เตรียมรับเงินบำนาญเพิ่ม เช็กสิทธิประกันสังคมฉบับอัปเดตใหม่ ปี 2569
รู้หรือไม่ว่าอนาคต เงินบำนาญของคุณอาจเพิ่มขึ้น สำนักงานประกันสังคมมีแผนที่จะปรับเพดานค่าจ้างสูงสุดที่ใช้ในการคำนวณ เงินสมทบใหม่ในปี 2569 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประกันตนทุกคนควรรู้ เพราะจะส่งผลต่อสิทธิประโยชน์ระยะยาวของคุณในวัยเกษียณ
เตรียมรับเงินบำนาญเพิ่ม เช็กสิทธิประกันสังคมฉบับอัปเดตใหม่ ปี 2569 ประกันสังคม เปิดสิทธิประโยชน์ใหม่ หลังเตรียม ปรับเพดานค่าจ้างใหม่ในปี 2569 ระบุปี 2569-2571 จะมีการปรับเป็นค่าจ้าง 17,500 บาท ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบสูงสุด 875 บาทต่อเดือน นอกจากได้สิทธิประโยชน์เงินทดแทนเพิ่มขึ้นแล้วผู้ที่ส่งเงินสมทบมา 25 ปีและเกษียณ จะได้รับเงินบำนาญเพิ่มขึ้นเป็น 6,125 บาท/เดือน แต่ถ้าไปเกษียณในปี 2575 จะได้รับเงินบำนาญสูงถึง 8,050 บาทต่อเดือน เกษียณปีไหน ได้เงินเท่าไร เช็กรายละเอียดทั้งหมดที่นี่
กรณี สำนักงานประกันสังคม(สปส.) เตรียมปรับเพดานค่าจ้างใหม่ในปี 2569 รอผ่านกระบวนการขั้นตอนทางกฎหมายและการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ประกันสังคม : ตารางปรับเงินสมทบและสิทธิประโยชน์
ปัจจุบัน (ปี 2568)
ฐานค่าจ้าง 15,000 บาท จ่ายเงินสมทบสูงสุด 750 บาท/เดือน
- สิทธิประโยชน์ เช่น เจ็บป่วย 7,500 บาท/เดือน (250 บาท/วัน สูงสุด 180 วัน รวม 45,000 บาท), คลอดบุตร 22,500 บาท/ครั้ง, กรณีทุพพลภาพ 7,500 บาทต่อเดือน, สงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 90,000 บาท, ทดแทนกรณีว่างงาน 7,500 บาท/เดือน, บำนาญ 3,000-5,250 บาท/เดือน กรณีส่งเงินสมทบ 15 ปี 3,000 บาท/เดือน ส่วนกรณีส่งเงินสมทบ 25 ปี 5,250 บาท/เดือน
ปี 2569-2571 ที่จะมีการปรับเป็นค่าจ้าง 17,500 บาท จะต้องจ่ายเงินสมทบสูงสุด 875 บาทต่อเดือน สิทธิประโยชน์เงินทดแทน และเงินบำนาญที่ได้รับเพิ่มขึ้น คือ
- เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 8,750 บาทต่อเดือน (291 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 52,500 บาท)
- เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 26,250 บาทต่อครั้ง
- เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 8,750 บาทต่อเดือน
- เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 105,000 บาท
- เงินทดแทนกรณีว่างงาน 8,750 บาทต่อเดือน
- เงินบำนาญ กรณีส่งเงินสมทบ 15 ปี 3,500 บาทต่อเดือน ส่วนกรณีส่งเงินสมทบ 25 ปี 6,125 บาทต่อเดือน
ปี 2572-2574 ที่จะมีการปรับเป็นค่าจ้าง 20,000 บาท จะต้องจ่ายเงินสมทบสูงสุด 1,000 บาทต่อเดือน โดยสิทธิประโยชน์เงินทดแทน และเงินบำนาญที่ได้รับเพิ่มขึ้น คือ
- เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 10,000 บาทต่อเดือน (333 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 60,000 บาท)
- เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 30,000 บาทต่อครั้ง
- เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 10,000 บาทต่อเดือน
- เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 120,000 บาท
- เงินทดแทนกรณีว่างงาน 10,000 บาทต่อเดือน
- เงินบำนาญ กรณีส่งเงินสมทบ 15 ปี 4,000 บาทต่อเดือน ส่วนกรณีส่งเงินสมทบ 25 ปี 7,000 บาทต่อเดือน
ปี 2575 เป็นต้นไป ที่จะมีการปรับเป็นค่าจ้าง 23,000 บาท จะต้องจ่ายเงินสมทบสูงสุด 1,150 บาทต่อเดือนโดยสิทธิประโยชน์ที่ได้รับเพิ่มขึ้น คือ
- เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 11,500 บาทต่อเดือน (383 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 69,000 บาท)
- เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 34,500 บาทต่อครั้ง
- เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 11,500 บาทต่อเดือน
- เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 138,000 บาท
- เงินทดแทนกรณีว่างงาน 11,500 บาทต่อเดือน
- เงินบำนาญ กรณีส่งเงินสมทบ 15 ปี 4,600 บาทต่อเดือน ส่วนกรณีส่งเงินสมทบ 25 ปี 8,050 บาทต่อเดือน
หลักการ “จ่ายตามจริง ได้ประโยชน์ตามจริง”
สปส.ยืนยันว่า การปรับโครงสร้างใหม่นี้ จะไม่กระทบต่อความเป็นธรรม โดยผู้มีรายได้สูงจะจ่ายสมทบเพิ่ม แต่ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นเช่นกัน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพยุคใหม่
ขั้นตอนและกำหนดการเริ่มใช้
กำหนดการบังคับใช้ในปี 2569 ยังต้องผ่านขั้นตอนทางกฎหมายและการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่สปส.ตั้งเป้าจะเริ่มใช้ทันทีที่กฎหมายมีผลบังคับ พร้อมกับการปรับสูตรบำนาญแบบใหม่ (สูตร CARE)
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการประกันสังคมได้เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนกว่า 200,000 คน โดยกว่า 95% เห็นด้วย กับการปรับโครงสร้างครั้งนี้
การปรับโครงสร้าง เงินสมทบประกันสังคม 2569 ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน เพิ่มความมั่นคงทางสังคม และสร้างความเป็นธรรมทั้งต่อนายจ้างและแรงงาน