THAI ตกหลุมอากาศ?
หุ้น “การบินไทย” หรือ THAI วานนี้ปรับลงค่อนข้างแรง
ราคาปิดตลาดที่ 14.30บาท ลดลง 2.20บาท เปลี่ยนแปลง -13.33%ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 3,788ล้านบาท มากเป็นอันดับหนึ่ง
การปรับลงของราคาหุ้นบินไทยวานนี้
มีส่วนทำให้ดัชนีฯ รูดลงมาถึง 4.9จุด จากดัชนี้วานนี้ที่ปิดลบ 17.11จุด
การบินไทย เริ่มกลับเข้ามาเทรดในตลาดหุ้นอีกครั้งเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 68 ด้วยราคาปิด 10.50 บาท เพิ่มขึ้น 7.18 บาท เปลี่ยนแปลง +216.27%หลังจากหยุดการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. 64
ส่วนราคาปิดครั้งสุดท้ายอยู๋ที่ 3.32บาทต่อหุ้น
นับจากวันกลับมาเข้าเทรด
ราคาหุ้นการบินไทยบวกต่อเนื่องอีก 2 วัน และมาปิดลบเล็กน้อยเมื่อวันที่ 7ส.ค.ที่ผ่านมา 2.20บาท
จากนั้นราคาหุ้นบวกต่ออีก3วัน
และมาปิดที่ระดับ 17.80 บาท (+1.70บาท) เมื่อวันที่ 14 ส.ค.
ก่อนจะมาปิดลบอีกครั้งในวันที่ 15 ส.ค. (ปิด 16.50บาท ลดลง 1.30 บาท) กระทั่งถึงวานนี้ที่ราคาปิดลบเป็นวันที่สองติดต่อกัน
การปรับขึ้นแรงของราคาหุ้นการบินไทยถามว่าเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง
เริ่มจาก “พื้นฐาน”ที่เปลี่ยนไปในทิศทางดีขึ้น จากการเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ และมีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ ถูกมอง “เชิงบวก”
จำนวนหุ้นส่วนใหญ่อยู่ในมือเจ้าหนี้ แล้วหุ้นที่นำมาเทรดกันอยู่มีน้อยมาก (คล้ายกับหุ้น DELTA)
นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นบินไทยทะยานต่อเนื่อง
แต่อย่างว่าล่ะ งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา
เมื่อราคาหุ้นที่ทะยานขึ้นมาก มันมากกว่าราคาเป้าหมาย และปัจจัยพื้นฐานไปค่อนข้างมาก
เราจึงเห็นรงขายทำกำไรออกมาในช่วง 2วันที่ผ่านมา
สำหรับราคาหุ้นบินไทย เคยขึ้นไปสูงสุด (หลังกลับเข้าเทรด) ที่ระดับ 19.40บาท เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 68 ซึ่งในวันนั้นราคาปิดที่ 17.80 บาท (+1.70บาท)
แน่นอนว่า น่าจะมีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่ “ติดดอย“บินไทยอยู่บริเวณราคา 17.00-19.00บาท
หากจะถามว่า แล้วราคาหุ้นบินไทยจะกลับขึ้นมาได้อีกไหม
คำตอบคือ ในระยะสั้นน่าจะยังไม่ขึ้น
เพราะอย่างที่บอกไป คือ ราคาได้เกินปัจจัยพื้นฐานขึ้นมาค่อนข้ามากแล้ว
ข้อมูลจาก Settrade พบว่ามี 12บริษัทหลักทรัพย์ที่ออกบทวิเคราะห์หุ้นการบินไทย
ราคาเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ 13.40บาท
ราคาเป้าหมายต่ำสุดอยู่ที่ 7.20บาท
และราคาเป้าหมายเฉลี่ย (จาก 12 โบรกเกอร์) อยู่ที่ 10.05บาทต่อหุ้น
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตคลาด หรือมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 4.67แสนล้านบาท (ราคาปิด ณ วันที่ 15 ส.ค.)
ส่วนวานนี้ราคาปิด 14.30 บาท ทำให้มาร์เก็ตแคปน่าจะลงมาที่ 4.04 แสนล้านบาท
ต้องยอมรับกับแบบตรง ๆ ว่า ผู้ดูแลสภาพคล่อง หรือ “เจ้ามือ” หุ้นการบินไทย ไม่พ้นนักลงทุนรายใหญ่ประเภท “สถาบัน” หรือ “กองทุน” นั่นแหละ
ดังนั้น เมื่อราคาหุ้นลงมาในระดับหนึ่ง
รายย่อยที่ต่างติดหุ้นด้านบนเริ่ม “มอบตัว” หรือคายหุ้นด้วยการตัดขาดทุนออกมา
ถึงเวลานั้น ราคาหุ้นบินไทยน่าจะกลับทะยานขึ้นอีกครั้ง
หลังจากตกหลุมอากาศเล็กน้อย