หน้าอกแบนๆ กลายเป็นสะบึ้ม!!! ภายในไม่กี่เดือน สาวร้องไห้รู้สาเหตุ ทั่วโลกมีแค่ 300 คน
หน้าอกโตผิดปกติจากคัพ A เป็น G ในไม่กี่เดือน! หญิงสาวผวา พบป่วยโรคหายากทั่วโลกมีแค่ 300 คน
จากคัพ A กลายเป็น G ในเวลาไม่กี่เดือน หญิงสาววัย 25 ต้องเผชิญทั้งปัญหาทางกายและจิตใจ ความมั่นใจพังทลายจนแทบไม่เหลือ
มิเชล เซควีนา (Michelle Sekwena) วัย 25 ปี จากเมืองพริทอเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ เคยรู้สึกพอใจกับหน้าอกขนาดเล็กคัพ32A ของตัวเอง แต่จู่ๆ ภายในเวลาไม่กี่เดือน หน้าอกของเธอกลับขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วกลายเป็นคัพ 34G โดยไม่มีสัญญาณเตือนหรือสาเหตุที่แน่ชัด
ในช่วงแรก มิเชลเริ่มรู้สึกเจ็บหน้าอก ผิวหนังบริเวณนั้นมีรอยแดงและคันทุกครั้งที่ใส่ชุดชั้นใน การเปลี่ยนแปลงผิดปกตินี้ไม่นานก็เริ่มสร้างปัญหาหนัก ทั้งอาการปวดหลัง ปวดเข่า เดินลำบาก และยิ่งไปกว่านั้นคือสายตาจับจ้องจากคนรอบข้าง “คนคิดว่าฉันท้อง ไปที่ไหนก็โดนมองแปลกๆ ฉันต้องใส่เสื้อฮู้ดกับเสื้อผ้าตัวใหญ่เพื่อปิดบัง แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย”มิเชลกล่าว
อาการปวดเรื้อรังทำให้เธอนอนไม่หลับ สภาพจิตใจย่ำแย่ ความมั่นใจหายไปจนหมดสิ้น “มันน่าหดหู่มาก ทุกคนหัวเราะและจ้องมอง ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ใช่ตัวเองอีกต่อไป” เธอเล่า
ทั้งนี้ หลังจากได้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มิเชลก็ทราบว่าตนเองเป็นโรค Gigantomastia ภาวะเต้านมโตผิดปกติที่พบได้น้อยมาก ทั่วโลกมีผู้ป่วยที่ถูกบันทึกไว้เพียงราว 300 ราย สาเหตุของโรคอาจเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน การตั้งครรภ์ โรคอ้วน ภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ หรือผลข้างเคียงจากยา บางรายใช้เวลาหลายปีในการขยายเต้านม แต่บางราย (เช่นมิเชล) โตผิดปกติในเวลาไม่กี่สัปดาห์
ทางออกเดียวของมิเชลคือการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายถึง 8,442 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 221,000 บาท) ซึ่งสูงเกินกว่าที่เธอจะจ่ายได้ เธอจึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวผ่าน TikTok พร้อมวิดีโอการใช้ชีวิตกับโรคดังกล่าว ซึ่งมีคนดูมากกว่า 22 ล้านครั้ง ความเห็นใจและกำลังใจจากผู้ชมผลักดันให้เธอเปิดแคมเปญระดมทุน และไม่นานก็ได้เงินครบตามเป้าหมาย
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มิเชลเข้ารับการผ่าตัดลดขนาดหน้าอกลงเหลือคัพ 34D ตามคำแนะนำทางการแพทย์ “มันเหมือนฉันได้ชีวิตกลับคืนมา แม้ไม่รู้ว่าโรคจะกลับมาอีกหรือไม่ แต่ฉันรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น ฉันแต่งตัวได้อย่างที่อยากใส่ เดินสะดวก และที่สำคัญ ฉันกลับมารักตัวเองได้อีกครั้ง” มิเชลกล่าวด้วยความดีใจ
มิเชลไม่ใช่เคสเดียว แต่ผู้หญิงทั่วโลกเผชิญปัญหาเดียวกัน!
นอกจากมิเชล ยังมีอีกหลายกรณีทั่วโลก เช่น ไธนารา มาร์คอนเดส (Thaynara Marcondes) วัย 22 ปีจากบราซิล ก็เคยเจอประสบการณ์คล้ายกัน หน้าอกที่ขยายอย่างรวดเร็วทำให้เสื้อผ้าทั้งตู้กลายเป็นของที่ใช้ไม่ได้ แม้แต่เสื้อชั้นในก็ไม่มีไซซ์ที่ใส่ได้ “ฉันลองเสื้อในถึง 8 ตัวแต่ไม่มีตัวไหนใส่ได้เลย จนฉันรู้สึกตื่นตระหนก” มาร์คอนเดสเล่า
เธอยังถูกสังคมวิจารณ์และมองด้วยสายตาแปลกๆ บางคนถึงขั้นกล่าวหาว่าเธอซ่อนของขโมยไว้ในหน้าอกขณะเดินในซูเปอร์มาร์เก็ต จนในที่สุดตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ 10 ชั่วโมงเพื่อลดขนาดหน้าอก โดยเอาเนื้อเยื่อเต้านมออกเกือบ 10 กิโลกรัม “ทุกครั้งที่มองกระจก ฉันรู้สึกว่าตัวเองสวยขึ้นมาก และบางครั้งฉันถึงกับร้องไห้เพราะไม่อยากเชื่อว่าสุดท้ายฉันทำได้” มาร์คอนเดสกล่าว
ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง เพจ อมีเลีย (Paige Amelia) หญิงสาววัย 29 จากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย กลับเลือกอีกทาง โดยเปลี่ยนข้อจำกัดให้เป็นโอกาส เมื่อมีขนาดหน้าอกใหญ่ผิดปกติถึงคัพ P และไม่ยอมผ่าตัดลดขนาด
เธอใช้โอกาสนี้เข้าสู่วงการ OnlyFans และสร้างรายได้ถึง 366,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี (มากกว่า 9.6 ล้านบาท) โดยชุดชั้นในของเธอต้องสั่งตัดพิเศษ ราคาตัวละประมาณ 4.8 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เธอยอมรับว่าชีวิตประจำวันยังคงเต็มไปด้วยความอึดอัด “ฉันไม่ชอบใส่เสื้อผ้ารัดรูปเวลาออกไปข้างนอก เพราะกลัวถูกจ้อง หรือโดนผู้หญิงคนอื่นมองแรง ฉันต้องระวังเรื่องการแต่งตัวตลอดเวลา” เพจเล่า
ท้ายที่สุดอาจกล่าวได้ว่า โรค Gigantomastia ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่กระทบลึกถึงชีวิต ส่งผลทั้งด้านร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยอย่างรุนแรง อาการปวดหลัง ปวดข้อ เคลื่อนไหวลำบาก และความกดดันทางสังคมทำให้หลายคนหมดความมั่นใจ แม้การผ่าตัดจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ค่าใช้จ่ายสูงกลับเป็นอุปสรรคใหญ่ ผู้ป่วยหลายคนจึงต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากสังคมหรือองค์กรการกุศล เพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติได้อีกครั้ง