โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 8 สิงหาคม 2568

สวพ.FM91

อัพเดต 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 8 สิงหาคม 2568

>> รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำลงคลองข้างทาง คุณลุงคนขับขี่เสียชีวิตอยู่ในน้ำ

06.04 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์ มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำลงคลองน้ำข้างทาง และมีผู้เสียชีวิต ริมถนนบ้านเฉลียงลับ ช่วงโค้งสะพานตัวเอส ในพื้นที่ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ ยังไม่พบป้ายทะเบียน ลักษณะล้มคว่ำอยู่ริมตลิ่ง ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 รายจมอยู่ในน้ำ ทางอาสาสมัครดำเนินการนำร่างขึ้นมาตรวจสอบ เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 50 - 60 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์

>> กองบังคับการ สอท.1 ส่งสำนวนคดี “คลิปเสียงฮุนเซน” 50 แผ่น ให้อัยการสูงสุด พิจารณาตามกฎหมายคดีนอกราชอาณาจักร

09.30 น. ที่ สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 และรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะพนักงานสอบสวน นำสำนวนคดี “คลิปเสียงสมเด็จฮุนเซน สั่งไล่ล่าฝ่ายตรงข้ามในประเทศไทย” จำนวน 50 แผ่น ส่งมอบให้อัยการสูงสุด โดยมี น.ส.ฐิติวดี สินธวณรงค์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้รับมอบ

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า คดีนี้ บก.สอท.1 ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ให้ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวน และจากพยานหลักฐานเชื่อว่าเป็นการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 จึงต้องส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณา ตั้งคณะสอบสวนต่อไป

เหตุเกิดเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 ที่ สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง ผู้เสียหายคือนายพร นักเคลื่อนไหวการเมืองชาวกัมพูชา ถูกคนร้าย 3 คนทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ สอดคล้องกับชื่อและเหตุการณ์ในคลิปเสียงที่ระบุว่าฮุนเซนมอบหมายให้บุคคลชื่อ “ฮวด” ชาวกัมพูชา ดำเนินการในไทย ซึ่งพบว่ามีเหตุเกิดขึ้นจริง ปัจจุบัน “ฮวด” ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย โดยการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี

>> พบศพหญิงนิรนามลอยน้ำ สภาพโซ่เหล็กรัดคอและผูกไว้กับดัมเบลปูน ภายในลำคลองท่าใหญ่ จ.พังงา

11.00 น. นายวิเชฐ สูยะนันท์ นายอำเภอตะกั่วทุ่ง มอบหมายนายสุระไชย ทองศรีรักษ์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง สมาชิก อส.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกกลอย เจ้าหน้าที่กู้ภัยกุศลธรรมภูเก็ต กู้ภัยโลมา เข้าตรวจสอบกรณีได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน ม.11 ว่าพบศพลอยน้ำอยู่ในลำคลองท่าใหญ่ ใกล้กระชังปลา ในพื้นที่ อ.โคกกลอย จ.พังงา

เบื้องต้นได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบผู้เสียขีวิตเป็นเพศหญิง ไม่ทราบชื่อ ที่อยู่และสัญชาติ ใส่กางเกงขาสั้นสีดำ เสื้อยืดสีเทา สภาพศพน่าจะเสียชีวิตและอยู่ในน้ำมาประมาณ 2 วัน บริเวณลำคอมีโซ่เหล็กรัดลำคอ ผูกไว้กับเครื่องยกน้ำหนักเป็นแท่งปูน(ดัมเบล) จำนวน 2 แท่ง

จากการสอบถามไปที่ สภ.โคกกลอย และผู้ใหญ่บ้าน ไม่มีการรับแจ้งบุคคลสูญหาย ซึ่งเบื้องต้นพนักงานสอบสวน ประสานแพทย์ชันสูตรพลิกศพ และเก็บศพไปไว้ที่โรงพยาบาลตะกั่วทุ่ง เพื่อสืบสวนตามหาญาติต่อไป

>> สั่งเด้ง 5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ หลังฝ่ายปกครองบุกจับผับย่านรังสิต พบนักเที่ยวปัสสาวะม่วง 179 คน

11.26 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย รักษาการนายกฯ กล่าวถึงปฏิบัติการ “ZERO DRUG” 8 เดือน 8 ลุย ที่นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าตรวจค้น ผับย่านรังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พบนักท่องเที่ยวอายุต่ำกว่า 20 ปี และตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง 179 คนว่า ระบุว่า

จะมีการสั่งเด้ง 5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ส่วนรายละเอียดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะแถลงอีกครั้ง โดยตามระเบียบของตำรวจถ้ามีการจับกุมในพื้นที่ 5 เสือสถานีตำรวจ จะต้องรับผิดชอบ จะมีการย้ายมาประจำที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขณะที่ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นการแจ้งข่าวจากฝ่ายปกครองหรือไม่ หากไม่มีการแจ้ง กระบวนการของปกครองก็จะต้องมีการย้ายเช่นกัน

เมื่อถามว่าปฏิบัติการเมื่อคืนนี้ เป็นกำลังร่วมระหว่างฝ่ายปกครองกับตำรวจ หรือเฉพาะฝ่ายปกครอง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่แน่ใจ

เมื่อถามว่าถ้าเป็นกองกำลังร่วม ที่ผ่านมาตามธรรมเนียมปฏิบัติตำรวจจะไม่ถูกเด้ง นายภูมิธรรมกล่าวว่า คงจะเอาผิดคนที่เกี่ยวข้อง ก็คงมีการจัดการตามระเบียบ เบื้องต้นทราบมาว่าจะมีการย้าย 5 เสือและย้ายนายอำเภอในพื้นที่ ซึ่งเมื่อวานนี้ได้มีการมอบนโยบายไปแล้ว เมื่อถามว่าจะให้นายอำเภอมาช่วยราชการที่กรมการปกครองหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า รอดูคำสั่งก่อน แต่ว่าเอามาประจำเพื่อแก้ปัญหาไปก่อน

>> ฉก.อรัญประเทศ-ทหารพราน จับกุม 7 คนไทย หวังลอบข้ามแดนไปทำงานแอดมินเว็บพนันออนไลน์ ที่ฝั่งกัมพูชา

11.37 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองกำลังบูรพา โดยทหารชุดเฉพาะกิจ ฉก.อรัญประเทศ และเจ้าหน้าที่ทหารพรานจากกองร้อยทหารพรานที่ 1206 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ร.2 พัน 1 รอ. ตั้งจุดลาดตระเวนและเฝ้าตรวจตามแนวชายแดน ตั้งแต่ช่วงเวลา 18.00 น. คืนวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา

หลังได้รับแจ้งเบาะแสการลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย จำนวน 7 คน กำลังเดินเท้าในไร่อ้อย มุ่งหน้าไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา บริเวณบ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อเข้าตรวจสอบพบว่า เป็นชาวไทย 7 คน แบ่งเป็น ชาย 5 คน หญิง 2 คน พร้อมบัตรประชาชนครบถ้วน

ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้น ทั้งหมดให้การว่า พวกตนได้รับการติดต่อจากเพื่อนชาวไทยที่ทำงานในกัมพูชา ให้มาทำงานเป็นแอดมินเว็บออนไลน์หรือรับจ้างทั่วไป เนื่องจากไม่มีงานและไม่มีรายได้ จึงตัดสินใจเดินทางมายัง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งทั้ง 7 คน เล่าด้วยว่า ได้มีรถกระบะสีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มารับที่ปั๊มน้ำมันบางจาก ก่อนถึงตลาดโรงเกลือ จากนั้น คนขับได้พามาส่งที่บริเวณท้ายหมู่บ้านกุดหิน และให้เดินเท้าต่อเข้าไปในไร่อ้อย

โดยบอกว่าจะมีคนมารอรับ เพื่อพาข้ามแดนไปกัมพูชา แต่ในระหว่างที่กำลังเดินอยู่นั้น ก็ถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานลาดตระเวนมาพบ และจับกุมตัวไว้ได้ จากนั้นได้ควบคุมตัวทั้งหมดไปสอบสวนที่ กองร้อย ทพ.1206 และทำบันทึกจับกุม ก่อนจะนำตัวชายหญิงไทยทั้ง 7 คน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> รวบยายวัย 61 ลวงยายวัย 72 ปี ขึ้นรถทำร้าย - จี้ชิงทอง 6 บาท - ถีบตกจากรถ ก่อนหลบหนีข้ามจังหวัด

11.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม นางวอ อายุ 61 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนางรอง ฐาน “ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น หรือยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย” (ผู้ต้องหาตามหมายจับปฏิทิน ตร. พ.ศ.2568 ลำดับ 67) โดยจับกุม บริเวณหน้าบ้านพัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ

พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567 ในขณะที่ ผู้เสียหาย ยายอายุ 72 ปี ชาวบ้าน จ.บุรีรัมย์ นั่งรอรถโดยสารประจำทางอยู่ที่ริมถนนสายนางรอง-บุรีรัมย์ กลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้หญิง จำนวน 2 คน ได้ขับขี่รถเก๋ง มาจอดและได้สอบถามเส้นทางกับผู้เสียหาย จากนั้นผู้ต้องหาทั้งสองได้ชักชวนให้ผู้เสียหายนั่งโดยสารรถยนต์ไปด้วยกัน โดยอาสาที่จะพาผู้เสียหายไปทำธุระในตัวเมืองบุรีรัมย์ ระหว่างเดินทางผู้ต้องหาก็ได้พูดจาตีสนิท

โดยขากลับผู้ต้องหาออกอุบายขับรถพาผู้เสียหายออกนอกเส้นทางไป จากนั้นทำร้ายร่างกาย และใช้อาวุธปืนจี้ผู้เสียหาย แล้วดึงเอาสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาท จำนวน 1 เส้น, จี้สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 1 อัน, แหวนทองคำ น้ำหนัก 1 สลึง จำนวน 1 วง, เงินสดจำนวน 12,000 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง รวมทรัพย์สินมูลค่ากว่า 200,000 บาท จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้ใช้เชือกมัดมือผู้เสียหายเอาไว้ แล้วขับรถพาผู้เสียหายไปถึง จ.บุรีรัมย์ แล้วถีบผู้เสียหายลงจากรถยนต์ตกลงบริเวณข้างสระน้ำแล้วหลบหนี

ต่อมาหลังจากเกิดเหตุได้มีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย และแจ้งความ จนตพรวจสืบสวนและวางแผนจับกุมตัวได้ จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าเมื่อปี 2566 คนร้ายมีประวัติร่วมก่อเหตุแก๊งต้มตุ๋น ปลอมเป็นพระ หลอกชาวบ้าน ทำพิธีให้เลขเด็ด เก็บค่ายกครูหลักหมื่น ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ มาก่อน สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

>> ไฟไหม้ภายในแคมป์ก่อสร้าง เพลิงลุกไหม้ห้องพักคนงานเสียหายลอดหลายห้อง จ.ชลบุรี

13.30 น. รับแจ้งจาก ชมรมอาสาสมัครดับเพลิงภาคตะวันออก เกิดเหตุเพลิงไหม้แคมป์พักคนงานภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางนาง อ.พานทอง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุ แคมป์พักคนงาน ลักษณะเป็นห้องพักติดกัน จำนวน 100 ห้อง เพลิงลุกไหม้เสียหายประมาณ 20 ห้อง ทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครดับเพลิงภาคตะวันออก พร้อมรถอุปกรณ์ดับเพลิงจำนวน 2 คันเข้าสนับสนุนในที่เกิดเหตุ ดำเนินการใช้น้ำร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลท้องถิ่น ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้และสงบในเวลาต่อมา

ขณะเกิดเหตุมีคนงานได้รับบาดเจ็บถูกสังกะสีบาดที่มือ อาสาสมัครกู้ภัยสว่างอุทยาน ดำเนินการปฐมพยาบาลเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ และนำส่ง รพ.ใกล้เคียง ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พานทอง

>> เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 เสียหายวอดทั้งหลัง

14.43 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ถนนพุทธมณฑลสาย 1 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่างภายในบ้านเลขที่ 15/17 เสียหายหมดทั้งหลัง ลุกลามบ้านเลขที่ 15/12 เสียหายหมดทั้งหลัง และบ้านเลขที่ 50 เสียหายบางส่วน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 300 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ ไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งหลัง ขณะเกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย เป็นเพศชาย อายุ 57 ปี มีอาการบาดเจ็บที่นิ้วเท้าข้างซ้ายเล็กน้อย อาสาสมัครปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุ ไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์

>> ทหารเมียนมาปะทะกับกองกำลังกะเหรี่ยง, นายอำเภอท่าแซะ สั่งการให้กำนันและผู้ใหญ่บ้าน เฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด

15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ได้เกิดเหตุปะทะกันด้วยอาวุธหนักระหว่างกองกำลังทหารเมียนมาและกองกำลังกะเหรี่ยงในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน บริเวณตรงข้ามกับพื้นที่ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร โดยการปะทะดังกล่าวเกิดขึ้นนานประมาณ 20 นาที และสถานการณ์ได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ไม่มีการรายงานความสูญเสียใดๆ

รายงานจากชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4102 ระบุว่า ได้ยินเสียงอาวุธเครื่องยิงหนักไม่ทราบชนิดยิงปะทะกันในพื้นที่ระหว่างหมู่บ้านยัวฮินลูและหมู่บ้านเยยันตะ 1 คาดว่าเป็นการยิงก่อกวนโดยฝ่ายกองกำลังกอทูเล (KTLA) ซึ่งทำให้ทหารเมียนมาที่ฐานปฏิบัติการยัวฮินลูยิงตอบโต้

นายพิศิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม นายอำเภอท่าแซะ ได้สั่งการให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านในพื้นที่ชายแดน ติดตามข่าวสารและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนคนไทย นอกจากนี้ ยังได้สั่งให้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอำเภอท่าแซะอย่างใกล้ชิด

>> ไฟไหม้เรือสปีดโบ๊ท 2 ลำ ที่จอดอยู่บริเวณท่าเรือใน อ.ละงู จ.สตูล เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เร่งดับไฟ มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย คาดไฟฟ้าลัดวงจร

19.30 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิกู้ภัยร่มไทร จ.สตูล เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือสปีดโบ๊ท 2 ลำที่จอดอยู่บริเวณท่าเรือที่ปากบารา ในพื้นที่หมู่ 4 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล

ที่เกิดเหตุ พบเรือสปีดโบ๊ทเสียหาย 2 ลำ มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย โดยเจ้าหน้าที่สามารถดับได้ 1 ลำ ส่วนอีก 1 ลำกำลังลุกไหม้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานรถดับเพลิงจาก อบต.ปากน้ำ เทศบาล ต.กำแพง อ.ละงู มาทำการดับไฟที่กำลังลุกไหม้อย่างแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับท่าเรือดังกล่าวเป็นท่าเรือส่วนตัวที่ไว้สำหรับตกปลา สาเหตุเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แล้วเกิดประกายไฟและลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ต้องรอชุดพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าทีตำรวจ สภ.ละงู มาตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป

>> เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ถนนพุทธมณฑลสาย 3

20.31 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนพุทธมณฑลสาย 3 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวคอนกรีต 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง ภายในห้องนอน เพลิงลุกไหม้เสียหายเครื่องรับโทรทัศน์ ลุกลามชั้นวางเครื่องรับโทรทัศน์และเครื่องปรับอากาศ พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 2 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายควัน

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรที่เครื่องรับโทรทัศน์ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยหนองแขม

>> เพลิงไหม้บ้าน ซอยประชาอุทิศ 58/1 ย่านทุ่งครุ รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบก่อนจะลุกลาม

22.01 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ซอยประชาอุทิศ 58/1 ถนนประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวคอนกรีต 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง ภายในห้องครัว เพลิงลุกไหม้เสียหายเครื่องต้มน้ำชงกาแฟ ลุกลามอุปกรณ์เครื่องครัว ตู้เย็น เครื่องเสียง เครื่องปรับอากาศ พัดลม และฝ้าเพดาน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 10 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรที่เครื่องต้มน้ำชงกาแฟ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยทุ่งครุ

>> เพลิงไหม้รถยนต์ บริเวณสี่แยกถนนอุทยาน

23.47 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ บริเวณสี่แยกถนนอุทยาน แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนิดเก๋ง สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายสายไฟฟ้าบริเวณห้องเครื่องยนต์ ประชาชนใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายความร้อน

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรที่แบตเตอรี่รถยนต์ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยทวีวัฒนา

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สวพ.FM91

"มาริษ" เผยความคืบหน้าฟ้องกัมพูชา อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และศึกษาเคสตัวอย่างจากคดีที่ประสบความสำเร็จ

22 นาทีที่แล้ว

"ภูมิธรรม" เดินทางไปปฏิบัติราชการติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่จังหวัดสุรินทร์

52 นาทีที่แล้ว

ขบวนรถด่วนพิเศษขบวนที่ 38/46 (สุโหงโกลก - กรุงเทพอภิวัฒน์) คันที่ 10-12 ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

CAAT ประกาศผ่อนปรนเฉพาะโดรนเกษตร 11 ส.ค. เป็นต้นไป ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสังคมอื่นๆ

ทหารจับกุม 6 คนไทย ลักลอข้ามแดนไปทำงานบ่อนคาสิโนฝั่งปอยเปต

77kaoded

ชูวิทย์ แฉหมาก ฮุนเซน ยิงทีเดียว หวังล้มรัฐบาลไทย

สยามนิวส์

พิษเศรษฐกิจเล่นงาน แรงงานกัมพูชาอยู่บ้านไม่มีงานทำ 17 ชีวิต หนีความยากจน ลอบเข้าไทยทั้งครอบครัว

77kaoded

ทนายเกิดผล มองหมอบี โยนความผิดให้เจ้าอาวาส ด้านตำรวจเร่งตรวจสอบเอกสาร

สยามนิวส์

หนุ่มบังกลาเทศ ถูกแก๊งสาวชายหาดอุบายเข้าห้อง ก่อนรุมทำร้าย กวาดเงินเกลี้ยงตัว

77kaoded

ด่วน! เกิดเหตุรถไฟตกราง มีผู้โดยสารบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.แล้ว

สยามนิวส์

ข้าวไทยไม่สดใส “ภาษีสหรัฐ–ข้าวอินเดีย” กระหน่ำ ราคาดิ่ง

ฐานเศรษฐกิจ

เช็กเงื่อนไข กพท.ผ่อนปรนเฉพาะ "โดรนเกษตร" เริ่ม 11 ส.ค.นี้

Thai PBS

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...