต่อเนื่อง
16.50 น. จากสถานการณ์ น้ำท่วมในเขตพื้นที่ จ.น่านและจังหวัดใก้ลเคียง อันเนื่องจากพายุ วิภา พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา นายกสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยฯ ได้จัดตั้งศูนย์ปฎิบัติการณ์ของสมาคมกีฬาเจ็ตสกีฯ เพื่อเป็นศูนย์ปฎิบัติการให้นักกีฬาจิตอาสาไปปฎิบัติงานช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ซึ่งได้รับการร่วมมือและสนับสนุนจาก นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) สนับสนุน การปฎิบัติของนักกีฬาเจ็ตสกีจิตอาสาของสมาคมกีฬาเจ็ตสกีฯ
โดย พล.ต.อ.เดชณรงค์ได้แยกการปฎิบัติภารกิจของทั้ง 2 ทีม โดยชุดปฎิบัติการที่ 1 นายสมบัติ เนียมพาง กรรมการสมาคมฯ เป็นหัวหน้าทีมเจ็ตสกีจิตอาสาฯ ทีม 1 พร้อมด้วยแชมป์โลกดาวรุ่ง “แชมป์” กษิดิศ ธีระประทีป นำเรือเจ็ตสกี จำนวน 5 ลำ ร่วมกับทีมบางแก้ว ออกเดินทางไปปฎิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชน พร้อมแจกอาหาร น้ำดื่ม และข้าวของที่จำเป็นให้ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.น่าน จ.แพร่ และล่าสุดเตรียมลงพื้นที่ จ.สุโขทัย ต่อไป เนื่องจากได้รับข่าวว่า แม่น้ำยมเริ่มทะลัก เข้าบ้านเรือนประชาชนในอ.สวรรคโลก
ส่วนชุดปฎิบัติการที่ 2 มีเรือเจ็ตสกี ประมาณ 10 ลำ ร่วมกับทีมนักกีฬาจิตอาสา “2 พี่น้องแชมป์โลก” อรพรรณ ธีรพัฒน์พาณิชย์ เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ รวมทั้ง “แบงค์แชมป์โลก” พิตติพงศ์ เกียรติกมลกุล ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.น่านและจ.แพร่ต่อไป
>> ผู้ว่าฯ พิจิตร ลงนาม ปลดนายก อบต.ย่านยาว หลังปปช.ชี้มูลใช้งบผิดประเภท เบิกจ่ายไม่เป็นความจริง
17.20 น. น.ส.ธนียา นัยพินิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า จากกรณีที่มีการร้องเรียนให้ตรวจสอบ นายรักกี้ นายก อบต. ย่านยาว อ.เมืองพิจิตร ซึ่งส่อไปในทางไม่โปร่งใสในการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการสัมมนาการขับเคลื่อนท้องถิ่นสู่การสาธารณะระดับสากล โดยสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 12-14 ก.ค.66 ที่ศูนย์แสดงสินค้า ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่
ปรากฏว่า นายก อบต.ใช้วิธีเบิกค่าเดินทางด้วยรถยนต์ทั้งไปทั้งกลับ แต่จริงๆแล้ว นายรักกี้นั่งเครื่องบินทั้งขาไป-กลับ จังหวัดกระบี่ ให้ออกจากการเป็นนายก อบต.เนื่องจากตนได้รับหนังสือจากท้องถิ่นจังหวัด เพื่อให้ลงนามคำสั่งจาก สตง. ปปช. ตรวจสอบพบว่านายก อบต. ย่านยาว อ.เมืองพิจิตร ซึ่งเบิกงบประมาณ โครงการสัมมนาการขับเคลื่อนท้องถิ่นสู่การสาธารณะระดับสากล
ดังนั้น เมื่อ ปปช. สตง. ชี้มูลความผิดมาแล้ว ตนจึงลงนามคำสั่งให้นายรักกี้ นายก อบต.ย่านยาว ออกจากตำแหน่งนายก อบต. ซึ่งตนลงนามคำสั่งวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา ถือว่ามีความผิดร้ายแรง หลังจากที่นายก อบต.ย่านยาว ถูกให้ออกจากการเป็นนายก อบต. ดังนั้น กกต.พิจิตร เตรียมพร้อมจัดการเลือกตั้งโดยกำหนดให้ เปิดรับสมัคร ผู้สมัครนายก อบต. ย่านยาว ในวันที่ 4-8 ส.ค. และกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 14 ก.ย.68
>> เรือนจำกันทรลักษ์ ต้องย้ายผู้ต้องขัง 1.3 พันคน หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา
17.50 น. นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การสู้รบบริเวณชายแดนด้านอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง ทางฝ่ายทหารไม่สามารถคาดการณ์ได้ และจังหวัดฯ ได้ขยายเขตพื้นที่อพยพ จึงทำให้เรือนจำอำเภอกันทรลักษ์ ต้องย้ายผู้ต้องขังทั้งหมดประมาณ 1,300 คน ไปที่เรือนจำอื่นๆ รวม 14 เรือนจำ เพื่อความมั่นคงปลอดภัยในการควบคุมผู้ต้องขัง
ทั้งนี้ ญาติสามารถติดต่อขอเยี่ยมผู้ต้องขังได้ตามปกติที่เรือนจำฝ่ายรับย้าย โดยสามารถติดต่อสอบถามหรือตรวจสอบข้อมูลการย้ายได้ที่เพจเรือนจำ หรือช่องทางการประชาพันธ์ต่างๆ ของเรือนจำอำเภอกันทรลักษ์
รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยอีกว่า ขณะนี้เหตุการณ์ทั่วไปในเรือนจำยังปกติ ผู้ต้องขังทุกคนรับรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นและเข้าใจสาเหตุการย้ายที่เป็นไปเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของทุกคน ส่วนเรือนจำอื่นๆ ตามแนวชายแดนทุกแห่งต่างเฝ้าติดตามสถานการณ์ จัดเตรียมแผนเผชิญเหตุและแผนการย้าย ซึ่งพร้อมดำเนินการทันทีหากประเมินแล้วมีความเสี่ยง หรือสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น
>> กองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งสองฝ่ายยังคงวางกำลังในที่ตั้ง เนื่องจากมี "ฝนตกหนัก" ในพื้นที่
19.32 น. ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 26 ก.ค. 2568 ณ เวลา 16.00 น. ดังนี้
สถานการณ์การสู้รบ ทั้งสองฝ่ายยังคงวางกำลังในที่ตั้ง เนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ สถานการณ์ไม่เปลี่ยนแปลงจากเวลา 12.00 น. มากนัก
การอพยพประชาชนไปยังพื้นที่รวบรวมพลเรือน พื้นที่ตอนใน ทั้ง 4 จังหวัดต่อเนื่อง จ.บุรีรัมย์ อพยพ 1 จุด 8,363 คน จ.สุรินทร์ อพยพ 65 จุด 39,350 คน จ.ศรีสะเกษ อพยพ 82 จุด 35,009 คน และ จ.อุบลราชธานี อพยพ 76 จุด 14,709 คน ปัจจุบันดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือนแล้ว 97,431 คน (เพิ่มขึ้น 9,393 คน)
ผลกระทบต่อประชาชน พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย บ.หนองถนน ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ บ้านสายโท 10 ใต้ และบ้านสายโท 8 ใต้ ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ จรวด BM-21 ตกในพื้นที่ 28 นัด ไม่มีรายงานการสูญเสียต่อชีวิตของประชาชน