ครั้งแรกในไทย! เพาะพันธุ์ ปลาสลิดหินโรลแลนด์-สลิดหินคูปัง ได้
สัตว์โลกผู้น่ารัก ถ้าได้นำมาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนมนุษย์ก็ช่วยช่วยให้คนเราคลายเหงาได้ ปลาสวยงาม คือ อีกหนึ่งความงามที่คนนิยมเลี้ยงน้องๆ ไว้ดูเล่น และปลาสวยงามบ้านเราก็มีหลากหลาย อย่างล่าสุด กรมประมงประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์สลิดหิน 2 สายพันธุ์ ได้แก่ “ปลาสลิดหินโรลแลนด์” (Roland’s Damselfish) และ “ปลาสลิดหินคูปัง” (Half-blue Damselfish) ได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของวงการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสวยงามของไทย ในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำทะเลสวยงาม พร้อมเปิดตัวให้ประชาชนได้ยลโฉมความสวยงามอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรกในงาน “วันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35” ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล
นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า…กรมประมงขานรับนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้การกำกับดูแลของ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งสนับสนุนให้ภาคการเกษตรก้าวสู่ความทันสมัย เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันปลาสวยงามของประเทศไทยให้เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้เลี้ยงปลาตู้ทะเลสวยงามในระดับตลาดที่กว้างขวางเพิ่มขึ้น
ซึ่งล่าสุดกรมประมงประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ ปลาสลิดหินที่มีศักยภาพเชิงการค้าได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ได้แก่“ปลาสลิดหินโรลแลนด์ (Chrysiptera rollandi)” และ“ปลาสลิดหินคูปัง (Chrysiptera hemicyanea (Weber, 1913) ” ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย เนื่องจากปลาทั้งสองชนิดนี้จัดเป็นปลาทะเลสวยงามที่มีสีสันสดใส จึงได้รับความนิยมสูง ในการนำมาเลี้ยงในอควาเรียมทั้งในและต่างประเทศ การเพาะพันธุ์ปลาทั้ง 2 ชนิดนี้ได้เอง จะช่วยลดการจับ และทำลายทรัพยากรจากแหล่งธรรมชาติตลอดจนเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ในการสร้างอาชีพให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้สนใจสร้างอาชีพด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้
ทั้งนี้ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งกระบี่ ภายใต้สังกัดกองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง กรมประมง ได้ประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ปลาสลิดหินทั้ง 2 ชนิดดังกล่าว สำหรับ ปลาสลิดหินโรลแลนด์ (Roland’s Damselfish) ได้ประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ในปี พ.ศ. 2565 เป็นปลาทะเลสวยงามขนาดเล็ก ส่วนหัวมีสีเทาหรือเทาอ่อน ส่วนหางมีสีเหลืองอ่อน อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม อาศัยอยู่ตามแนวหินและปะการัง การเพาะพันธุ์เริ่มจากการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่มีขนาด 5 เซนติเมตรขึ้นไป เลี้ยงในบ่อปูนหรือถังไฟเบอร์กลาส
โดยใส่วัสดุเพื่อให้ปลาวางไข่ เช่น แผ่นกระเบื้อง หรือท่อพีวิซี จากนั้นเมื่อปลาวางไข่แล้ว ให้ย้ายวัสดุที่มีไข่ปลาติดอยู่ไปฟักในบ่ออนุบาล ซึ่งควบคุมให้มวลน้ำเคลื่อนที่ตลอดเวลาด้วยการให้อากาศผ่านหัวทรายคล้ายกับตอนที่ปลาใช้ครีบโบกพัด ไข่จะฟักตัวภายใน 72–78 ชั่วโมง ลูกปลาเริ่มกินอาหารได้หลังจากฟักแล้ว 1 วัน ได้แก่ โรติเฟอร์และนอเพลียสโคพีพอด จากนั้นเมื่ออายุ 15 วัน ให้อาร์ทีเมียแรกฟัก และเมื่อปลาอายุ 35 วันขึ้นไป จะเริ่มฝึกกินอาหารเม็ดสำเร็จรูปขนาด 300–500 ไมครอน และเมื่ออายุ 60 วันขึ้นไป ให้อาหารเม็ดชนิดจมน้ำได้วันละ 2 ครั้ง ควบคู่กับการดูแลด้านคุณภาพน้ำ ได้แก่ ความเค็ม pH และอุณหภูมิอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ ปลาเจริญเติบโตแข็งแรง มีอัตรารอดสูง ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ พบว่า ลูกปลาที่อายุ 36–60 วัน มีอัตรารอดสูงถึง 100%
สำหรับปลาสลิดหินคูปัง (Half-blue Damselfish) ได้ประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ในปี พ.ศ. 2567 เป็นปลาทะเลสวยงามขนาดเล็ก ด้านบนลำตัวมีสีน้ำเงินเข้ม ส่วนด้านล่างของลำตัวพาดด้วยแถบยาวสีเหลืองตั้งแต่คางจรดโคนหางด้านบน พบได้ทั่วไปในเขตร้อนของมหาสมุทรอินเดียและแถบอินโดแปซิฟิก ปลาชนิดนี้มีนิสัยรักสงบ ไม่ดุร้าย สามารถเลี้ยงร่วมกับปลาทะเลสวยงามชนิดอื่นได้ โดยปลาสลิดหินคูปังมีพฤติกรรมวางไข่ติดกับวัสดุ เช่น แผ่นกระเบื้อง หรือท่อพีวิซี วางไข่ครั้งละ 500–1,200 ฟอง ในทุกๆ 15 วัน ตลอดทั้งปี ไข่จะฟักภายใน 3–4 วัน ปลาตัวผู้มีหน้าที่ดูแลไข่ปลา
ซึ่งในช่วงฟักควรควบคุมการให้ออกซิเจนเบา ๆ เพื่อให้ไข่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา เมื่อลูกปลาเริ่มฟัก สามารถให้อาหารมีชีวิตในรูปแบบเดียวกันกับปลาสลิดหินโรลแลนด์ ได้แก่ โรติเฟอร์ นอเพลียสโคพิพอด อาร์ทีเมีย และอาหารเม็ดสำเร็จรูปตามช่วงอายุ ในการเลี้ยงปลาอายุ 16-35 วัน มีอัตรารอดตาย 80-90% ด้วยสีสันสดใส เลี้ยงง่าย และมีแนวโน้มเป็นชนิดปลาที่มีศักยภาพด้านการตลาดทั้งในและประเทศปลาสลิดหินคูปัง จึงเป็นอีกหนึ่งความหวังใหม่ของเกษตรกรและผู้ประกอบการด้านสัตว์น้ำไทย
สำหรับการเพาะพันธุ์ปลาสลิดหินทั้งสองชนิดนี้ นอกจากจะช่วยลดการจับจากธรรมชาติแล้ว ยังช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ๆให้แก่เกษตรกร ผู้ประกอบการส่งออกสัตว์น้ำ ตลอดจนนักเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในการนำองค์ความรู้นี้ไปต่อยอด ปลาทะเลสวยงามที่ได้มาจากการเพาะเลี้ยงจะเป็นสัตว์น้ำที่ได้รับการสนับสนุนจากการตลาดมากขึ้นอย่างต่อเนื่องแทนที่ปลาที่ถูกจับจากธรรมชาติเพราะเป็นประโยชน์ในมิติของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปลาสลิดหินคูปัง ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปีเศษ จะมีขนาดโตเต็มวัยราว 4 เซนติเมตร มีราคาจำหน่ายในต่างประเทศอยู่ที่ 13–15 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัว (ประมาณ 455–525 บาท)
ดังนั้นเพื่อการเจริญเติบโตทางด้านธุรกิจของเกษตรกรและผู้ประกอบการที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต กรมประมงซึ่งดำเนินการในกิจกรรมเงินทุนหมุนเวียนในการผลิตพันธุ์ปลาฯ ได้อยู่ระหว่างการประกาศราคาจำหน่ายปลาสลิดหินคูปัง ขนาด 1-6 เซนติเมตร อยู่ที่ราคา 40-700 บาท และปลาสลิดหินโรลแลนด์ ขนาด 1-2 เซนติเมตร อยู่ที่ราคา 20 บาท ซึ่งได้ประกาศราคาแล้ว เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 โดยเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งกระบี่ เบอร์โทร 075 662 059 ในวันและเวลาราชการ
อย่างไรก็ตามกรมประมงเชื่อมั่นว่า ความสำเร็จในครั้งนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้วงการสัตว์น้ำสวยงามของไทยก้าวสู่ตลาดโลก พร้อมเปิดโอกาสให้เกษตรกรรุ่นใหม่และผู้ประกอบการด้านสัตว์น้ำหันมาสนใจการเพาะเลี้ยงปลาทะเลสวยงามมากขึ้น เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมปลาสวยงามของไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกระดับโลก เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้แก่อุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทย
สำหรับใครที่อยากสัมผัสความงดงามของ “ปลาสลิดหินโรลแลนด์” และ “ปลาสลิดหินคูปัง” ได้ในงานวันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35 โซนนิทรรศการของกรมประมง ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.30 – 20.00 น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง