สืบพยานวันสุดท้าย “ทนาย” ลั่น “ทักษิณ” เป็นเหยื่อทางการเมือง
จากกรณีเมื่อปี 2558 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลย ได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีของประเทศเกาหลีใต้ได้พาดพิง ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง คดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัวไป
วันนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดี หมิ่นสถาบันเบื้องสูง ได้เดินทางมาตามศาลอาญานัดสืบพยานหลักฐาน วันสุดท้ายที่ศาลนัดสืบพยาน มาพร้อมด้วย นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว ได้เดินทางมาตามศาลนัดสืบพยานโจทก์ในคดี หมิ่นสถาบันเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐาน "ดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
โดยนายทักษิณ ชินวัตร เดินทางมาถึงที่ศาลอาญารัชดาในช่วงเวลา 09.15 น. ด้วย รถยนต์ส่วนตัวของนายทักษิณ ซึ่งได้ขับไปส่งนายทักษิณเข้าด้านข้างอาคารศาลอาญา และไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด ร่วมนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าด้านข้างตึกศาลอาญารัชดาเช่นเดียวกัน
ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ชินวัตร เปิดเผยว่าในวันนี้เป็นการนัดสืบพยานครั้งที่ 3 ซึ่งถ้าเป็นไปตามกำหนดการ หรือตามแผนที่โจทก์ได้วางไว้น่าจะเป็นการสืบพยานครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ถ้าตามหลักการกระบวนการพิจารณาหากไม่สามารถสืบได้หมดภายในวันนี้ โจทก์อาจจะขอนัดเพิ่ม คือไปใช้นัดเดียวกับทางจำเลย แต่คาดว่าน่าจะสืบพยานฝั่งโจทก์เสร็จสิ้นภายในวันนี้ ซึ่งจะสืบพยานฝั่งโจทก์ทั้งหมด 3 ปาก ซึ่งในวันนี้ด้านนายทักษิณก็เดินทางมาด้วยตนเองเช่นเดิม เพราะนายทักษิณประสงค์ที่จะเข้ารับฟังการสืบพยานอยู่แล้ว และเป็นหน้าที่ที่จำเลยจะต้องเข้ามารับฟัง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสื่อมวลชนจับตา และรอการให้สัมภาษณ์นายทักษิณจะปรากฏตัวให้เห็นหรือไม่ นายวิญญัติ ระบุว่า ไม่ทราบจริงๆว่านายทักษิณจะให้สัมภาษณ์หรือไม่ หรือนายทักษิณคิดเห็นประการใด ส่วนเรื่องการขึ้นลงว่าจะขึ้นลงด้านใด ก็เป็นเรื่องของการบริหารจัดการเรื่องความเรียบร้อย ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่สามารถที่จะก้าวล่วงได้
เมื่อถามภาพรวมทางคดีว่าเป็นอย่างไร มีความหนักใจในส่วนไหนบ้างหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า “เรื่องนี้ยังเหลือกระบวนการที่ทางจำเลยจะต้องนำพยานเข้าสืบ โดยมีอยู่หลายปาก ถามว่ามีความหนักใจอะไรหรือไม่ ในเรื่องของข้อกล่าวหาเป็นเรื่องที่ชวนสังเกตว่า ข้อกล่าวหานี้เป็นข้อกล่าวหาที่ใช้ในเชิงทางการเมืองไปแล้ว และยืนยันว่าท่านทักษิณเป็นเหยื่อทางการเมือง ไม่ได้รับความเป็นธรรมตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐาน การสอบสวน ดังนั้นถ้าถามในมุมมองผู้ทำคดี เมื่อเราได้เห็นหลักฐาน และได้สืบสร้างพิสูจน์บางอย่าง ก็ขอตอบว่าไม่หนักใจ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ให้เป็นเรื่องของดุลพินิจของศาล วินิจฉัยหรือช่างน้ำหนักพยานหลักฐานอย่างไร โจทก์มีพยานหลักฐานเพียงพอหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งในอนาคต
ต่อมา เมื่อช่วงเวลา 11.10 น. นายทักษิณก็ออกจากศาลไปทันที เพื่อพักรับประทานอาหาร โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง ไปรอยืนโบกมือให้กำลังใจอยู่ริมถนนรัชดาภิเษก แต่เนื่องจากนายทักษิณ เปลี่ยนรถ ไม่เหมือนสองวันที่ผ่านมา ทำให้มวลชนที่เดินมารอให้กำลังใจ ไม่มั่นใจว่ารถของนายทักษิณคือคันไหน ทำให้บางคนไม่ทันได้เห็นตอนรถของนายทักษิณผ่าน จึงยังรอนายทักษิณ กลับมาที่ศาลอีกครั้งในช่วงบ่าย
ทั้งนี้ ทนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว บอกสั้นๆว่า ช่วงเช้าสืบพยานไปแล้ว 2 ปาก เหลือช่วงบ่ายอีก1ปาก และนายทักษิณ รับรู้การรอของนักข่าวและมวลชน และมีความเป็นห่วง อยากจะทักทายแต่เปิดกระจกไม่ได้เพราะเป็นรถกันกระสูน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.thฃ
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews