โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ถอดรหัส “มหกรรมปล้นกลางแดด” คดีหุ้น MORE จากแผนลวงสู่บทเรียนราคาแพง

ข่าวหุ้นธุรกิจ

อัพเดต 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

การแถลงความคืบหน้าครั้งสำคัญของ 5 องค์กรผู้บังคับใช้กฎหมายและกำกับดูแลตลาดทุน อาทิ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.), สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO), กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ตอกย้ำภาพความสำเร็จในการไล่ล่าขบวนการฉ้อโกงครั้งประวัติศาสตร์ในคดีหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE ที่เคยสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนไทยอย่างรุนแรง

โดยหลักฐานที่รวบรวมได้ชี้ชัดว่านี่คือ “การปล้นทรัพย์ผ่านตลาดทุนอย่างเป็นขบวนการ” นำไปสู่การสั่งฟ้องผู้ต้องหากว่า 42 ราย และยึดอายัดทรัพย์สินได้กว่า 4,700 ล้านบาท บทสรุปของคดีนี้ไม่เพียงแต่จะนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ยังเป็นกรณีศึกษาครั้งสำคัญที่นักลงทุนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนต้องจดจำ

ถอดวิธีการ "ปล้น" กลางตลาดหุ้น

เหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้จากข้อมูลที่ทีมข่าวของ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ได้รับเบาะแสจากแหล่งข่าวในแวดวงตลาดทุน และหน่วยงานที่ตรวจสอบ พบว่า ปฏิบัติการเกิดขึ้นในเช้าวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 เริ่มต้นขึ้นก่อนตลาดเปิดทำการ ด้วยการตั้งคำสั่งซื้อหุ้น MORE ในช่วงก่อนเปิดตลาด (ATO) จำนวนมหาศาลถึง 1,500 ล้านหุ้น ที่ราคา 2.90 บาทต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าราคาปิดของวันก่อนหน้าอย่างผิดปกติ

กลไกที่กลุ่มผู้กระทำผิดใช้ประโยชน์อย่างแยบยลคือ การใช้ช่องว่างของระบบ T+2 อธิบายให้เข้าใจง่าย ผู้กระทำผิดอาศัยระบบการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ในอีก 2 วันทำการ (T+2) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกการซื้อในตลาดหุ้น ด้วยการส่งคำสั่งสั่งซื้อหุ้นจำนวนมหาศาลโดยที่ไม่มีเจตนาจะชำระเงินจริง

นอกจากนี้ก๊วนหุ้น MORE ยังใช้บัญชีมาร์จิ้นเป็นเครื่องมือ มีการวางแผนให้นายอภิมุข บำรุงวงศ์ หรือ "ปิงปอง" นำหุ้น MORE ที่มีอยู่ไปใช้เป็นหลักประกันเพื่อขอวงเงินสินเชื่อ (Margin) จากบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) หลายแห่ง การทำเช่นนี้ทำให้กลุ่มผู้กระทำผิดมีอำนาจซื้อในมือสูงกว่า 4,500 ล้านบาท

โดยคำสั่งซื้อปริมาณมหาศาลนั้นมาจากผู้ซื้อเพียงรายเดียวที่ใช้บัญชีผ่านโบรกเกอร์หลายแห่ง ในขณะที่ฝั่งขายก็มาจากกลุ่มผู้สมรู้ร่วมคิดเช่นกัน เมื่อถึงกำหนดชำระเงิน (T+2) ฝั่งผู้ซื้อได้ผิดนัดชำระหนี้ตามกฎแล้ว โบรกเกอร์ฝั่งซื้อจำเป็นต้องจ่ายเงินค่าหุ้นให้กับฝั่งผู้ขายไปก่อน เท่ากับว่ากลุ่มผู้กระทำผิดซึ่งอยู่ทั้งฝั่งซื้อและขาย ได้ร่วมกัน "ปล้น" เงินจากโบรกเกอร์ไปอย่างถูกกฎเกณฑ์ของตลาดทุน

ผลลัพธ์ที่ตามมาคือราคาหุ้น MORE ดิ่งลงติดฟลอร์ทันทีหลังถูกผลักดันขึ้นไปในช่วงเปิดตลาด เหตุการณ์นี้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงเป็นประวัติการณ์ให้แก่โบรกเกอร์หลายสิบรายรวมมูลค่าเกือบ 5,000 ล้านบาท และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ ถึงกับต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาต หลังจากนำเงินของลูกค้าไปจ่ายค่าหุ้น MORE โดยไม่ได้รับอนุญาต

บทเรียนราคาแพงสำหรับนักลงทุนและผู้ถือหุ้น

กรณีของหุ้น MORE ได้ทิ้งบาดแผลและบทเรียนสำคัญไว้ให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในตลาดทุนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนและผู้ถือหุ้น ซึ่งมีข้อควรระวังgริ่มจาก

อย่าไว้ใจบัญชีซื้อขายของคุณกับใคร : กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ระบุชัดเจนว่า ผู้ต้องหาในคดีนี้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม รวมถึง "กลุ่มเจ้าของบัญชี" ที่อนุญาตให้นำบัญชีไปใช้ โดยกฎหมายจะถือว่าเจ้าของบัญชีต้องรับผิดชอบร่วมด้วย ไม่ว่าจะรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ก็ตาม

ระวังหุ้นที่มีปริมาณซื้อขายสูงผิดปกติ : การตั้งคำสั่งซื้อขายที่หนาแน่นผิดปกติโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ เป็นสัญญาณอันตรายที่นักลงทุนต้องพึงระวัง และเป็นที่มาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้นำระบบ "Auto Pause" มาใช้เพื่อหยุดการซื้อขายชั่วคราวเมื่อพบความผิดปกติของราคา เพื่อให้นักลงทุนมีเวลาไตร่ตรอง

เข้าใจความเสี่ยงของบัญชีมาร์จิ้น : แม้บัญชีมาร์จิ้นจะเพิ่มอำนาจการซื้อ แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น การกู้ยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อซื้อหุ้นตัวเดียวที่ถูกนำมาใช้เป็นหลักประกันนั้นมีความเสี่ยงสูงอย่างยิ่ง[cite: 55].

ความเชื่อมั่นที่ถูกทำลายส่งผลกระทบระยะยาว : แม้บริษัทจะยังดำเนินธุรกิจต่อไปได้ แต่ราคาหุ้น MORE ได้ทรุดตัวลงอย่างหนักนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ และยังไม่สามารถฟื้นกลับมาได้ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าความเสียหายต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือสามารถทำลายมูลค่าของบริษัทในสายตานักลงทุนได้อย่างยั่งยืน[cite: 38].

แม้เหตุการณ์นี้จะเป็นฝันร้ายของตลาดทุนไทย แต่ก็ได้นำไปสู่การยกระดับมาตรการกำกับดูแลที่เข้มข้นขึ้น การประสานงานอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพของหน่วยงานต่างๆ ได้กลายเป็นต้นแบบในการจัดการกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กรณีศึกษาของหุ้น MORE จึงเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงพลังว่า ในโลกของการลงทุน ความโลภที่ขาดความระมัดระวังอาจนำไปสู่ความเสียหายที่ประเมินค่ามิได้ ทั้งต่อตนเองและต่อระบบโดยรวม.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ข่าวหุ้นธุรกิจ

ROCTEC โชว์กำไร Q1 โต 63% แตะ 121 ล้านบาท รับรายได้บริการไอซีทีหนุน

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“รัฐบาลไทย” ย้ำดูแล “ค่ารักษา-เงินเยียวยาจิตใจ” นทท.มาเล หลังประสบเหตุสลดกลางกรุง

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

AIS ส่งทีมวิศวกรลุยอัปสปีดเครือข่าย พร้อมถ่ายทอดสดไทยลีกครบทุกสนาม

ฐานเศรษฐกิจ

AIS ยกระดับเครือข่าย-โปรดักชัน เสิร์ฟไทยลีก 2025/26 ฟรีทั่วไทย

กรุงเทพธุรกิจ

แว่นตา AI ยังไม่พร้อมผลิตแมส ติดปัญหาต้นทุน-ฟีเจอร์ไม่โดน

ฐานเศรษฐกิจ

UAC ครึ่งปีแรกกวาดรายได้ 947.71 ล้าน เสถียรภาพทางการเงินแข็งแกร่ง-ลุยขยายธุรกิจพลังงานสะอาด

สยามรัฐ

ธนาคารอินเดีย จ่อตรวจสอบเข้มก่อนอนุมัติสินเชื่อผู้ส่งออก หวั่นสงครามการค้าทำหนี้เสียซ้ำรอย

efinanceThai

SPU หนุนเยาวชน “Revisionsuccess” สร้างนวัตกรรม AI for Education จุดประกายเด็กไทยก้าวสู่ผู้สร้างอนาคต

สยามรัฐ

ITD เปิดภารกิจเชิงรุกเป็นเวทีกลางทางความคิด สนับสนุนการค้าไทย

สยามรัฐ

นวัตกรรมหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ระบบใหม่ New Chapter of Med CMU Robotic Surgery Center แห่งแรกของประเทศไทย

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ปปง. ยึดทรัพย์ “หมอบุญ” 362 ลบ. – อายัดเพิ่มคดี “ดิไอคอน กรุ๊ป”

ข่าวหุ้นธุรกิจ

อัยการสั่งฟ้องแล้ว! 28 รายแรกคดีประวัติศาสตร์หุ้น MORE พ่วง 3 ข้อหาหนัก

ข่าวหุ้นธุรกิจ

“5 องค์กร” แถลงสรุปคดีหุ้น MORE หลักฐานชัด “ฉ้อโกง-อั้งยี่” เอาผิดกราวรูด 42 ราย

ข่าวหุ้นธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...