MIND: ไขจิตวิทยา ‘ความเชื่อ’ อะไรคือเหตุผลที่ทำให้บางคนต้องการที่พึ่งทางใจ จาก หมอผี-หมอดู-สิ่งลี้ลับ?
จากกระแสข่าวในช่วงนี้ของ ‘หมอบี’ ที่เรียกตัวเองว่าเป็น ‘ทูตสื่อวิญญาณ’ สามารถติดต่อสื่อสารกับวิญญาณได้ เป็นบุคคลที่โด่งดัง มีคนเชื่อถือมากมาย จนกระทั่งข่าวล่าสุดทำให้หลายคนต้องตั้งคำถามกับสิ่งที่เคยเชื่อถือมาโดยตลอด
จริงๆ แล้วการเชื่อเรื่องเทวดา ภูตผี ปีศาจ ก็เป็นเรื่องที่อยู่คู่ในสังคมไทยมาตลอดอยู่แล้วในทุกยุคทุกสมัย แต่ที่น่าสนใจคือ ในยุคนี้ ผู้ที่เรียกตนเองว่าเป็นหมอดู, หมอผี, ทูตสื่อวิญญาณ หรือใดๆ ก็ตาม ได้รับการยอมรับในวงกว้างมากขึ้น อาจเพราะพลังของการสื่อสารบนโลกออนไลน์ เปิดโอกาสให้สร้างภาพลักษณ์ ดึงดูดผู้ติดตาม และต่อยอดสู่รายได้หรือผลประโยชน์อื่นๆ ได้ง่ายกว่าเดิม
แล้วเคยสงสัยกันไหมว่า ในปัจจุบันที่วิทยาศาสตร์วิวัฒนาการจนมาถึงขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงมีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่เชื่อในเรื่องลี้ลับ สิ่งที่มองไม่เห็น หมอผี หมอดู กันอยู่?
จากบทความสัมภาษณ์นักวิชาการด้านจิตวิทยาของ The Potential ได้อธิบายเรื่องนี้ไว้ว่า ในเชิงจิตวิทยาจะมีตัวแปรหนึ่งที่เรียกว่า ‘Locus of Control’ หรือความเชื่อในอำนาจควบคุม พูดง่ายๆ ก็คือ ความรู้สึกเกี่ยวกับ ‘ชะตาชีวิต’ ว่าเราจะเชื่อว่าใครเป็นคนควบคุม
โดยจะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ Internal Locus of Control หรือ ความเชื่อในอำนาจควบคุมภายใน คนที่มีความเชื่อแบบนี้จะรู้สึกว่าชีวิตเราสามารถลิขิตเองได้ อยากได้อะไรก็จะรู้ว่าต้องทำอะไรถึงจะได้มันมา เพราะรู้ว่าตัวเองมีความสามารถและเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง ซึ่งอาจแปลว่าคนที่มีลักษณะเช่นนี้ต้องผ่านความสำเร็จมาบ้างแล้ว และยึดคติว่า “ฉันเป็นคนกุมชะตาชีวิตของฉันเอง”
แบบที่สอง คือ External Locus of Control หรือ ความเชื่อในอำนาจควบคุมภายนอก คือคนที่รู้สึกว่าเราไม่สามารถกำหนดชีวิตตัวเองได้ขนาดนั้น เพราะเชื่อว่าชีวิตถูกลิขิตมาแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรลงไป ผลลัพธ์ที่ได้มันก็จะเป็นเรื่องของโชคชะตามากกว่าเชื่อความว่าถูกกำหนดมาอย่างไร ซึ่งอาจเป็นเพราะเคยตั้งใจทำอะไรแต่ผิดหวัง ไม่มั่นใจในตัวเองและรู้สึกควบคุมอะไรไม่ได้ เลยเลือกที่จะเชื่อว่าเป็นเรื่องของเวรกรรมและโชคชะตา
เมื่อมองว่าเป็นเรื่องของเวรกรรม คนที่มีความเชื่อแบบ External Locus of Control จึงรู้สึกว่าบนโลกนี้มันมีสิ่งลี้ลับ สิ่งที่มองไม่เห็น ที่กำลังเฝ้ามองและกำหนดชะตาชีวิตตัวเองอยู่ ซึ่งจากงานวิจัยก็พบว่าความเชื่อเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกว่าเรามีอำนาจในการปรับเปลี่ยนสถานการณ์ให้เป็นไปตามความต้องการของเราได้ชั่วขณะ ซึ่งช่วยลดความวิตกกังวลและความทุกข์ทรมานที่มักเกิดจากความไม่แน่นอนของชีวิตได้
ทั้งนี้ในสภาพสังคมปัจจุบันอาจทำให้คนจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ความปลอดภัยในชีวิตและสภาพจิตใจ ความรู้สึกไร้อำนาจนี้เองที่ผลักให้ผู้คนจำนวนมากมีแนวโน้มที่จะเชื่อแบบ External Locus of Control มากขึ้น พวกเขาเลือกที่จะมอบอำนาจการควบคุมให้กับสิ่งที่มองไม่เห็น เชื่อเรื่องบาปบุญ เพื่อใช้เป็นที่พึ่งทางใจ เติมเต็มความหวัง และปลอบประโลมตนเองจากโลกที่วุ่นวาย
เมื่อมีผู้คนยึดถือในความเชื่อลักษณะนี้มากขึ้นเรื่อยๆ จึงเกิดเป็น ‘ระบบนิเวศแห่งความเชื่อ’ ที่มีวิถีปฏิบัติและความศรัทธาในตัวบุคคลต่างๆ ตามมา ส่งผลให้สังคมไทยในปัจจุบันเต็มไปด้วย ‘หมอ’ และ ‘อาจารย์’ มากมายดังที่เห็น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่พึ่งทางใจของผู้คนในยุคสมัยแห่งความไม่แน่นอนนี้นั่นเอง