ทบ.โต้ข่าวปลอม! ยันไม่มีทหารเขมรปลดธง–รื้อลวดหนามที่จุ๊บตาโมกปราสาทตาเมือนธม
พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพอ้างว่า เป็นการรื้อถอนลวดหนามในพื้นที่จุ๊บตะโมก บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ประจำปราสาทตาเมือนธม ยืนยันว่าไม่ปรากฏเหตุการณ์ หรือการปฏิบัติใด ๆ ของทหารกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้าง
ทั้งนี้ หากมีการรื้อถอนลวดหนามในพื้นที่จริงจะต้องมีการเข้าดำเนินการตอบโต้จากฝ่ายไทย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย ภายใต้มาตรการรักษาความมั่นคงอย่างเข้มงวด อีกทั้งจากการตรวจสอบยังพบว่า เสาธงที่ปรากฏในภาพไม่ได้มีอยู่จริงในพื้นที่ที่กล่าวอ้าง
จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ กองทัพบกประเมินว่า เป็นการจัดทำข่าวปลอมโดยฝ่ายกัมพูชา เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและลดกระแสกดดันจากสังคมภายในประเทศ จากการที่ฝ่ายไทยสามารถยึดพื้นที่คืนจากทหารกัมพูชาได้จำนวน 11 พื้นที่ หลังการสู้รบที่ผ่านมา
ซัด "กัมพูชา" บิดเบือนนำทุ่นระเบิด PMN-2 โจมตีฝ่ายไทย
พลตรีวินธัย ยังกล่าวด้วยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากัมพูชา พยายามปฏิเสธและบิดเบือน การนำทุ่นระเบิดมาใช้โจมตีฝ่ายไทยในหลายเหตุการณ์ โดยเหตุการณ์ที่กระทบฝ่ายไทยทำให้กำลังพลบาดเจ็บ ทั้งหมด 5 ครั้ง และ 2 ครั้งล่าสุด เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากมีข้อตกลงหยุดยิง โดยในวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค.) กระทรวงการต่างประเทศจะนำคณะทูต พร้อมทั้งสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีษะเกษ
โดยพลตรีวินธัย ชี้แจงกรณีทุ่นระเบิด ว่า ที่ผ่านมากัมพูชาปฏิเสธว่าหลักฐานที่ไทยมี ไม่น่าเชื่อถือ บางครั้งพูดเหมือนเป็นการจัดฉากจากฝ่ายไทย ถือเป็นการปฏิเสธที่ขาดเหตุผลหรือไม่มีน้ำหนัก ซึ่งฝ่ายไทยมีข้อสังเกตที่น่าสนใจให้พิจารณา คือ ทุ่นระเบิดส่วนใหญ่กัมพูชาจะพูดว่าในอดีตตกค้างจากสงครามในอดีต แต่ในข้อเท็จจริงระเบิดที่ตกค้างอยู่ในอดีต TMAC ได้ดำเนินการเก็บกู้แล้ว และรายงานไปยังองค์กรสากลเรียบร้อยแล้ว โดยระเบิดที่พบมี 1,300 ลูก ซึ่งทั้งหมด ไม่มีชนิด PMN-2 อย่างที่พบในปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังสอดรับกับหลักการทางยุทธวิธี อย่างกรณีที่กัมพูชามาวางกำลัง เช่น ครั้งแรกที่วางกำลังในแนวคูเลต ซึ่งด้านหน้าจะพบกับสนามทุ่นระเบิด เป็นการวางไว้ในลักษณะเป็นกลุ่ม ซึ่งทุกเหตุการณ์หลักกำลังพลไทยได้รับบาดเจ็บ และเมื่อเข้าไปตรวจสอบก็จะพบลักษณะนี้
พร้อมกันนี้ พลตรี วินธัย ยังระบุอีกว่า หากมองในหลักการของธรรมชาติที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ชายแดน มีเพียงไทยและกัมพูชาเท่านั้น หากไม่ใช่ไทยก็เป็นอื่นไม่ได้ จะต้องเป็นกัมพูชา เพราะจากการสังเกตเป็นไปไม่ได้ที่ฝ่ายไทย จะตั้งใจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือสูญเสียกับกำลังพลของตนเอง และ 5 ครั้งที่ผ่านมามีเฉพาะกำลังพลไทยเท่านั้นที่บาดเจ็บ
ขณะที่อีกหนึ่งหลักฐาน มีการปล่อยภาพของอินฟลูเอนเซอร์กัมพูชา พบว่าเป็นการดำเนินการโดยกัมพูชา ไปถ่ายภาพทำคอนเทนต์ที่ปราสาทตาเมือนธม จะเห็นว่ามีภาพพวงชุดทุ่นระเบิด PMN -2 วางกองอยู่ที่ตัวปราสาท จะอ้างว่าเป็นการจัดฉากเพื่อปลอมภาพ เป็นไปไม่ได้
นอกจากนี้จะเห็นว่าการเก็บกู้หรือเข้าตรวจสอบพื้นที่แบบประณีต ในพื้นที่ที่กองกำลังกัมพูชาเคยอยู่ จะเห็นว่ามีทุ่นระเบิด PMN -2 อยู่บริเวณภูมะเขือ และยังพบภาพและคลิปที่ได้มาในทางลับ เป็นภาพและคำสนทนาภาษากัมพูชา ที่ปรากฎว่าเป็นการเก็บระเบิด เพื่อเคลื่อนย้ายไปติดตั้งที่ใหม่โดยทหารกัมพูชาเอง
พลตรี วินธัย ทิ้งท้ายว่า หลักฐานทั้งหมดนี้ที่ฝ่ายไทยแสดงให้เห็น กัมพูชาอ้างว่าไทยจัดฉากขึ้น จึงอยากให้สื่อมวลชนเพื่อประกอบการพิจารณา ย้ำว่าวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค.) จะนำคณะทูต และสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง