โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

Google เปิดตัว MedGemma - MedSigLIP นวัตกรรม AI ด้านสุขภาพ - ผู้ช่วยหมอดิจิทัล

SpringNews

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ในยุคที่ AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกวงการ Google ได้เปิดตัวเครื่องมือชิ้นสำคัญที่มุ่งขับเคลื่อนอนาคตของวงการสาธารณสุข นั่นคือ MedGemma และ MedSigLIP โมเดล AI แบบเปิด (Open-Source) ที่ออกแบบมาเพื่อการแพทย์โดยเฉพาะ การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการทำให้นวัตกรรม AI ด้านสุขภาพเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เปิดโอกาสให้นักพัฒนาและสถาบันการแพทย์ทั่วโลกสามารถนำไปต่อยอดได้ แต่ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับข้อจำกัดและความรับผิดชอบที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

MedGemma และ MedSigLIP: ปัญญาประดิษฐ์คู่ใหม่แห่งวงการแพทย์

โมเดลทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Health AI Developer Foundations (HAI-DEF) ซึ่งเปรียบเสมือนการวางรากฐานทางเทคโนโลยีให้นักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์แอปพลิเคชันทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

โดยมีความสามารถที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน:
MedGemma: เป็นโมเดลที่เชี่ยวชาญด้านการ สร้างและประมวลผลข้อความ ที่เชื่อมโยงกับข้อมูลทางการแพทย์ รวมถึงความสามารถในการวิเคราะห์ภาพและสร้างคำอธิบายได้ (Multimodal) เหมาะสำหรับงานอย่างการร่างรายงานผลเอ็กซเรย์เบื้องต้น หรือการตอบคำถามทางการแพทย์ที่ซับซ้อน

MedSigLIP: ทำหน้าที่เป็น ตัวเข้ารหัสภาพและข้อความ (Encoder) ที่ยอดเยี่ยมสำหรับงานจำแนกประเภท (Classification) และการสืบค้นข้อมูล (Retrieval) เช่น การจัดหมวดหมู่ภาพถ่ายทางผิวหนัง หรือการค้นหาเคสผู้ป่วยที่มีลักษณะทางพยาธิวิทยาคล้ายคลึงกัน

Google เปิดตัว MedGemma - MedSigLIP นวัตกรรม AI ด้านสุขภาพ - ผู้ช่วยหมอดิจิทัล

จุดเด่นที่สำคัญคือ โมเดลเหล่านี้ถูกออกแบบมาให้ทำงานบนฮาร์ดแวร์ทั่วไปได้ ทำลายข้อจำกัดที่ว่า AI ทรงพลังต้องพึ่งพาซูเปอร์คอมพิวเตอร์เสมอไป

ศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด: ประโยชน์ของโมเดล AI แบบเปิด

การที่ Google เลือกที่จะเปิดโมเดลเหล่านี้เป็นแบบเปิด ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สร้างประโยชน์มหาศาลให้กับวงการแพทย์ในหลายมิติ

ความเป็นส่วนตัวและการปรับแต่ง: นักพัฒนาสามารถดาวน์โหลดโมเดลไปใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์ของตนเองได้ (On-premise) ทำให้ข้อมูลคนไข้ที่ละเอียดอ่อนไม่ต้องถูกส่งออกไปภายนอกสถาบัน ซึ่งตอบโจทย์ด้านนโยบายความเป็นส่วนตัวอย่างยิ่ง อีกทั้งยังสามารถ ปรับจูน (Fine-tuning) โมเดลให้เชี่ยวชาญเฉพาะทางกับชุดข้อมูลของโรงพยาบาลนั้นๆ ได้โดยตรง

ประสิทธิภาพที่น่าประทับใจ: แม้จะเป็นโมเดลขนาดเล็ก แต่ MedGemma กลับมีประสิทธิภาพสูงอย่างน่าทึ่ง โดยสามารถทำคะแนนในชุดทดสอบความรู้ทางการแพทย์ MedQA ได้ถึง 64.4% ซึ่งดีที่สุดในกลุ่มโมเดลเปิดขนาดเล็ก นอกจากนี้ ในการทดลองให้สร้างรายงานผลเอ็กซเรย์ทรวงอก 81% ของรายงานที่สร้างขึ้น ได้รับการยอมรับจากรังสีแพทย์ในสหรัฐฯ ว่า "มีความแม่นยำเพียงพอ" ที่จะนำไปสู่แนวทางการดูแลผู้ป่วยที่ใกล้เคียงกับรายงานต้นฉบับ

ความยืดหยุ่นและความเสถียร: โมเดลแบบเปิดช่วยให้นักพัฒนาสามารถแก้ไขและปรับปรุงเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับงานนั้นๆ และการแจกจ่ายโมเดลในรูปแบบ "สแนปช็อต" (Snapshots) ทำให้พารามิเตอร์ของโมเดลคงที่ ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับแอปพลิเคชันทางการแพทย์ที่ต้องการความสม่ำเสมอและทำซ้ำได้

รองรับความหลากหลายทางภาษาและข้อมูล: MedGemma ยังคงความสามารถในการประมวลผลภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษได้ดี โดยมีกรณีศึกษาที่พบว่าโมเดลทำงานได้ดีกับเอกสารทางการแพทย์ภาษาจีนโบราณ ขณะที่ MedSigLIP ถูกฝึกฝนด้วยภาพทางการแพทย์หลากหลายประเภท ตั้งแต่ภาพเอ็กซเรย์ไปจนถึงภาพจอประสาทตา

Google เปิดตัว MedGemma - MedSigLIP นวัตกรรม AI ด้านสุขภาพ - ผู้ช่วยหมอดิจิทัล

ก้าวที่ต้องระวัง: ข้อจำกัดและความท้าทาย

แม้จะมีศักยภาพสูง แต่ Google เน้นย้ำอย่างชัดเจนถึงข้อจำกัดที่ผู้ใช้งานต้องตระหนักถึง เพื่อป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิดหรือก่อให้เกิดความเสี่ยง

ไม่ใช่เครื่องมือวินิจฉัยโรคโดยตรง: นี่คือข้อควรระวังที่สำคัญที่สุด MedGemma และ MedSigLIP เป็นเพียง "จุดเริ่มต้น" สำหรับนักพัฒนา ไม่ใช่ "แพทย์ AI" ที่พร้อมใช้งานทางคลินิก ผลลัพธ์ที่ได้จากโมเดล ห้ามนำไปใช้เพื่อการวินิจฉัย การตัดสินใจรักษา หรือให้คำแนะนำทางการแพทย์แก่ผู้ป่วยโดยตรงเด็ดขาด

ความเสี่ยงของข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง: เช่นเดียวกับ AI ทุกตัว โมเดลเหล่านี้ยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างข้อมูลที่ผิดพลาด หรือที่เรียกว่า "Hallucination" แม้จะถูกฝึกฝนมาอย่างดีก็ตาม

จำเป็นต้องมีการตรวจสอบโดยมนุษย์: ผลลัพธ์ทั้งหมดที่สร้างโดย AI ควรถูกพิจารณาว่าเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น และ ต้องผ่านการตรวจสอบ ยืนยัน และตีความโดยบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสมอ ก่อนนำไปใช้งานจริง

โดยสรุป การมาถึงของ MedGemma และ MedSigLIP ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับนวัตกรรม AI ในวงการสุขภาพ การมอบเครื่องมือที่ทรงพลังและยืดหยุ่นในรูปแบบโอเพนซอร์ส จะช่วยเร่งการวิจัยและพัฒนาให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างก้าวกระโดด อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่สำคัญที่สุด ตกอยู่ที่ความรับผิดชอบของชุมชนนักพัฒนาและบุคลากรทางการแพทย์ ในการนำเครื่องมือเหล่านี้ไปต่อยอดอย่างมีจริยธรรม ปลอดภัย และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่เข้มงวด เพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีจะถูกนำมาใช้เพื่อยกระดับคุณภาพการดูแลสุขภาพของมนุษย์ได้อย่างแท้จริง

ที่มา : research.google

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก SpringNews

3 ทริคต้องรู้ก่อนซื้อ ‘งานหัตถศิลป์ทองคำ’ เลี่ยงความเข้าใจผิด

53 นาทีที่แล้ว

ทีมวิจัย Typhoon ส่ง 5 ผลงานวิจัยร่วมด้าน AI สู่เวทีงานวิจัยแนวหน้า

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทหารไทยขาขาดจากกับระเบิด จุดชนวนข้อพิพาทไทย–กัมพูชา กับ อนุสัญญาออตตาวา

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สุ่มตรวจ ‘สารหนู’ แม่น้ำกก ครั้งที่ 6 สูงเกินค่ามาตรฐานฯ ทุกจุด

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

BBL โชว์กำไรครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้น 9.5% รับรายได้ดอกเบี้ยหนุน

StockRadars

Google เปิดชุดโมเดลพัฒนา AI ด้านสุขภาพ MedGemma - MedSigLIP

ฐานเศรษฐกิจ

SharpLink เพิ่มทุน 6 พันล้านดอลล์ มุ่งกวาด Ethereum เข้าคลังบริษัท

ทันหุ้น

ผ้าไทยใส่ได้ทุกวันอย่างยั่งยืน: สำรวจ ‘ดอนกอยโมเดล’ ต้นแบบการพัฒนาผ้าไทยที่ใครก็เข้าถึงได้

The MATTER

ทรัมป์จ่อเซ็น GENIUS Act กำหนดอนาคต Stablecoin สหรัฐฯ ครั้งใหญ่

ทันหุ้น

ก.ล.ต. อนุมัติไฟลิ่งหุ้นกู้ KUN ครั้งที่ 2/68 ชูดอกเบี้ย 7.40% ต่อปี แต่งตั้ง Bluebell และ MPS ร่วมผนึกกำลัง ย้ำมั่นใจชำระหุ้นกู้ชุดเดิมก่อนเสนอขาย

Wealthy Thai

GULF โบรกฯ คาดกำไรปกติ Q2/68 ทำนิวไฮ ประเมินมีดีลลงทุนใหม่เกิดขึ้นอีก

ทันหุ้น

หอการค้าไทย ผนึก ซีพี ออลล์ จัด ‘Meeting With CEO & On-site Visit’

The Bangkok Insight

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...