โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

เปิดชีวิต ต่าย อรทัย เกือบไม่ถึงฝัน! ถ้าไม่เป็นนักร้องก็คงเป็นสาวโรงงาน

The Bangkok Insight

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • The Bangkok Insight

เปิดชีวิต ต่าย อรทัย เกือบไม่ถึงฝัน! ถ้าไม่เป็นนักร้องก็คงเป็นสาวโรงงาน เคยทัวร์หนักจนต้องแอดมิด รพ.

เปิดหมดเปลือกต่าย อรทัย ศิลปินลูกทุ่งชื่อดังในรายการ เบิ้ล AM เล่าเส้นทางชีวิตและการทำงานในวงการเพลง จากสาวโรงงานสู่ตำนานดอกหญ้าในป่าปูนที่สร้างปรากฏการณ์ยอดขายถล่มทลาย เคยทัวร์หนักจนต้องแอดมิด รพ. รวมถึงความผูกพันที่ลึกซึ้งกับคุณยายที่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในชีวิต ก่อนจะก้าวสู่ศิลปินที่คนทั้งประเทศรัก

ต่าย อรทัย

เปิดชีวิต ต่าย อรทัย เกือบไม่ถึงฝัน! ถ้าไม่เป็นนักร้องก็คงเป็นสาวโรงงาน

พื้นเพเป็นคนจังหวัดไหน?

พี่ต่ายเป็นคนบ้านคุ้มแสนชะนี ตำบลพรสวรรค์ อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี บ้านติดชายแดนเลย

รักในการร้องเพลงตั้งแต่เด็กเลยไหม?

ตอนอยู่ประถมเลย ช่วงประมาณ ป.5-ป.6 เวลากิจกรรมนักเรียนช่วงว่าง ครูก็จะรู้ว่าพี่ต่ายร้องเพลงได้ ท่านก็จะบอกออกมาร้องให้เพื่อนฟังหน่อย ในหมู่บ้านก็จะชื่นชมว่าเราเสียงดี ครูก็จะได้ยินแล้วก็ให้ออกมาทำกิจกรรมประมาณนี้แหละ ซึ่งเราก็ไม่ได้เป็นคนที่มีความมั่นใจนะ แต่ว่าในเรื่องของการร้องเพลงมั่นใจสุด มากกว่าเรื่องอื่นๆ

แล้วได้ไปทางประกวดด้วยไหม?

ตอนเด็กๆ ไม่เลย แต่ว่าพยายาม ใช้คำว่าพยายามยามแล้วกัน เพราะว่าทางบ้านมันก็จะไม่ค่อยมีเวทีให้เราไปแสดงความสามารถ หรือว่าเก็บเกี่ยวประสบการณ์เหมือนสมัยปัจจุบันนี้ แล้วบ้านก็อยู่ชายแดนด้วย เวทีประกวดมันจะอยู่ในเมืองส่วนหลาย ถ้าไม่ใช่เสาร์-อาทิตย์ เราก็จะไม่มีโอกาส เพราะเราก็ต้องไปโรงเรียน

มาเริ่มจริงๆ ตอนมัธยมแล้ว แต่ตอนประถมมีแค่ร้องกิจกรรมในโรงเรียนเท่านั้น ม.ต้น จำได้ว่ามันมีบุญผ้าป่าอยู่บ้านโนนแดง แล้วก็มีคณะหมอลำ เราก็ไปร่วมบุญผ้าป่าปกติ แล้วเราก็อยากไปร้องเพลง เขาก็กำลังเฟ้นหานักร้อง อยากได้นักร้องไปเดินสายด้วยในวง เราก็ไปลองแต่ว่าก็ไม่ได้ชนะหรอก

แล้วก็มาเริ่มประกวดจริงจังคือเป็นตัวแทนของโรงเรียนนาจะหลวย แล้วก็ไปเป็นปีแรกประมาณ ม.4 ไปปีแรกแพ้ ปีที่ 2 ก็ไปอีกเป็นตัวแทนอีกก็ยังแพ้อีก แล้วปีที่ 3 เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ชนะ สุดของความดีใจมากๆ ซึ่งปีแรกปีที่สองที่เราไปประกวดได้เจอ ดอกอ้อ ทุ่งทอง ด้วย

มีไอดอลทางเสียงที่ทำให้เราอยากร้องเพลงไหม?

สมัยก่อนเราจะได้ฟังเพลงส่วนหลาย ก็เป็นวิทยุ ที่ฟังแล้วรู้สึกแบบชื่นชอบมากๆ ก็จะเป็นเสียงของแม่ฮันนี่ ศรีอีสาน “น้ำตาหล่นบนที่นอน” นั่นแหละ ทำไมเสียงดีจัง ด้วยความที่เพลงมันดังด้วย ตอนนั้นรู้สึกว่าอยากเป็นนักร้องคือแม่ฮันนี่ แล้วก็มีพี่จินตหรา มีพี่นาง ศิริพร ที่เพลงดังๆ ก็จะได้ยินตั้งแต่เด็กมาตลอด

เป็นนักร้องปีไหน?

ปลายปี 44 พี่ต่ายเริ่มเข้าแกรมมี่แล้ว เพลงดอกหญ้าในป่าปูน มันปล่อยช่วงปี 2546 ตอนเป็นศิลปินฝึกหัด ก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะมาได้ไกลขนาดนี้ เพราะว่าครูเอง ค่ายเอง ผู้ใหญ่ หรือทีมงาน ไม่มีใครบอกเราได้สักคนเลย แต่เพียงแค่เรามีความรู้สึกว่าเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง อยู่ดีๆ แล้วได้เข้ามา ต่อให้ไม่ดังก็ตาม แต่ได้รับโอกาสแบบนี้

สมัยนั้นโทรศัพท์ก็ยังไม่มี และก็ยังไม่ได้มีรายได้ ต้องหยิบยืมผู้จัดการ หรือว่าค่ายแบบซัพพอร์ตเราก่อนแล้วก็มาคืนที่หลัง สู้ไปก่อน เขาให้ไปเรียน พี่ต่ายก็ไป กลับมาห้องนอนร้องไห้ทุกวัน คิดถึงยาย (น้ำตาซึม) ทั้งเป็นศิลปินฝึกหัดไปด้วย แล้วก็ต้องทำอัลบั้มเพลงให้เสร็จใน 1 ปีนั้น

ต่าย อรทัย

มีอัลบั้มไหนที่คิดว่าทำงานหนักจนคิดว่าจะไปต่อได้ไหมหลังจากนี้ไป?

อัลบั้มชุดที่ 5 ด้วยความที่เราทัวร์แบบนั้นมาตลอด แล้วการจัดตารางชีวิตไม่ได้ดี ทำให้มีผลต่อเสียง มีผลต่อการพักผ่อน มีผลต่องานต่างๆ แล้วเราจะน็อก ชุดที่ 5 ชุดที่ 6 คือพลังก็ไม่มี จำคำหนึ่งที่พี่นางศิริพรพูดได้เลย ….บอกอีหล่าเอื้อยคือฟังเสียงโตแล้วเอื้อยคือบ่ม่วนน้อ คือเป็นบ่มีอารมณ์เพลง รู้สึกบ่ม่วน บ่มีความสุขเลย เลยกลายเป็นว่าก็ต้องเข้าโรงพยาบาลถึงขนาดแอดมิดเลย

จำได้ว่างานคอนเสิร์ตเป็นงานสินค้าตัวหนึ่ง แล้วมันก็ต้องทัวร์แบบถี่ยิบๆ เลย รวมถึงงานจ้างอื่นๆ ก็ไปสลับกัน แล้ววันนั้นคือลงเวทีปุ๊บก็ต้องไปโรงพยาบาล จากวันนั้นมาไม่เอาอีกเลย ก็คือเปลี่ยนตารางชีวิตใหม่ นอนพักผ่อน รับงานให้พอดี ออกกำลังกาย จนถึงปัจจุบัน

ถ้าวันหนึ่งเราไม่ได้เป็นต่าย อรทัย แล้วมีแผนสำรองไหมว่าถ้าไม่ได้เป็นนักร้องจะเป็นอะไร?

ไม่รู้เลย เพราะว่าก็ด้วยความที่เราเป็นเด็กต่างจังหวัด หมายถึงการจัดระเบียบในความคิดหรือแผนชีวิตอะไรต่างๆ มันก็ยากอยู่นะ พ่อแม่เราลูกชาวไร่ชาวนา เขาก็ไม่ได้มีชุดความคิดแผน 1 แผน 2 แผน 3 ให้เรา รู้แค่ว่าเรียนต่ออยู่เมืองอุบลไม่ได้ มันก็ต้องมาสู้งานในกรุงเทพฯ แค่นั้น

แล้วงานอะไรล่ะ เราจบเพียงแค่ ม.6 ตอนนั้น ก็คือมาทำงานโรงงาน เป็นสาวโรงงานมาก่อน พี่ต่ายถึงได้แบบรู้สึกเข้าใจเวลามีกิจกรรมไปโรงงานจะคิดถึงตลอด เพราะว่าหลายเดือนที่อยู่ตรงนั้น คือเราเข้าใจความยากลำบาก อยู่ห้องเช่า แล้วเรามีความรู้สึกว่าถ้าวันหนึ่งไม่ได้เป็นนักร้อง ก็อาจจะยังทำงานอยู่ในโรงงานเหมือนเดิม ถ้าวันนี้ไม่ได้เป็นนักร้องก็อาจจะแต่งงานมีครอบครัว ยังเป็นสาวโรงงานอยู่ก็ได้แค่นั้นเอง

แล้วตอนนี้มีสเปกผู้ชายแบบไหน มีแฟนหรือยัง?

ไม่มีเลย เอาจริงๆ เคยมี ก็หลายปีแล้วที่พี่ต่ายเลิก อันนั้นก็มีลงโซเชียล แต่แค่เราไม่ได้ลงว่ากับใคร เราก็ไม่ใช่คนที่จะไปเปิดเผยเรื่องส่วนตัว

มียายเป็นกำลังใจและมีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้ประสบความสำเร็จ?

เยอะเลย เพราะว่าพ่อกับแม่เขาแยกกันตอนพี่ต่ายอายุ 11-12 ปี คือก็เด็กมาก แล้วเป็นช่วงที่กำลังจะเข้าสู่วัยรุ่น มีคำถามในหัวมากมาย ทำไมเราถึงไม่เหมือนคนอื่น ทำไมพ่อกับแม่ต้องเลิกกัน แต่ว่าสุดท้ายเราก็ไม่ได้คำตอบหรอก ตั้งแต่พี่ต่ายจำความได้ก็เห็นคุณยายเลย พอพ่อกับแม่เลิกกันปุ๊บไปกลายเป็นคุณยายมาตลอดจนถึงวันสุดท้ายที่ยายจากไป มันก็คือมียายทั้งชีวิต

ไม่ได้หมายความว่าเราลืมพ่อแม่นะ เรามีชีวิตที่อบอุ่นอยู่ช่วงหนึ่ง เขาก็ไม่ได้ทิ้งลูกหรอก เพียงแค่ว่าเราแค่ขาดความอบอุ่นที่พ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยแค่นั้นเอง เขาก็ใช้การดูแลโดยวิธีอื่น แต่จริงๆ ก็ไม่เคยขาดจากความรักของยาย ของป้า ของลุง ของญาติๆ ที่อยู่รอบข้าง พี่ต่ายคิดว่ายายเอย ครอบครัวเอย ที่อยู่ข้างๆ น่ะ คือทุกคนคอยหล่อหลอม ไม่ให้เราหลุดก็เลย ยายนี้คือพอจะพูดถึงพี่ต่าย (เสียงสั่นน้ำตาซึม) เป็นแบบนี้ตลอด

อะไรที่ทำให้ ต่าย อรทัย อยู่คู่วงการบันเทิงมาถึงยุคปัจจุบันนี้?ต่าย อรทัย : รู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่เราคนเดียว มันมีหลายอย่างที่เป็นองค์ประกอบถึงทำให้มีชื่อต่าย มีเส้นทางที่มันยาวมาได้ขนาดนี้ อันดับแรกมันคือโอกาส มันคือเรื่องเล่าในชีวิต แม้แต่ตัวเราเอง

แล้วก็เรื่องราวของผลงานเพลงที่มันตอบโจทย์ ครูบาอาจารย์ ทีมงานทุกคน คนที่สนับสนุนเรา อยากให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นทุกๆ ส่วนเลย รู้สึกว่าถ้าไม่มีคนเหล่านั้น ยากเลยที่จะมีเราในวันนี้ ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำของทุกคนที่ติและชมมาตลอด ที่ยังอยากให้เราอยู่ตรงนี้นาน ๆ

ต่าย อรทัย
ต่าย อรทัย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Bangkok Insight

ใช้ซัมซุงอ่านด่วน! เปิด 3 ทางเลือก เยียวยาจอมือถือ 11 รุ่นมีอาการเส้นแนวตั้ง เริ่ม 21 ส.ค.นี้

15 นาทีที่แล้ว

ดาบพิฆาตอสูร ทำรายได้ทะลุ 100 ล้าน! หลังเข้าฉายในไทยไม่ถึง 3 วัน

41 นาทีที่แล้ว

กรมทรัพยากรน้ำ จ่อชงครม. 173 ล้าน สร้าง 4 ม่านน้ำดักตะกอน แก้ปนเปื้อนแม่น้ำกก-สาย

43 นาทีที่แล้ว

‘รัฐบาล’ อัดงบ 4.4 หมื่นล้าน! เคาะมาตรการช่วยชาวนา สั่งเร่งจ่าย ก.ย. นี้

53 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความบันเทิงอื่น ๆ

อินฟลูดัง เเชร์อุทาหรณ์ ใช้หม้อแก้วอุ่นแกง แตกกระจาย

TeeNee.com

“ต่าย อรทัย” เปิดใจเล่าเส้นทางชีวิต ที่เกือบไม่ถึงฝัน จากสาวโรงงานสู่ตำนานดอกหญ้าในป่าปูน

มาดามเม้าท์

ช็อก! แหม่ม อลิษา ตรวจเจอ “มะเร็งปอด” รอทำ TC แสกน แฟนๆ แห่ส่งกำลังใจ

Thaiger

เจนนี่ รัชนก เชือดนิ่มชาวเน็ตแซะอวดรวย-ไม่มีปัญญาใช้หนี้ให้แม่ ลั่น!เจอกันที่ศาล

ไนน์เอ็นเตอร์เทน
วิดีโอ

“เจนนี่” เดือด! หลังถูกคอมเมนต์แรง ปมแม่ติดหนี้ “เนเงิน” ลั่นเจอกันที่ศาล

WeR NEWS

กินข้าวเที่ยงทีไร ทำไมง่วงกว่ามื้ออื่น ๆ! เพราะอะไรนะ?

สยามรัฐวาไรตี้

ยิว ฉัตรมงคล สามีเจนนี่ เคลื่อนไหวแคปชั้นสั้นๆแต่ทำเอาแฟนๆแห่ชื่นชม พร้อมฟาดถึงชาวเน็ตด่าแรงภรรยา ปมดราม่ายืมเงิน

News In Thailand

LISA ปล่อยภาพยนตร์สั้น “Dream” แสดงประกบคู่กับนักแสดงญี่ปุ่น Kentaro เคมีสุดลงตัว

Khaosod

ข่าวและบทความยอดนิยม

กิ๊ก สุวัจนี ใครจะเชื่อเลข 5 แล้ว ภาพล่าสุดหวานละมุน สวยผอมเป๊ะสุด

The Bangkok Insight

เริ่ดจริง! จอย รินลณี ปลูกสิ่งนี้ กลางกรุงเทพฯ 3 ปีได้กินแล้ว

The Bangkok Insight

ดาราหนุ่มเสียงดี เจอวิกฤตงานขาดมือ อยู่ในวงการมา 15 ปี

The Bangkok Insight
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...