ภาคีเครือข่ายฯ หนุน ‘ยุบสภา’ เปิดทางการเมืองใหม่ ‘ประชาชน’ เป็นตัวตั้ง
ภาคีเครือข่ายฯ ยืนยัน ‘ยุบสภา’ ทางออกดีที่สุด เปิดทางการเมืองใหม่ ‘ประชาชน’ เป็นตัวตั้ง
ที่ห้องประชุมชั้น 4 ตึกกิจกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เครือข่ายประชาชน อาทิ ครป. เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชน กป.อพช. ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move) และเครือข่ายอื่นๆ แถลงข่าว เรียกร้อง รัฐบาลรักษาการยุบสภา เป็นทางออกของประเทศไทย แก้ไขวิกฤตการเมืองให้ประชาชนตัดสินใจ
เมื่อเวลา 15.00 น. ได้มีตัวแทนของภาคีเครือข่ายภาคประชาชน อาทิ กป.อพช. (คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน), ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move), คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.), เครือข่ายประชาชนเข้มแข็ง, เครือข่ายนักรบผ้าถุง จะนะ, เครือข่ายสิ่งแวดล้อม เครือข่ายสุขภาพ ฯ และสภานักศึกษาและองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เป็นต้น ได้ร่วมแถลงข่าว เรียกร้อง รัฐบาลรักษาการยุบสภา เป็นทางออกของประเทศไทย
นายสมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนระดับชาติ (กป.อพช.) กล่าวว่า เราต้องการการเมืองที่เห็นหัวประชาชน กว่า 8 ปี ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 2 ปีภายใต้การบริหารของพรรคเพื่อไทย ถือเป็นยุคที่ผู้ปกครองเห็นประชาชนเป็นผู้ถูกปกครอง การบริหารการเมืองต่างๆ ทั้งการเมืองเศรษฐกิจ สังคม มิได้มุ่งแก้ไขปัญหาประเทศอย่างแท้จริง แต่ล้วนเป็นการเลี้ยงไข้ พยายามที่จะรักษาไว้อำนาจการควบคุมกำกับความก้าวหน้าของสังคม อีกทั้งยังตัดตอนการเติบโตของกระบวนการของประชาชน
“การอ้างถึงความสงบของบ้านเมืองเป็นเครื่องมือหลักที่ใช้จนกลายเป็นเรื่องปกติ การสื่อสารสะท้อนปัญหาต่างๆ ของประชาชน กลายเป็นเรื่องที่ฝ่ายการเมืองไม่ต้องการรับฟัง และเดินหน้ากำหนดนโยบายใช้งบประมาณแผ่นดิน เพื่อเลี้ยงปัญหาขาดแนวทางประชานิยม” นายสมบูรณ์ กล่าว
นายสมบูรณ์ กล่าวต่อว่า ในทางกลับกันปัญหาประชาชนกลับถูกมองข้าม เลือนให้หายไป รัฐบาลพยายามใช้กลไกอำนาจจำกัดสิทธิเสรีภาพทุกรูปแบบ เลือกรับใช้คนบ้างกลุ่ม เศรษฐกิจที่ควรกระจายสร้างโอกาสกลับกลายเป็นเรื่องการจัดสรรผลประโยชน์ของกลุ่มทุน แทนที่เราจะเห็นนักการเมืองที่เสียสละอุทิศตัว แต่กลับเต็มไปด้วยนักการเมืองที่ฉวยโอกาสเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มทุนพลังงาน ทุนอุตสาหกรรม ทุนโทรคมนาคม หรืออื่นๆ ทั้งภายในและต่างชาติ
โดยอาศัยการทุจริตทางนโยบายปรับเปลี่ยนแก้ไขและสร้างกฎหมายขึ้นมาเพื่อรองรับความชอบธรรมเหล่านั้น สิ่งที่น่าสลดใจก็คือ ธรรมาภิบาลในภาครัฐถูกทำลาย เพราะการแทรกแซงของกลุ่มผู้ได้ประโยชน์
“และการปล่อยให้ประเทศที่เผชิญสงคราม อันเป็นความขัดแย้งที่บานปลายกับประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่ควรเกิดขึ้น หากรัฐบาลมีความสามารถและวุฒิภาวะ ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ควรเป็นเรื่องปกติที่ประชาชนอย่างพวกเราจะยอมรับยอมจำนนกับระบบการเมืองการปกครองที่ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการ เราไม่ควรปล่อยให้ประเทศไหลเรื่อยไปสู่ชะตากรรมที่ไร้อนาคต” นายสมบูรณ์ กล่าว
ประชาชนควรลุกขึ้นมาส่งเสียงสะท้อนกำหนดอนาคตการเมืองอันใกล้นี้ เดินทางไปสู่การเมืองที่เห็นหัวประชาชนอย่างแท้จริง นั้นคือการคืนอาจให้กับประชาชนได้ตัดสินใจอนาคตของตนเอง โดยพ้นวังวนเดิมๆ ไปสู่การเมืองใหม่ที่ประชาชนเป็นตัวตั้งในสมการ เพื่อนำไปสู่การกำหนดการพัฒนาประเทศที่ไม่ใช่ต้องทำตามโจทย์ของนักการเมืองบ้านใหญ่
นายสมบูรณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การคืนอำนาจให้แก่ประชาชนคือทางออกที่ดีที่สุด คือ ‘การยุบสภา’
ด้าน น.ส.ลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า ในนามผู้เข้าร่วมการประชุมเครือข่ายภาคประชาชน เรามีข้อสรุปชัดเจนว่า ต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน เพราะเราเห็นว่า อยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐพันลึก ไม่ได้ตอบสนองต่อปัญหาของประชาชน เราเห็นปรากฏการณ์มากมาย ทั้งการใช้รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือในการปลดนายกรัฐมนตรี การออกแบบ ส.ว. รวมถึงการให้องค์กรอิสระชี้ชะตาบ้านเมือง โดยไม่เห็นแก่ประชาชน เราเห็นการปรากฏของการคอร์รัปชันและการทุจริต เราเห็นตึก สตง. ถล่ม เราเห็นข้าราชการที่ดีถูกไล่บี้ให้ออกจากราชการ
“สิ่งเหล่านี้เป็นการสมยอมระหว่างการเมืองกับรัฐพันลึก ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ที่ทำให้อำนาจเหล่านี้ได้ชอนไช กัดเซาะฐานรากของประชาชน เราเห็นว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ไม่ใช่ให้คนไม่กี่คนมาชี้ว่าจะทำได้หรือไม่ได้ การเรียกร้องให้ยุบสภาเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน” น.ส.ลัดดาวัลย์ กล่าว
จากนั้น นายจำนงค์ หนูพันธ์ ประธานที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) กล่าวว่า จากสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน มองว่าควรคืนอำนาจให้ประชาชนได้ตัดสินใจอีกครั้ง ในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ ทั้งเรื่องการเกษตร ที่ดิน ที่อยู่อาศัย และปัจจัยขั้นพื้นฐานต่าง ๆ สถานการณ์เหล่านี้เหมาะสมที่จะคืนอำนาจให้ประชาชนในการตัดสินใจ ยืนยันว่า ‘การยุบสภาคือทางออกที่ดีที่สุดของประเทศไทยในตอนนี้’
ด้าน ตัวแทนองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเกมการเมือง อยากเป็นอีกหนึ่งเสียงที่เรียกร้องให้มีการยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน ถึงเวลาแล้วที่ปัญหาปากท้องของประชาชน จะต้องไม่ถูกทิ้งไว้เป็นเพียงนโยบายหาเสียง แต่ต้องเป็นการคืนสิทธิและเสียงกลับมาสู่ประชาชน
“ในฐานะประชาชน เราอยากเติบโตในบ้านเมืองที่มั่นคงและก้าวหน้า ทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจ แต่ขณะนี้เกมการเมืองกลับเป็นสิ่งที่เราคาดหวังไม่ได้ แต่เราคาดหวังว่า การรัฐประหารจะไม่เกิดขึ้นอีก
ขณะนี้ ในสภาวะสุญญากาศ นักการเมือง เยาวชน ประชาชน และผู้คนรากหญ้าต้องร่วมกันเติมเต็มและสนับสนุนให้เกิดการยุบสภา เพื่อให้เยาวชนและประชาชนได้เห็นความหวังของประชาธิปไตยที่ปลายอุโมงค์อีกครั้ง” ตัวแทนองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กล่าว
และสุดท้าย ตัวแทนสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กล่าวว่า ในนามตัวแทน ขอยืนยันให้มีการยุบสภา เนื่องจากสภาวะความไม่แน่นอนในปัจจุบัน และเกมการเมืองที่ไม่อาจเลือกข้างได้ ถึงเวลาที่ต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิในการปกครองประเทศอย่างแท้จริง
“อำนาจไม่ควรอยู่ในมือของนักการเมืองคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มก้อนใดกลุ่มก้อนหนึ่ง ควรถึงเวลาคืนอำนาจให้ประชาชนแล้ว วันนี้ผมจึงอยากเรียกร้องอีกครั้ง เพื่อให้ประชาชนได้มีสิทธิเลือกเส้นทางชีวิตของตนเองภายในประเทศแห่งนี้” ตัวแทนสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ภาคีเครือข่ายฯ หนุน ‘ยุบสภา’ เปิดทางการเมืองใหม่ ‘ประชาชน’ เป็นตัวตั้ง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net