“ททท.” คาดหยุดยาว ‘วันแม่แห่งชาติ’ คนไทยแห่คึกคัก 3.16 ล้านคน-ครั้ง กรุงเทพฯ ครองแชมป์คนเที่ยวมากสุด
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในช่วงหยุดยาววันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 ส.ค. 2568 คาดว่าบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวจะมีความคึกคัก เนื่องจากมีการประกาศวันหยุดเพิ่มในวันที่ 11 ส.ค. 2568 อีก 1 วันเป็นกรณีพิเศษ โดยคาดว่าจะมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศทั้งสิ้น 3.16 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 13,750 ล้านบาท และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 66%
สำหรับภูมิภาคที่มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้ามากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- ภาคกลาง 898,000 คน-ครั้ง
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 609,600 คน-ครั้ง
- ภาคตะวันออก 600,500 คน-ครั้ง
ภูมิภาคหรือพื้นที่ที่มีรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ
- กรุงเทพมหานคร 3,410 ล้านบาท
- ภาคใต้ 2,790 ล้านบาท
- ภาคตะวันออก 2,620 ล้านบาท
สำหรับจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในช่วงหยุดยาววันแม่
5 อันดับ “เมืองหลัก” ที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่มากที่สุด ได้แก่
- กรุงเทพมหานคร
- กาญจนบุรี
- ชลบุรี
- นครราชสีมา
- และระยอง
5 อันดับ “เมืองน่าเที่ยว” ที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่มากที่สุด ได้แก่
- ลพบุรี
- อุดรธานี
- สุพรรณบุรี
- ราชบุรี
- เลย
5 จังหวัดที่มี “อัตราการเข้าพักสูงสุด” ได้แก่
- อันดับ 1 ประจวบคีรีขันธ์ อัตราการเข้าพัก 88% เป็นของชาวไทย 80%
- อันดับ 2 สมุทรสงคราม อัตราการเข้าพัก 82% เป็นของชาวไทย 79%
- อันดับ 3 สุราษฎร์ธานี อัตรการเข้าพัก 77% เป็นของชาวไทย 19%
- อันดับ 4 สงขลา อัตราการเข้าพัก 77% เป็นของชาวไทย 26%
- อันดับ 5 เพชรบุรี อัตราการเข้าพัก 76% เป็นของชาวไทย 72%
พฤติกรรมการเดินทาง ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางระยะใกล้ เน้นเที่ยวภายในภูมิภาคหรือจังหวัดใกล้เคียง เพื่อพาแม่และครอบครัวไปไหว้พระทำบุญ รับประทานอาหาร รวมทั้งเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ พร้อมกับเข้าร่วมกิจกรรมชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 ส.ค. 2568 ซึ่งหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนทุกภาคส่วนร่วมกันจัดทั่วประเทศ
สอดคล้องกับผลการสำรวจแผนการเดินทางในช่วงวันหยุดเทศกาลไตรมาส 3/2568 ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พบว่า ประชนชนมีแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดเนื่องในวันแม่แห่งชาติ ปี 2568 และส่วนใหญ่เลือกที่จะเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดตัวเอง 11 % และจังหวัดใกล้เคียงแต่ไม่พักค้าง 5 % และมีการพักค้างคืน 6 % ขณะที่เดินทางข้ามภาคมีเพียง 9 %
ปัจจัยสนับสนุน
1. รัฐบาลประกาศวันหยุดราชการเพิ่มอีก 1 วันเป็นกรณีพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกัน 4 วัน คาดว่าจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น
2. โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง จะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการเดินทางเที่ยวภายในประเทศในช่วงวันหยุดนี้ให้กลับมาคึกคักทั้งในเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว โดยในช่วงวันที่ 9-12 สิงหาคม 68 พบว่า มีผู้ลงทะเบียน ผู้เดินทางใช้สิทธิ์ จำนวน 46,732 สิทธิ์ แบ่งเป็นเมืองหลัก 30,503 สิทธิ์
โดยจังหวัดที่มีการจองที่พักสุงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์ และเมืองน่าเที่ยว 16,229 สิทธิ์ โดยจังหวัดที่มีการจองที่พักสุงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ เชียงราย ตราด จันทบุรี น่าน และนครศรีธรรมราช
3. เป็นฤดูท่องเที่ยวเฉพาะแหล่ง อาทิแหล่งท่องเที่ยวดูผีเสื้อปางสีดำ จ.สระแก้ว ทุ่งดอกกระเจียว จ.ชัยภูมิ เทศกาลล่องแก่งหินเพิง จ.ปราจีนบุรี ชมสวนป่าดอกกระเจียว จ.ฉะเชิงเทรา ชมดอกกระเจียวสีส้ม จ.ตาก
4. การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ อาทิ งานศิลปปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจด้วยพระบารมี อิมแพค เมืองทองธานี , งานสีสรรพรรณไม้เทิดไท้บรมราชินี ครั้งที่ 17 สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ กรุงเทพฯ ,งานโครงการหลวง 56 น้ำพระราชหฤทัย..จากฟ้าสู่มหานคร เซ็นทรัลเวิลด์กรุงเทพฯ ,งาน 12 สิงหา ฮาลฟ์มาราธอน กรุงเทพฯ 2025 ครั้งที่ 30 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
5. การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจาก ททท. ร่วมกับพันธมิตร รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
6.การท่องเที่ยวทางรถไฟในช่วงวันหยุด แบบ one day trip อาทิ ขบวนรถนำเที่ยว Royal Blossom กับโปรแกรม สิงหา…ชวนแม่เที่ยวเมืองอาร์ต เพนท์โอ่ง ดิโอทาวน์ “ราชบุรี” ขบวนรถ KIHA 183 กับโปรแกรม “แม่ชวนลูก สวมชุดไทย เพลินพลับพลา เสน่ห์บางปะอิน ศิลป์งามวิจิตร กลิ่นอายกรุงเก่า” (9 และ10ส.ค.68) และขบวนหัวรถจักรไอน้ำสุดพิเศษร่วมเฉลิมฉลองวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหำคม 2568 ในเส้นทาง: กรุงเทพ–ชุมทางฉะเชิงเทรา–กรุงเทพ (12 ส.ค.68)
6. การจัดการส่งเสริมการขายหรือโปรโมชั่นต่างๆ ในวันแม่ อาทิ อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เปิดให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเข้า ชมฟรีในวันที่ 12 สิงหำคมของทุกปี
ปัจจัยอุปสรรค
1. กำลังซื้อลดลง ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ทั้งจากความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจ ปัญหาค่าครองชีพและหนี้สินครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง จำ เป็นต้องลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ส่งผลต่อการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว สะท้อนได้จากข้อมูลผลการสำรวจของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่พบว่า คนไทยมีแนวโน้มในการเดินทางไปต่างจังหวัดในไตรมาส 3/2568 เพียง 31% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา
2. การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของคนไทยยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่มีวันหยุดยาวติดต่อกัน
3. เป็นช่วงฤดูฝน และมรสุมตะวันตกเฉียงยังคงปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้มีฝนตกหนักในบาง
4. ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่มั่นใจในความปลอดภัย และตัดสินใจหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าพื้นที่ โดยเฉพาะ 7 จังหวัดชายแดน ได้แก่ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สะแก้ว จันทบุรี และตลราด