MOODY: เริ่มวันด้วยความสดใส พอถึงออฟฟิศเมื่อไรหน้าหงิกทุกที จะประคองใจตัวเองอย่างไร ไม่ให้โดนอารมณ์คนอื่นครอบงำ

ไม่ว่าวันนี้จะตื่นเช้ามาด้วยความกระตือรือร้น บิลด์ตัวเองด้วยกิจกรรมดีๆ ยามเช้า ให้มีพลังพร้อมทำงานแค่ไหน แต่มันมักจะมีอะไรสักอย่างมาทำให้อารมณ์เราบูดได้เสมอ

เพราะในชีวิตจริงเราย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องปะทะเข้ากับเรื่องราวมากมาย และอารมณ์หลากหลายของคนรอบข้าง ซึ่งปัญหามักเกิดขึ้นเมื่ออารมณ์ของคนอื่นมีอิทธิพลต่อเราในวันที่เรากำลังมีความสุข จนความรู้สึกที่ว่า “ทำไมเขาถึงทำให้วันดีๆ ของเราหม่นลง” จึงเกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

แถมนักจิตวิทยาหลายคนยังชี้ว่า การควบคุมอารมณ์ของผู้อื่นนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ สิ่งเดียวที่เราสามารถทำได้คือสร้างขอบเขตทางจิตใจและฝึกความยืดหยุ่นภายในเพื่อปกป้องพลังงานของตัวเราเอง

วันนี้ MOODY จึงอยากมาแชร์วิธีการประคองใจตัวเองอย่างไร ไม่ให้โดนอารมณ์ลบๆ ของคนอื่นครอบงำ หรือมีอิทธิพลต่อเราน้อยที่สุด

หนึ่งในวิธีที่ง่ายแต่ได้ผล คือ ‘การหยุดหายใจลึกๆ’ ก่อนตอบสนองต่อพลังงานลบ แม้จะฟังดูเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่การหายใจลึกๆ สามารถช่วยลดความดันโลหิต ชะลอการเต้นของหัวใจ ลดระดับฮอร์โมนความเครียด และทำให้ร่างกายผ่อนคลาย การกลับมามีสมาธิจะช่วยให้เราโฟกัสกับพลังบวกที่ต้องการรักษาไว้ได้ดียิ่งขึ้น

อีกเทคนิคหนึ่งคือการ ‘ส่งคืน’ ความคิดลบในเชิงจิตใจ โดยไม่ต้องโต้ตอบหรือพูดในเชิงลบกลับไป เพียงแต่จินตนาการว่าเราได้รับสิ่งนั้นมา รับรู้มัน และค่อยๆ วางคืนให้เจ้าของเดิม วิธีการใช้ภาพในใจเช่นนี้อาจฟังดูเรียบง่าย แต่สามารถสร้างความรู้สึกมีพลังและการควบคุมตนเองได้อย่างน่าทึ่ง

บางคนเลือกที่จะสร้าง ‘ฟองอากาศแห่งความยืดหยุ่น’ รอบตัว จินตนาการว่ามันเป็นเกราะป้องกันที่ไม่ให้อารมณ์ลบซึมเข้ามาได้ แต่ยังคงส่งพลังบวกออกไปสู่ผู้อื่น หากมีใครพยายามส่งคำพูดหรือท่าทีลบมา ก็ปล่อยให้มันกระดอนกลับไป เหมือนละอองฝนที่ไหลผ่านโดยไม่เปียกถึงใจ ขณะเดียวกัน การหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมวงบ่นก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการร่วมวงบ่นไม่เพียงแต่ทำให้เราถูกดึงเข้าสู่ความคิดลบ แต่ยังเสริมให้พฤติกรรมเช่นนั้นคงอยู่ต่อไป

ในอีกมุมหนึ่ง การเลือกนำพลังบวกเข้าสู่บทสนทนาสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ เพราะอารมณ์บวกแพร่กระจายได้ไม่ต่างจากอารมณ์ลบ เราอาจเริ่มจากการให้รอยยิ้ม คำชมเล็กๆ น้อยๆ หรือการชวนมองสิ่งรอบตัวในแง่ดี เช่น ท้องฟ้าที่สดใส หรืออากาศที่น่าเดินเล่น แม้แต่การสัมผัสเบาๆ อย่างเป็นมิตรหรือการกอดในโอกาสเหมาะสม ก็ช่วยสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงทางอารมณ์ได้

วิธีที่อาจได้ผลทันทีคือการถามอย่างใส่ใจว่า “เธอโอเคไหม” คำถามง่ายๆ นี้มักช่วยเปิดโอกาสให้คนที่กำลังมีพลังลบได้ระบายสิ่งที่กดดันในใจออกมา ทำให้เขารู้สึกว่ามีคนรับฟังและใส่ใจ ซึ่งเพียงเท่านี้ก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศได้มาก

อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีผู้ที่ส่งพลังลบเหล่านั้นออกมา อาจไม่ตอบรับเชิงบวก และเราจำเป็นต้องปล่อยให้เขาระบายออกมา ในขณะเดียวกันก็คงความสงบในใจของเราไว้ หลังจากนั้น การหาเวลาส่วนตัวเพื่อดึงตัวเองกลับสู่สมดุลทางอารมณ์จึงเป็นสิ่งจำเป็น

ทั้งหมดนี้จะเกิดผลได้ดียิ่งขึ้น หากเราดูแลสุขภาพกายและใจอย่างสม่ำเสมอ การกินอาหารที่มีประโยชน์ การนอนหลับให้เพียงพอ การพักผ่อนอย่างเต็มที่ และการออกกำลังกาย ล้วนทำให้จิตใจของเรามีเสถียรภาพและยากที่จะถูกพลังลบจากผู้อื่นดึงไปได้ง่าย ในทางกลับกัน หากร่างกายเราอ่อนล้าและจิตใจขาดพลัง เราจะตกอยู่ในวงจรพลังลบของคนอื่นได้รวดเร็วขึ้น

ท้ายที่สุดแล้ว เราไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของคนทั้งโลกได้ สิ่งที่เราทำได้และควรให้ความสำคัญมากที่สุด คือการจัดการและดูแลอารมณ์ของตนเองให้มั่นคงพอที่จะไม่ถูกกระทบง่ายๆ และเมื่อเรามีความแข็งแรงจากภายใน เราก็จะมีพื้นที่พอที่จะส่งต่อพลังบวกให้กับคนรอบตัวได้ โดยไม่ต้องสูญเสียความสุขของเราเองในกระบวนการนั้น