‘NTT Data Ignite 2025 สัมมนาด้านเทคโนโลยีครั้งสำคัญสู่ความเปลี่ยนแปลง’

NTT DATA ผู้นำระดับโลกด้านธุรกิจดิจิทัลและบริการไอที ได้จัดงานสัมมนา NTT DATA Ignite 2025 มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งนับเป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมสุดยอดผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญด้าน IT จากองค์กรชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรมมาร่วมเปิดเผยกลยุทธ์และแบ่งปันแนวทางการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อขับเคลื่อนอนาคตของการทำงาน ยกระดับการบริหารจัดการประสบการณ์ลูกค้า และสร้างนวัตกรรมอย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง

งานสัมมนาครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ด้วยรูปแบบการจัดงานสามภาษา (ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น) ที่ดึงดูดผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีจากหลายภาคส่วนให้เข้าร่วมงานกว่า 1,300 ท่าน โดยในปีนี้มีจำนวนผู้ลงทะเบียนล่วงหน้าที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงกระแสความสนใจและความตื่นตัวในประเด็นเทคโนโลยีที่กำลังจะมาถึงและโอกาสทางธุรกิจที่ตามมา ตอกย้ำความเป็นเวทีสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้าน AI และเทคโนโลยีในประเทศไทย

นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำประเทศไทย ของ NTT DATA

นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำประเทศไทยของ NTT DATA กล่าวเปิดงานโดยเน้นถึงวิสัยทัศน์ของ NTT DATA ในการขับเคลื่อนอนาคตการพัฒนา IT แบบ Full-Stack เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจของลูกค้ากว่า 5,000 ราย ครอบคลุม 16 อุตสาหกรรมในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะด้าน Data Center ที่ปัจจุบันมีศักยภาพรองรับการใช้งานรวมกว่า 20 เมกะวัตต์ สำหรับปีนี้ ปัจจัยสำคัญที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญคือ Agentic AI ซึ่งถูกจัดเป็นเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์อันดับต้น ๆ ขององค์กรชั้นนำทั่วโลก โดยจะเข้ามาช่วยพัฒนาและปรับปรุงการทำงานใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ 1) ยกระดับการมีส่วนร่วมของพนักงาน 2) เสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า 3) เพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุน และ 4) ปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัย

ทั้งนี้ Agentic AI แตกต่างจากระบบอัตโนมัติแบบดั้งเดิม (RPA) ตรงที่สามารถตัดสินใจและประมวลผลได้อย่างยืดหยุ่นแบบเรียลไทม์ โดยเรียนรู้และปรับตัวตามบริบท ช่วยให้องค์กรทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น เช่น ทำให้กระบวนการสั่งซื้อดำเนินการได้อัตโนมัติเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ NTT DATA ยังได้พัฒนา Smart AI Agent™ Ecosystem เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถออกแบบ บริหารจัดการ และขยายขีดความสามารถของ Agentic AI ได้อย่างมั่นคง พร้อมทั้งทำงานร่วมกับพันธมิตรด้านคลาวด์ระดับโลกอย่าง Microsoft และ Google Cloud เพื่อเร่งผลักดันการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยภายในงานครั้งนี้ NTT DATA ยังได้จัดพื้นที่ Agentic AI Pavilion เพื่อสาธิตและนำเสนอการใช้งานจริงของ Agentic AI ในภาคธุรกิจต่าง ๆ ให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์อย่างใกล้ชิด

นายเดอร์ริก ลอย รองประธานฝ่ายสถาปัตยกรรมองค์กร (ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) NTT Asia Pacific

ด้าน นายเดอร์ริก ลอย รองประธานฝ่ายสถาปัตยกรรมองค์กร (ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) บริษัท NTT Asia Pacific กล่าวว่า การขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้วยเทคโนโลยี AI Transformation ถือเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรในภูมิภาค โดยเฉพาะประเทศไทย สามารถยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน และก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลตามวิสัยทัศน์ Thailand 4.0 ได้อย่างมั่นคง ทั้งนี้ ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ AI Use Cases ที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย ได้แก่

• อุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive Manufacturing) – ใช้ AI วิเคราะห์กระบวนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทาน

• อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (Smart Electronics) – ยกระดับคุณภาพและความแม่นยำในการออกแบบและผลิต

• การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ (Medical & Wellness Tourism) – นำ AI มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยและนักท่องเที่ยวเพื่อมอบบริการเชิงรุกและตรงความต้องการ

• อุตสาหกรรมดิจิทัลและสร้างสรรค์ (Digital & Creative Industries) – ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า (Customer Analytics) เพื่อออกแคมเปญการตลาดและความร่วมมือทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ

• ภาคการธนาคาร (Banking Sector) – นำ AI มาช่วยปรับกระบวนการทำงานเพื่อสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่สามารถวัดผลได้ชัดเจน (Measurable Business Impact)

• ธุรกิจค้าปลีก (Retail) – เปลี่ยนข้อมูลเชิงพฤติกรรมของผู้บริโภคให้กลายเป็นกลยุทธ์บุกตลาดและขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ
  

• นายเดอร์ริก ลอย ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การนำ AI มาประยุกต์ใช้อย่างเป็นระบบ ไม่เพียงช่วยเสริมศักยภาพด้านประสิทธิภาพและการบริการ แต่ยังช่วยสร้าง นวัตกรรมธุรกิจรูปแบบใหม่ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้งและแม่นยำ ส่งผลให้องค์กรไทยสามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำในเวทีเศรษฐกิจดิจิทัลระดับภูมิภาคได้อย่างแท้จริง

ภายในงานยังมีการจัดเสวนาในหัวข้อ “Empowering Thailand: The Tech Transformation” พร้อมสัมมนาย่อยในประเด็นเฉพาะด้าน โดยได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารทั้งจาก NTT DATA และพันธมิตรด้านเทคโนโลยีระดับโลก อาทิ Microsoft Thailand, Google Cloud, AWS, Cisco, Fortinet, Palo Alto Networks, Hewlett Packard (Thailand) Ltd., Genesys, SAP BTM, Panduit (Thailand), Gigamon, HPE Aruba และอีกหลายองค์กรชั้นนำ มาร่วมถ่ายทอดมุมมองและประสบการณ์ตรง

ในโซน Expo Showcase ให้ผู้เข้าร่วมงานได้อัปเดตเทรนด์และนวัตกรรมล่าสุดครอบคลุม Data Center, Connectivity, Network, Security, Cloud, Application, Data และ AI โดยแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ได้แก่ โซนบูธของ NTT DATA ที่นำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชันแบบครบวงจร และโซนบูธของพันธมิตร IT Vendors ระดับโลก อาทิ AWS, Cisco, Fortinet Google Cloud, Palo Alto Networks, Gigamon, HPE, Microsoft Cloudflare,, Panduit, และ Zscaler ที่มาร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับศักยภาพองค์กร เพิ่มโอกาสทางการแข่งขัน และพลิกโฉมธุรกิจสู่โลกดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ มั่นคง และปลอดภัย

สำหรับงาน NTT DATA Ignite 2025 ได้ปิดฉากลงท่ามกลางบรรยากาศแห่งการพบปะ แลกเปลี่ยน และสร้างเครือข่ายระหว่างผู้บริหารระดับสูงและผู้นำด้านเทคโนโลยีจากหลายอุตสาหกรรมชั้นนำทั่วประเทศ ซึ่งไม่เพียงช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางธุรกิจ แต่ยังสะท้อนถึงการรวมพลังของผู้มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการขับเคลื่อนอนาคตดิจิทัล งานครั้งนี้ยังตอกย้ำบทบาทของเวที NTT Data Ignite ในการถ่ายทอดแนวโน้มและนวัตกรรมล่าสุดด้าน Data Center, Connectivity, Network, Security, Cloud, Application, Data และ AI พร้อมแบ่งปันแนวคิดเชิงลึกในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในโลกยุคดิจิทัล ปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่ชัดเจนว่า AI ไม่ใช่เพียงภาพฝันของอนาคต แต่เป็นเทคโนโลยีที่พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับโลกธุรกิจในวันนี้แล้ว และเพื่อสานต่อความสำเร็จ NTT DATA เตรียมจัดงาน NTT DATA Ignite อย่างต่อเนื่องในปีถัดไป โดยเปิดกว้างให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในเวทีนวัตกรรมแห่งนี้ เพื่อเรียนรู้ แลกเปลี่ยน และร่วมกันกำหนดทิศทางอนาคตของเทคโนโลยีดิจิทัลไปด้วยกัน