โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา สูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ-พลังงาน 3 แสนล้านดอลลาร์

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 29 ส.ค. เวลา 00.15 น. • เผยแพร่ 29 ส.ค. เวลา 06.55 น.

Krungthai COMPASS ชี้ให้เห็นว่า การปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาทั้งหมดจะทำให้ มูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาหายไปราว 14,011 ล้านบาทต่อเดือน โดยมูลค่าการส่งออก ชายแดนหายไปราว 11,410 ล้านบาทต่อเดือน และมูลค่าการนำาเข้าชายแดนหายไปราว 2,601 ล้านบาทต่อเดือน และความเสียหายด้านการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวกัมพูชาที่เข้ามาในไทยที่ลดลง และจากนักท่องเที่ยวไทย และต่างชาติที่ ไม่สามารถไปท่องเที่ยวใน 4 จังหวัดที่มีการปะทะกันได้ คาดมีมูลค่าอย่างน้อยราว 2,970 ล้านบาทต่อเดือน

นอกจากนี้ หากสถานการณ์ยกระดับความรุนแรง และขยายวงกว้างขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยที่เข้าไปทำธุรกิจในกัมพูชา จากปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 100 ราย คิดมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท โดยธุรกิจที่อาจได้รับผลกระทบสูง เช่น ธุรกิจเครื่องดื่ม และ ค้าปลีก เป็นต้น

ขณะที่นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สะท้อนว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ยังไม่สามารถยุติลงได้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการค้าชายแดน โดยในเดือนมิถุนายน 2568 มีมูลค่าลดลงราว 10,907.53 ล้านบาท ซึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญที่ 32.29% เทียบกับเดือนพฤษภาคม 2568 และลดลง 23.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากกรณีปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาทั้งหมด จะส่งผลให้มูลค่าการค้าชายแดนที่หายไปประมาณ 15,000-17,000 ล้านบาทต่อเดือน และหายืดเยื้อราว 1 ปี จะสร้างความเสียหายเชิงโครงสร้างต่อเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ การค้าชายแดนอาจลดลงถึง 150,000-170,000 ล้านบาทคิดเป็นเกือบ 60% ของการค้าระหว่างประเทศทั้งหมด

อีกทั้งไทยมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดในกัมพูชาสำหรับสินค้าบางรายการให้กับคู่แข่งในภูมิภาค เช่น จีนหรือเวียดนามอย่างถาวรสิ่งนี้เน้นยํ้าถึงความเสี่ยงที่จะเกิดการขาดทุนเชิงกลยุทธ์ในระยะยาว ซึ่งยากที่จะแก้ไขได้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว นอกจากนี้ นักลงทุนไทยอาจถูกบังคับให้ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น หรือถอนการลงทุนบางส่วนออกจากกัมพูชา

ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 มูลค่าการค้าระหว่างไทยและกัมพูชารวมประมาณ 95,000 ล้านบาทหากพิจารณาให้ละเอียดยิ่งขึ้นการนำเข้าของไทยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 22,000 ล้านบาท ขณะที่การส่งออกของไทยไปยังกัมพูชามีมูลค่ารวมประมาณ 72,000 ล้านบาท การลดลงอย่างรวดเร็วที่เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน โดยการค้าชายแดนลดลงประมาณ 30% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

ส่วนผลกระทบด้านแรงงาน รศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอาเซียน ได้แสดงฉากทัศน์ ให้เห็นว่า หากความขัดแย้งยืดเยื้อถึง 3 เดือนไทยจะได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานราว 258,904 คน จากการที่ยังไม่สามารถเดินทางกลับมาทำงานได้ กัมพูชาจะสูญเสียรายได้ราว 46,013 ล้านบาท

ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่เพียงสร้างผลกระทบต่อความเสียหายทางเศรษฐกิจดังกล่าวให้กับ 2 ประเทศเท่านั้น แต่จะเป็นการตอกยํ้าถึงความความสัมพันธ์ระหว่างประเทศตามมา โดยเฉพาะการเจรจาในการพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา หรือ Overlapping Claims Area (OCA) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 26,000 ตารางกิโลเมตรในอ่าวไทย ที่มีข้อพิพาททางทะเลยืดเยื้อมานานกว่า 50 ปี อาจจะต้องหยุดชะงักลง และไม่มีทีท่าว่าจะได้ข้อยุติเมื่อใด

ส่งผลให้ทั้ง 2 ประเทศไม่สามารถสำรวจและใช้ประโยชน์ จากสิ่งที่เชื่อกันอย่างกว้างขวางว่าเป็น“แหล่งขุมทรัพย์พลังงาน” ได้ ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นที่คาดว่าจะมีก๊าซธรรมชาติมากถึง 11 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และนํ้ามันดิบประมาณ 300-500 ล้านบาร์เรล เมื่อรวมกันแล้วมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมของทรัพยากรเหล่านี้อาจสูงถึง 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อความคาดหวังไม่เกิดขึ้น จะส่งผลให้ทั้ง 2 ประเทศสูญเสียโอกาสด้านการลงทุน สูญเสียโอกาสในการใช้ประโยชน์จากก๊าซธรรมชาติร่วมกัน โดยเฉพาะประเทศไทยที่ต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในช่วงของการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด และต้องหันไปนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่มีราคาแพงกว่าก๊าซฯในอ่าวไทย ในปริมาณที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน จากค่าไฟฟ้าในอนาคตที่แพงขึ้นตามมา

ดังนั้น ความขัดแย้งชายแดนที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพียงปัญหาความมั่นคง แต่เป็นต้นทุนทางเศรษฐกิจที่สะท้อนความเชื่อมโยงอย่างแนบแน่นของทั้งสองประเทศ ที่ทุกฝ่ายอยากให้ปัญหายุติได้โดยเร็ว และสร้างความชัดเจนให้เกิดขึ้น ก่อนที่ผลกระทบ ทางเศรษฐกิจร้ายแรงจะตามมาในอนาคตที่อาจจะประเมินค่ามิได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 1ก.ย.ที่ระดับ 32.29 บาทต่อดอลลาร์

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ธ.ก.ส.แจงละเอียด โอนเงินไร่ละ 1000 ‘ข้าวนาปี-นาปรัง’ วันไหนบ้าง

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'ภูมิธรรม' จ่อยุบสภาหนีแรงบีบพรรคประชาชน-ตั้งรัฐบาลใหม่แข่งภูมิใจไทย

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไทยอาการโคม่า! 'เอกชน' หวัง ‘นายกฯ-รัฐบาลใหม่’ แก้เศรษฐกิจอันดับแรก

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่นๆ

กรมอุตุฯ เตือน 24 ชม.ข้างหน้า เจอฝนถล่ม พื้นที่สีแดงรับมือหนัก

มุมข่าว

พี่เลี้ยงทำร้ายเด็ก 3 ขวบสาหัส ปวีณาช่วยแจ้งจับ-ส่งรักษา ICU

TNN ช่อง16

ชื่อชมตร.ทท.ขับรถไปงานสถาปนาหน่วย เจออุบัติเหตุรถชนชาวบ้านสาหัส จอดรถลงไปช่วย

Manager Online

บทวิเคราะห์ : การแต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันพิจารณาคดี

Khaosod

ศาลเจ้าแม่ทับทิมหลักสอง (บางแค) จัดงานทิ้งกระจัดแบ่งปันผู้ยากไร้ปีที่ 21

Manager Online

กอ.รมน.สุรินทร์ มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้อพยพกว่า 250 ชีวิต หนีเหตุชายแดนตึงเครียด

เดลินิวส์

ม.เกริกจัดสัมมนาวิชาการหาทางออกให้กับประเทศชาติ-ปฐมนิเทศ นศ.ป.เอก

Manager Online

โปรดเกล้าฯ ศ.นรัตถพล เจริญพันธุ์ เป็นราชบัณฑิต ประเภทวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ

The Bangkok Insight

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...