กองปราบฯ เร่งสอบ "หมอบี" ปมเงินวัดพระบาทน้ำพุ ไม่รอแจ้งความ หากพบความผิด
กองปราบฯ เร่งสอบ "หมอบี" ปมเงินวัดพระบาทน้ำพุ ไม่รอแจ้งความ หากพบความผิดพร้อมดำเนินคดีทันที
วันที่ 11 ส.ค.68 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสอบสวนกรณี “หมอบี” และความเกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุว่า ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับการกองปราบปรามให้ดำเนินการประชุมร่วมกับทีมสืบสวนเพื่อกำหนดแนวทางสอบสวนในคดีดังกล่าว โดยไม่จำเป็นต้องรอการแจ้งความจากทางวัด
พ.ต.อ.เอนก เปิดเผยว่า ขณะนี้พบข้อเท็จจริงในคดีมีความเชื่อมโยงขยายออกไปมากขึ้น โดยเฉพาะประเด็นเงินบริจาคที่อาจถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งผู้บัญชาการกองปราบปรามให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของประชาชนที่ร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้ยากไร้ และการสนับสนุนภารกิจของวัด
เบื้องต้นพบพฤติกรรมบางอย่างที่อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งกองปราบสามารถดำเนินการได้ทันทีหากพบพยานหลักฐานที่ชัดเจน โดยหนึ่งในประเด็นที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ คือ การฉ้อโกงประชาชน และการฟอกเงินจากการรับบริจาค
พ.ต.อ.เอนก เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เตรียมเรียกกลุ่มผู้บริจาคที่เคยโอนเงินให้วัดพระบาทน้ำพุ โดยเฉพาะผ่านบัญชีของหมอบี เพื่อสอบถามว่าทราบหรือไม่ว่าเงินดังกล่าวถูกนำไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตรวจสอบบัญชีการเงินของหมอบี พร้อมทั้งวิเคราะห์เส้นทางการเงินอย่างละเอียด รวมถึงประเด็นการโอนย้ายทรัพย์สินที่อาจเข้าข่ายการฟอกเงิน โดยระบุว่า หากพบผู้ที่รับโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว อาจเข้าข่ายกระทำผิดฐานฟอกเงินด้วย
นอกจากนี้พบว่า บางโครงการของวัดมีการเปิดรับบริจาคในวัตถุประสงค์หนึ่ง แต่เมื่อออกใบอนุโมทนา เงินกลับไปใช้อีกวัตถุประสงค์หนึ่ง ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการทุจริต โดยกำลังตรวจสอบว่ามีใครเกี่ยวข้องหรือไม่ และเหตุใดจึงนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และหนึ่งในประเด็นสำคัญ คือ การตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับหมอบี ทั้งที่ดิน บ้าน รถยนต์ และบัญชีธนาคาร โดยเฉพาะที่ดิน 2,000 ไร่ที่ถูกเปิดเผยผ่านสื่อว่าไม่ได้อยู่ในชื่อวัด แต่เป็นชื่อของหญิงสาวที่สนิทกับเจ้าอาวาส ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีการครอบครองแทนหรือไม่
พ.ต.อ.เอนก ยืนยันว่า หากทรัพย์สินเหล่านี้ไม่ใช่ของวัดจริงตามวัตถุประสงค์ของการบริจาค และมีหลักฐานว่าถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ก็สามารถดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และฟอกเงินได้
ในวันเดียวกัน หมอบีได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่เพื่อให้ข้อมูลและนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจง เบื้องต้นยังไม่มีการออกหมายเรียกหรือหมายจับใดๆ โดยอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้รอบคอบ เนื่องจากคดีมีรายละเอียดมาก และย้อนไปตั้งแต่ปี 2562 รวมระยะเวลากว่า 6 ปี
พ.ต.อ.เอนก ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดได้ เนื่องจากบางประเด็นยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ และอาจมีผลกระทบต่อผู้เกี่ยวข้อง จึงขอความร่วมมือประชาชน หากมีเบาะแส หรือข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต หรือความผิดในคดีนี้ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อช่วยกันตรวจสอบให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม เนื่องจากเงินบริจาคจำนวนมากมาจากศรัทธาของประชาชน หากมีการนำไปใช้ผิดทาง ย่อมกระทบต่อความเชื่อมั่นของสังคมโดยรวม