ศึกนิติสงคราม! ไล่บี้‘ทักษิณ-แพทองธาร’ ยังไม่จบ
แม้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะมีคำวินิจฉัยในคดี “คลิปเสียงฮุนเซน” ไปแล้ว แต่สำหรับสองบุคคลสำคัญใน“ตระกูลชินวัตร” ทั้ง ทักษิณ ชินวัตร และ แพทองธาร ชินวัตร เส้นทางด้านกฎหมายยังอีกยาวไกล เพราะ“นิติสงคราม” ยังคงตามหลอกหลอน
9 ก.ย.“ทักษิณ”ลุ้นคดีชั้น 14
คดีที่เหลือเพียงคดีเดียว ของ ทักษิณ ชินวัตร แต่ถือว่าเป็นคดีที่สังคมจับตา เพราะสะท้อนภาพการบังคับใช้กฎหมายกับอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกตัดสินโทษจำคุกแล้ว แต่ไม่ได้อยู่ในเรือนจำจริง
เป็นคดีการบังคับโทษจำคุก ระหว่างที่ ทักษิณ ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำตามหมายศาล แต่กลับไปพักรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 นานเกือบ 1 ปีเต็ม
ฝ่ายร้องเรียนเห็นว่า เป็นการบิดเบือนการบังคับโทษ ไม่เป็นไปตามหลักการคุมขังนักโทษ และ อาจเข้าข่ายการใช้อำนาจโดยมิชอบ
สถานะล่าสุด คือ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กำหนดนัดอ่านคำสั่งในวันที่ 9 ก.ย. 2568 เวลา 10.00 น. ซึ่งจะเป็นการตัดสินชี้ขาดว่า ทักษิณ จะต้องกลับไปชดใช้โทษในเรือนจำหรือไม่
โดยศาลได้กำหนดให้บุคคลดังต่อไปนี้เข้าฟังคำสั่งด้วยตนเอง
1.นายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะจำเลย
2.นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบังคับโทษและการควบคุมตัว
ความน่าจะเป็นของผลคำวินิจฉัยคดีนี้มี 2 แนวทาง คือ
1. “ทักษิณ”กลับเข้าเรือนจำ
2. “ทักษิณ”ไม่ต้องกลับเข้าเรือนจำ
“แพทองธาร” 2 คดีในมือป.ป.ช.
แม้คดี แพทองธาร ชินวัตร กรณีคลิปเสียงฮุนเซน ที่ถูกนำขึ้นศาลรัฐธรรมนูญ จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ แพทองธาร ยังมี “ระเบิดเวลา” ทางการเมืองและกฎหมายในมือ อีก 2 คดี ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ-ไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
1. คดีจริยธรรมร้ายแรง “คลิปเสียงฮุนเซน”
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีออกมาแล้ว ป.ป.ช. ก็ต้องเดินหน้าสอบสวนในฐานะ “คดีจริยธรรมร้ายแรง”
ประเด็น คือ การสนทนาระหว่าง แพทองธาร กับ สมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งฝ่ายตรงข้ามการเมืองกล่าวหาว่า เข้าข่าย “ขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนรวมกับผลประโยชน์ทางการเมือง” หาก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด คดีนี้จะส่งเข้าสู่กระบวนการถอดถอน โดยไปที่“ศาลฎีกา” และอาจมีผลถึงขั้นตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต
2. คดีโยกงบ “เงินดิจิทัล 10,000 บาท”
โครงการเรือธงของรัฐบาลเพื่อไทย กำลังถูกตรวจสอบว่า ใช้งบประมาณไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ข้อกล่าวหา คือ มีการโยกงบประมาณเพื่อรองรับโครงการแจกเงินดิจิทัลโดยมิชอบ และเข้าข่ายใช้งบเพื่อประโยชน์ทางการเมือง
ป.ป.ช. กำลังไต่สวนอย่างละเอียด ทั้งในมิติการใช้งบประมาณ การผ่านความเห็นชอบ ครม. และข้อกฎหมายการคลัง
หากถูกชี้มูลว่าเข้าข่าย “จงใจใช้อำนาจโดยมิชอบ” อาจนำไปสู่ความผิดจริยธรรมร้ายแรง และโทษรุนแรงถึงขั้นตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต
“นิติสงคราม”ที่ยืดเยื้อ
ภาพรวมสถานการณ์กฎหมายของ“ตระกูลชินวัตร” สะท้อนว่าการต่อสู้ในสนามการเมืองไทย ยังผูกพันกับ “นิติสงคราม” อย่างแยกไม่ออก
“ทักษิณ” แม้จะเหลือเพียงคดีเดียว แต่หากผลออกมาให้ต้องกลับเข้าเรือนจำจริง ก็อาจกระทบต่อพรรคเพื่อไทย
ขณะที่ “แพทองธาร” ยังมีคดีค้างอยู่ใน ป.ป.ช. ถือเป็น “เงามืด” ที่พร้อมปกคลุมอนาคตทางการเมืองของเธอ
“นิติสงครามยังไม่จบ” เพราะแม้คำวินิจฉัยคดีสำคัญในศาลรัฐธรรมนูญจะผ่านไปแล้ว แต่คดีที่เหลือของ “ทักษิณ” และ “แพทองธาร” ยังคงรอวันชี้ชะตา ทั้งในมิติของกระบวนการยุติธรรม และ ผลสะเทือนทางการเมือง
ทุกสายตาจึงยังต้องจับจ้องว่า ในเดือนกันยายนนี้ และ ตลอดปลายปี 2568 กฎหมายจะ “ปิดฉาก” ตระกูลชินวัตร ในเวทีการเมือง หรือ เพียงแค่ “เปิดฉากใหม่” ของสงครามยืดเยื้อที่ยังไม่มีคำว่า “จบ”
รายงานพิเศษ โดย…ทีมข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4126