หุ้นไทย เช้านี้ พุ่ง 24.27 จุด ทรัมป์ยืนยันไม่ปลดประธานเฟด ดัชนี PPI ต่ำคาด หวังสหรัฐลดดอกเบี้ย
หุ้นไทยวันนี้ ความเคลื่อนไหว"หุ้นไทย" ภาคเช้า ณ 17 ก.ค. 2568 บวก 24.27 จุด หรือ 2.10% หรืออยู่ที่ 1,181.90 จุด มูลค่าการซื้อขาย 12,129.29 ล้านบาท
กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ตลาดหุ้นไทย ในช่วงเช้าวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลักในต่างประเทศ ซึ่งประเด็นแรกมาจากที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยืนยันว่าจะไม่ดำเนินการปลดประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด และประเด็นที่ 2 ดัชนีราคาผู้ผลิต หรือ PPI ทำให้ตลาดตีความว่า แรงกดดันเงินเฟ้ออาจไม่รุนแรง และอาจนำไปสู่การที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ยังคงติดตามผลประกอบการกลุ่มธนาคาร ซึ่งงบการเงินของ TISCO ที่แม้จะถูกมองเป็นกลาง แต่ก็ช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนโดยรวม ทำให้ตลาดหุ้นลอยตัวขึ้นตามแนวโน้มตลาดหุ้นโลก
"ในสถานการณ์ปัจจุบัน มองว่าจังหวะนี้เป็นโอกาสในการทยอยขายทำกำไร และไม่ควรเพิ่มพอร์ตการลงทุนในระดับราคาปัจจุบัน เนื่องจากสถานการณ์ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศต่างๆ โดย อินโดนีเซียและเวียดนามได้ข้อตกลงการค้าที่ดี โดยเฉพาะการเปิดตลาดให้สหรัฐฯ เข้ามาแข่งขันได้อย่างเสรีด้วยภาษี 0% ตรงกันข้ามกับไทย ที่ไทยยื่นออกไปอาจไม่ได้น่าดึงดูดใจเท่ากับประเทศอื่น ๆ จึงมีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นไทยอาจมีการปรับฐานลดลง ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้เพิ่มพอร์ตการลงทุนในช่วงนี้"
สำหรับการปรับตัวขึ้นของตลาดในวันนี้เป็นการขึ้นแบบคละกลุ่ม ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการที่ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด หุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้แก่ กลุ่มธนาคาร หุ้นพลังงานอย่าง PTTEP หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี วัสดุก่อสร้างอย่าง Siam Cement อย่าง SCC หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง DELTA และหุ้นกลุ่มการท่องเที่ยวอย่าง AOT
วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอร์เรเตอร์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัว ตอบรับข่าวที่ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ยืนยันว่าไม่ได้มีแผนที่จะปลดนายเจอโรม โพเวล ประธาน FED ซึ่งถือเป็นประเด็นที่สำคัญต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนในตลาดที่ธนาคารกลางยังมีอิสระในการกำหนดนโยบายต่างๆ
ผสานกับรายงาน ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน มิถุนายนในฝั่งผู้ผลิตที่ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้ นำโดย US PPI +2.3%y-y ลดจาก 2.7%y-y ในเดือนพฤษภาคม และต่ำกว่าคาดที่ +2.5%y-y เช่นเดียวกับ Core PPI ที่ +2.6%y-y จาก 3.2%y-y ในเดือนก่อนหน้า และต่ำคาดที่ +2.7%y-y ช่วยกระตุ้นความคาดหวังในการปรับลดดอกเบี้ยในช่วงถัดไปมากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดความน่าจะเป็นในการลดดอกเบี้ยสหรัฐฯเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 58% จาก 54% ในวันก่อนหน้า
ส่วนปัจจัยในประเทศ ยังคงแนะติดตามรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในช่วงไตรมาส 2/68 รวมทั้งยังต้องเกาะติดสถานการณ์ภาษีการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาทางทีมไทยแลนด์ก็ได้พูดคุยกับผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เพื่อยื่นข้อเสนอเพิ่มเติม เช่นการลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯเป็น 0% ในสินค้าหลายหมื่นรายการ เพื่อทำให้ไทยโดนภาษีในอัตราที่เหมาะสมกว่า 36% โดยยังคาด SET ยังแกว่งในกรอบ 1140-1180 จุด แนะย่อเป็นโอกาสสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่คาดกำไรเด่น
หุ้นแนะนำ MONO ค่าบริการรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีค และเอฟเอคัพ ในราคาเพียง 299 บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าถูกกว่าที่ตลาดคาด เป็นโมเมนตัมเชิงบวกต่อโอกาสที่จะได้จำนวนสมาชิกที่สูง โดยเราคาดเป้าที่ 3 ล้านคน ซึ่ง MONO จะได้ส่วนแบ่งค่าถ่ายทอด 50 บาทต่อสมาชิกต่อเดือน หนุนโอกาสการ Turnaround คาดกำไรปีนี้กลับมาเป็นบวก ที่ 354 ล้านบาท และเร่งตัวขึ้นในปีหน้าสู่ระดับ 832 ล้านบาท ราคาเป้าหมาย 2.69 บาท