“เครื่องรางของขลัง“ ติด TOP5 สินค้าไทยส่งไปจีน ‘พระ-เหรียญ-ตะกรุด’ ฮิตเกิน 10 ปี
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา การขนส่งพัสดุจากไทยไปจีนเติบโตเฉลี่ยกว่า 3% โดยมียอดส่งออก 60,000 ชิ้น/ปี คิดเป็นค่าขนส่ง 50 ล้านบาท
โดยสิ่งของที่ได้รับความนิยมในการส่งผ่านไปรษณีย์จากไทยไปปลายทางประเทศจีน 5 อันดับแรก ได้แก่
เอกสาร
ของเล่น
เสื้อผ้าคอตตอน
อาหารเสริม
เครื่องรางของขลัง
“ในอดีตขนส่งระหว่างไทยจีน จะเป็นจดหมาย เงิน และโทรเลข ที่คนไทยเชื้อสายจีนส่งกลับไปให้พ่อแม่ แต่ปัจจุบันสัดส่วนการส่งจดหมาย/เอกสารถูกแซงด้วย การส่งสินค้าแทน โดยมีแรงหนุนจากอีคอมเมิร์ซของทั้ง 2 ประเทศขยายตัว”
ทั้งนี้ สินค้า “เครื่องรางของขลัง” อาทิ พระห้อย พระพุทธรูป ตะกรุด และเหรียญพระ เป็นที่นิยมในกลุ่มคนจีน รวมถึงคนชาติอื่น ๆ ทั้งญี่ปุ่น ฮ่องกง ติดลิสต์สินค้าส่งออกยอดฮิตของไปรษณีย์ไทยนานกว่า 10 ปี
โดยสินค้าเหล่านี้ จะมีเซียนพระในส่วนภูมิภาค เช่น ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นต้น นำมาฝากขายในที่ทำการไปรษณีย์ไทยบริเวณใกล้เคียง ซึ่งไปรษณีย์ไทยก็ได้สินค้าในช่องทาง ThailandPostMart
[caption id="attachment_1531905" align="alignnone" width="1283"]
ตัวอย่างหมวดสินค้าพระพุทธรูป ในแพลตฟอร์ม ThailandPostMart[/caption]
อย่างไรก็ดี ในแง่สินค้านำเข้าหมวดเครื่องรางของขลัง ก็เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคไทยสายมูเตลูเช่นกัน อาทิ เครื่องรางนำโชคด้านการเงินและความรัก ทั้งจากฮ่องกง และจีน
จากการเห็นโอกาสในการส่งสินค้าระหว่างไทย-จีน ไปรษณีย์ไทย จึงมีแผนพัฒนาการขนส่งทางบกจากต้นทางจีน เพื่อให้บริการสำหรับลูกค้ากลุ่ม B2B และกลุ่ม B2C โดยใช้การขนส่งในช่องทางพาณิชย์ เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการในการลดต้นทุนค่าขนส่ง สามารถขนส่งได้ในปริมาณมากขึ้นเมื่อเทียบกับการขนส่งทางอากาศ
ขณะเดียวกัน ยังเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทั้งต้นทางและปลายทางได้มากขึ้น เช่น มีบริการดำเนินพิธีการภาษีศุลกากรทั้งที่ต้นทางและปลายทาง
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังอยู่ระหว่างศึกษาการใช้ประโยชน์จากช่องทางการขนส่งทั้งทางรถและทางราง (Multimodul Transport) ไปปลายทางจีน และพร้อมเป็นจุดกระจายสินค้าเข้าไทย โดยใช้เครือข่ายในประเทศและส่งต่อไปทั่วโลก ทั้งทางอากาศและทางภาคพื้น
อย่างไรก็ตาม ปี 2568 สถานการณ์การส่งสินค้าจากไทยไปยังจีนและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ยังมีปัจจัยที่คาดการณ์ได้ยาก ด้วยเศรษฐกิจและกำลังซื้อทั่วโลกชะลอตัว รวมถึงประเด็นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้รูปแบบการส่งออกต้องปรับเปลี่ยนเร็วขึ้น
โดยปัจจุบันไปรษณีย์ไทยส่งออกสินค้ามากสุด ใน 5 ประเทศ คือ อเมริกา จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย