โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

สรุปคดีคลิปเสียง “แพทองธาร-ฮุน เซน” สั่นสะเทือนเก้าอี้นายกฯ

THE ROOM 44 CHANNEL

เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สรุปคดีคลิปเสียง “แพทองธาร-ฮุน เซน” สั่นสะเทือนเก้าอี้นายกฯ
จากรณี คลิปเสียงดังกล่าวซึ่งเป็นคลิปเสียงของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยพูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ซึ่งมีบางช่วงบางตอนที่ระบุว่าแม่ทัพภาคสองเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลรวมถึงกรณีที่มีการประณีประนอมให้กับฝ่ายกัมพูชา อย่างมาก ถึงขั้นว่า “อยากได้อะไรขอให้บอก” ทำให้เกิด กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างหนักรวมถึงเกิดการขับไล่รัฐบาลของกลุ่มที่เรียกว่ากลุ่มพลังปกป้องอธิปไตยไทยหลายครั้ง

ซึ่งผู้ที่ปล่อยคลิปเสียงนี้ออกมาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นคู่สนทนาตรงข้ามอย่างสมเด็จฮุน เซน ที่เป็นคนปล่อยคลิปเสียออกมาเองเพื่อที่จะดิสเครดิต นางสาวแพทองธาร ซึ่งก็ถือว่าได้ผลเพราะหลังจากเกิดเรื่องก็มีกลุ่ม 36 วุฒิสภายื่นคำร้องถึงศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยในมาตรฐานจริยธรรมของนางสาวแพทอฝธาร ซึ่งขัดต่อจริยธรรมร้ายแรงในมาตรา 160 (4) เรื่องการขาดคุณสมบัติในการซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และ(5) การฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง รวมไปถึง มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวเมื่อขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม ซึ่งจะทำให้นางสาวแพทองธาร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปโดยทันที กรณีนี้จะคล้ายคลึงกับกรณีที่อดีตนายกเศรษฐา ทวีสิน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งจากกรณีที่แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายก ขึ้นเป็นรัฐมนตรีเนื่องจากเคยต้องโทษมาก่อน โดยปัจจุบันศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีลงชั่วคราว แต่ยังดำรงไว้ซึ่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการเสนอขึ้นทูลเกล้าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ก่อนการรับคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

ทั้งนี้ยังไม่ได้มีเพียงแค่ในศาลรัฐธรรมนูญอย่างเดียวแต่ยัง อีกเรื่องอยู่ในชั้นสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีที่ประธานวุฒิสภาได้ยื่นหนังสือถึงป.ป.ช. ขอให้ไต่สวนว่ามีความทุจริตต่อหน้าที่หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายและฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์แต่งตั้งองค์คณะไต่สวนกรณีดังกล่าว โดยมีประธานป.ป.ช.ร่วมเป็นองคณะด้วย ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายอีกศาลหนึ่งซึ่งจะเป็นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

โดยนักวิชาการบางส่วนก็มีความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ว่าเป็นกรณีร้ายแรงที่อาจจะทำให้ นายกรัฐมนตรีต้องสิ้นสภาพจากการเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเพราะข้อกล่าวหาที่รุนแรง

ซึ่งทางนักวิชาการอย่างอาจารย์วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ก็วิเคราะห์แนวทางของนายกรัฐมนตรีว่าอาจจะต้องเหนื่อยหรือมีแนวโน้มที่ผลจะออกมาเป็นลบมากกว่า

ซึ่งในการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็จะต้องไปดูพยานหรือหลักฐานที่ฝั่งนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ยื่นชี้แจงเพราะก่อนหน้านี้มีมติ 9:0 รับคำร้องและมีมติ 7:2 สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ลงชั่วคราวนั้น ก็มีคำสั่งให้นำหลักฐานเข้าชี้แจงภายในเวลา 15 วันก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะขอเลื่อนออกไปอีก 15 วันรวมเป็นหนึ่งเดือนพอดี และศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งขีดเส้นให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา

ภายหลังจากที่ศาลรับธรรมนูญ มีมติให้นางสาวแพทองธารหยุดปฎิบัติหน้าที่ลงชั่วคราว เจ้าตัวได้ออกมา แถลงข่าวแสดงการขอโทษของประชาชน ว่าการกระทำดังกล่าวนั้นตนพยายามพิสูจน์ว่าให้เป็นความตั้งใจเป็นความพยายามที่จะทำ เพื่อประเทศชาติและไม่ให้เกิดการสู้รบกันโดยเสียเลือดเสียเนื้อเพียงเท่านั้น

โดยแนวทางที่คาดว่านางสาวแพทองธารจะ ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้นเป็นไปได้ถึง 3 แนวทาง คือ
1.รอด วินิจฉัยให้การกระทั่งดังกล่าวไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญเนื่องจากเป็นการเจรจาเพื่อรักษาผลประโยชน์ชาติ
2.ไม่รอด การกระทำดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างร้ายแรง ในมาตรา 160 (4) (5) และมาตรา 170 (4) ซึ่งจะทำให้ควทมเป็นรัฐมนตรีตรสิ้นสุดลง ทั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
3.นายกฯ ลาออก ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องไม่พิจารณา

คาดการณ์กันว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีการหารือกันในวันที่ 13 ส.ค. ที่จะถึงนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาลว่าจะมีการวินิจฉัยออกมาในแนวทางไหนรวมถึงสมาชิกภาพการเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร จะยังคงอยู่หรือไม่ และส่งผลอย่างไรต่อศักยภาพรัฐบาลในภายภาคหน้า

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก THE ROOM 44 CHANNEL

“ภูมิธรรม" ลั่น ก็จบ!! หลัง ยืนยันแล้ว "แม่ทัพภาค 2" ไม่ได้พูดยึดประสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา

23 นาทีที่แล้ว

'ภูมิธรรม' บอก จบนะ 'แพทองธาร' ไม่เคยพูดลาออก

56 นาทีที่แล้ว

กองปราบฯ เร่งสอบ "หมอบี" ปมเงินวัดพระบาทน้ำพุ ไม่รอแจ้งความ หากพบความผิด

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ฮือฮาทั้งงาน “จ๋าย ไททศมิตร” ใส่เสื้อ Nirvana STAFF ปี 1991 ตัวละ 1.35 ล้าน ขึ้นคอนเสิร์ต

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

“ภูมิธรรม” บอก รอเรื่องเพิกถอนที่ดินเขากระโดงจบก่อน ค่อยพูดเรื่องจ่ายเยียวยา

สยามรัฐ

“ภูมิธรรม" ลั่น ก็จบ!! หลัง ยืนยันแล้ว "แม่ทัพภาค 2" ไม่ได้พูดยึดประสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา

THE ROOM 44 CHANNEL

20 บาทตลอดสาย วิธีคิดแบบเพื่อไทย หวังแก้ปัญหาเรื้อรังจากรัฐบาลก่อน

The Momentum

ภูมิธรรม เปิดงาน ‘ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP 2568’ ชูสร้างรายได้-ยกระดับคุณภาพชีวิต

Khaosod

'ภูมิธรรม' ลั่นจบตามนั้น หลังกองทัพยืนยัน แม่ทัพภาค2 ไม่ได้พูดยึดปราสาทตาควาย เผยเล็งปิด ศบ.ทก.

Khaosod

รัฐบาลย้ำไทยไม่เคยมีระเบิด MK 84 ทหารไทยโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น

TNN ช่อง16

ข่าวและบทความยอดนิยม