ธุรกิจโรงแรมขอแค่ตัดสินคดีนายกชัดเจน หนุนเดินหน้าต่อ เชื่อไม่ถึงขั้นยุบสภา
ธุรกิจโรงแรมขอแค่ตัดสินคดีนายกชัดเจน หนุนเดินหน้าต่อ เชื่อไม่ถึงขั้นยุบสภา
นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า ความชัดเจนคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญในคดีความของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ถูก ส.ว.ร้องเรียนปมคลิปเสียงเจรจากับนายฮุน เซน บิดานายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงนั้น ไม่ว่าผลจะออกมาในด้านใด ถือว่าดี เพราะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ควรหยุดปฏิบัติหน้าที่ ควรต้องมีผู้ทำหน้าที่นายกไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แต่ต้องทำงานแบบ 100% และหากนางสาวแพทองธาร หลุดจากตำแหน่งด้วยคำตัดสินของศาล ก็จะเข้าสู่กระบวนการสรรหาทางสภา ซึ่งหากพรรครัฐบาลเดิมยังจับมือกันอยู่ ก็เป็นข้อกังวลในเรื่องของเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งมีผลต่อการบริหารงานในอนาคต ที่อาจทำงานได้ลำบากเพราะต้องคอยนับองค์ประชุม หรือต้องนับคะแนนเสียงต่างๆ
“คิดว่าคงไม่มีการยุบสภาในช่วงนี้ ยกเว้นเกิดกรณีที่มีเหตุจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวนายก ทุกคนก็พยายามรับรู้ว่าต้นปี 2569 อาจต้องมีการยุบสภา ซึ่งขณะนี้การพิจารณางบประมาณปี 2569 ผ่านได้แล้ว ก็ถือว่าไม่ได้เป็นความน่ากังวลมากนัก โดยการยุบสภาถือเป็นโอกาสที่จะมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็ขอให้ได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะในทางธุรกิจกับนักธุรกิจด้วยกัน ความมีเสถียรภาพเป็นสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด” นายเทียนประสิทธิ์ กล่าว
นายเทียนประสิทธิ์ กล่าวว่า นโยบายที่ต้องการให้ขับเคลื่อนต่อเนื่องในภาคการท่องเที่ยว เป็นเรื่องวีซ่าฟรี แต่ต้องทบทวนให้เหมาะสมและสอดคล้องกับภาวะในปัจจุบัน อาทิ บางประเทศที่เข้ามาเที่ยวไทย มีจำนวนนักท่องเที่ยวน้อยมาก แต่ก็อยู่ในรายชื่อประเทศที่ได้วีซ่าฟรี ซึ่งมองว่าไม่จำเป็นขนาดนั้น รวมถึงต้องทบทวนจำนวนวันพำนักในประเทศไทยอย่างจริงจัง เพราะการเข้ามาท่องเที่ยว อยู่ในประเทศมากสุดก็ไม่ควรเกิน 14 วัน หรืออาจไปประเมินเป็นรายตลาด อาทิ ยุโรป ที่อยู่เที่ยวไทยเกินค่าเฉลี่ย 14 วัน ก็อนุญาตให้เป็นบางตลาดที่ 21 วันแทน แต่พอเข้ามาพำนักในไทยได้เป็นจำนวนวันที่มากเหมือนในปัจจุบัน ทำให้มีการเข้ามาด้วยจุดประสงค์อื่นมากกว่าการท่องเที่ยว อาทิ เข้ามาทำงานโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยวแทนแบบนี้ ซึ่งไม่ตอบโจทย์วัตถุประสงค์นโยบายวีซ่าฟรี
นายเทียนประสิทธิ์ กล่าวว่า อีกเรื่องที่เป็นห่วงมาก และถือเป็นโอกาสของรัฐบาลใหม่หรือหรือนายกคนใหม่ในการทำงาน คือ ความกังวลเรื่องความปลอดภัยของไทย ตอนนี้ถือว่าแย่มากในทุกประเทศที่มองเข้ามา อาทิ มีข้อมูลการสำรวจจากบริษัทในจีน เป็นตลาดการท่องเที่ยวเชิงประชุม สัมมนา (ไมซ์) ทุกหัวข้อ ทุกกลุ่มธุรกิจ สรุปผลว่า มีความกังวลเรื่องความปลอดภัยในการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นหลัก รวมถึงอยากให้มีการทำแพลตฟอร์มที่ลิสต์รายชื่อผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อาทิ โรงแรม บริษัททัวร์ เช่ารถ สถานที่จัดงานอีเวนต์ สามารถการันตีความปลอดภัยได้แบบ 100% ซึ่งทุกวันนี้ยังไม่มีการการันตีแบบนั้น
นายเทียนประสิทธิ์ กล่าวว่า ยกตัวอย่างธุรกิจโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาต มีประมาณ 14,000-15,000 รายทั่วประเทศ แต่ในแพลตฟอร์มจองออนไลน์ (โอทีเอ) มีขายกว่า 80,000 ราย ซึ่งกรณีแบบนี้นักท่องเที่ยวไม่ไว้ใจแน่นอน โจทย์ตอนนี้คือ รัฐบาลจะต้องมีหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้จริงๆ เข้าไปตรวจสอบความถูกต้องของสถานประกอบการโรงแรมที่พักที่เปิดให้บริการนักท่องเที่ยว ว่ามีใบอนุญาตตามกฎหมายหรือไม่ หากไม่มีก็ต้องปิดไปไม่สามารถประกอบกิจการได้ แต่ประเทศไทยในปัจจุบันต้องยอมรับ แม้ไม่มีใบอนุญาตก็สามารถประกอบธุรกิจได้ตามปกติ ทั้งที่ความจริงไม่สามารถทำได้ และอีกเรื่องคือ รัฐบาลต้องทำอะไรให้ผู้ประกอบการที่อยู่นอกระบบ มีความพยายามอยากจะเข้ามามีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย แต่ทุกวันนี้เนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายยังไม่ได้เข้มแข็งเท่าที่ควร ทำให้ธุรกิจเถื่อนต่างๆ ไม่ต้องดิ้นร้นทำถูกต้องก็ได้ เพราะอย่างไรก็ทำธุรกิจได้อยู่ดี
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ธุรกิจโรงแรมขอแค่ตัดสินคดีนายกชัดเจน หนุนเดินหน้าต่อ เชื่อไม่ถึงขั้นยุบสภา
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th