เฮหวยเกษียณผ่านฉลุย ประเดิมขายไตรมาส4
"หวยเกษียณ" ผ่านวาระสามฉลุย 427 เสียง "รมช.คลัง" ยันไตรมาส 4 ปีนี้ได้ซื้องวดแรกแน่ ใบละ 50 บาท ไม่เกิน 3 พันบาทต่อเดือน ชี้เงินไม่หาย เปลี่ยนวันศุกร์เป็นความสุขของคนออม เปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไป ได้เงินคืนทุกบาทตอน 60 ปี ถูกรางวัลที่ 1 คว้าเงินล้าน โอนเข้าพร้อมเพย์ทันที
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม เวลา 11.35 น. ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่..) พ.ศ….. หรือ พ.ร.บ.หวยเกษียณ หรือสลาก กอช. ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยเป็นการพิจารณาในวาระ 2 พิจารณาเรียงมาตรา
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธาน กมธ. ชี้แจงว่า กมธ.ได้พิจารณาอย่างรอบด้าน เพื่อเป็นประโยชน์สูงสุด โดยมีการแก้ไขใน 6 ประเด็นคือ 1.เรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย 60 วัน เพื่อพัฒนาเกี่ยวกับตัวความพร้อมของตัวระบบ และความพร้อมของแอปพลิเคชัน กอช. ในการเปิดใช้งาน 2.แก้ไขเรื่องเงินรางวัล ที่สามารถระบุไว้ในกฎกระทรวงระดับรองได้ เพื่อง่ายต่อการแก้ไข และเพื่อเป็นความยืดหยุ่นของการดำเนินการ เพื่อทำให้โครงการหวยเกษียณมีความยืดหยุ่นและความเหมาะสมและประสิทธิภาพต่อระบบเศรษฐกิจให้ได้มากที่สุด สอดคล้องกับความต้องการของพี่น้องประชาชนมากที่สุด
3.แก้ไขเรื่องการเปิดโอกาสให้มีการถอนเงินก่อนอายุ 60 ปี มีการระบุไว้ในกฎกระทรวงเพื่อที่จะสามารถแก้ไขได้ในอนาคต อาจจะมีการขีดเส้นว่ามีเงินฝากเท่านี้ สามารถถอนออกมาได้ในอนาคต เพื่อประโยชน์สูงสุดของโครงการให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด 4.มีการแก้ไขเรื่องเกี่ยวกับการเปิดโอกาสให้ผู้ทุพพลภาพสามารถถอนเงินได้ก่อนอายุ 60 ปี เป็นจำนวน 3 ครั้ง จากเดิม 1 ครั้ง 5.แก้ไขให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ กอช. ในการคืนเงินต้นทุกบาทให้กับประชาชนตอนอายุ 60 ปี และ 6.แก้ไขประเด็นปลีกย่อย
ส่วนเรื่องของหวยเกษียณ หรือสลาก กอช. เป็นนวัตกรรมการออมใหม่ที่สนับสนุนให้พี่น้องประชาชนเกิดการออม โดยการผูกเรื่องความชอบของพี่น้องคนไทย ที่ชอบเสี่ยงดวง ลุ้นโชค มาแก้ไขปัญหาขาดการออมของประเทศไทย ภายใต้หลักคิดว่า ซื้อหวยเงินไม่หาย กลายเป็นเงินออม โดยเปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป และมีสัญชาติไทยทุกกลุ่ม ทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ แรงงานในระบบ แรงงานนอกระบบ พนักงานออฟฟิศซื้อได้
“สามารถซื้อสลากได้ใบละ 50 บาท รางวัลที่ 1 จำนวน 1 ล้านบาท 5 รางวัล, รางวัลที่ 2 จำนวน 1 พันบาท 1 หมื่นรางวัล วันศุกร์ เวลา 17.00 น. จะมีการประกาศรางวัล ถ้าท่านถูกรางวัล รางวัลจะถูกโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ทันที เอาไปใช้ได้เลย ไม่ต้องเก็บออมต่อ แต่เงินที่ซื้อทุกบาททุกสตางค์ไม่ว่าท่านจะถูกรางวัลหรือไม่ถูกรางวัล 50 บาทที่ซื้อสลากนั้น จะเก็บเข้าไปสู่เงินออมในบัญชีส่วนตัวของท่านโดยอัตโนมัติ เงินออมก็จะพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ และรัฐบาลคืนเงินทุกบาททุกสตางค์ที่พี่น้องประชาชนซื้อหวยเกษียณตลอดชีวิตตอนอายุ 60 ปี เพราะฉะนั้นตอน 60 ปีพี่น้องประชาชนจะมีเงินออมที่เคยเก็บสะสมมาตลอดชีวิตเอาไปใช้ในยามเกษียณ เพื่อการดำรงชีพเพื่อความมั่นคงในการดำเนินชีวิต” นายเผ่าภูมิระบุ
สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี สามารถซื้อได้ แต่ต้องเก็บไว้ 5 ปี เช่น อายุ 62 ปี ซื้อได้แล้วเก็บสะสมไว้ 5 ปี พออายุ 67 ปี ได้รับเงินคืนทุกบาททุกสตางค์ทันที หากเสียชีวิต เงินทั้งหมดจะตกอยู่กับทายาทหรือคนที่ท่านระบุไว้ตอนสมัคร
“ฉะนั้นโครงการนี้ประชาชนจะได้ 3 เด้ง คือ 1.ได้ลุ้นทุกวันศุกร์ตอน 5 โมงเย็น ถูกล้านได้ล้านโอนทันที 2.ได้เก็บออม จะมีเงินล้านตอนอายุ 60 ปี ถ้ามีการสะสมอย่างต่อเนื่อง และ 3.ได้ผลตอบแทนการลงทุน ที่ กอช.นำไปลงทุน เพื่อที่จะเป็นผลประโยชน์เพื่อเติมให้กับพี่น้องประชาชน นี่คือโครงการที่รัฐบาลนำเสนอโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปรับปรุงแก้ไขโดย กมธ. เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน ภายใต้หลักการซื้อหวยเงินไม่หายกลายเป็นเงินออม และเปลี่ยนวันศุกร์เป็นความสุขของคนออม” รมช.การคลังระบุ
จากนั้นสมาชิกอภิปรายในมาตรา 2 ถึงผลบังคับใช้ของกฎหมาย 60 วัน ต้องการให้กลับไปใช้ 30 วันเหมือนเดิม เพราะขั้นตอนกว่าจะออกกฎหมายใช้เวลานานอยู่แล้ว มีการแก้ไขกฎหมายรองรับหรือไม่ และให้ยืนยันว่าหากให้ระยะเวลา 60 วัน กระทรวงการคลังทำทันหรือไม่
นายเผ่าภูมิชี้แจงว่า การเตรียมการของกระทรวงการคลังและ กอช. มีกระบวนการในการที่จะต้องแก้ไขกฎหมายระดับรอง เรื่องกฎกระทรวงต่างๆ จะมีการดำเนินการ ซึ่งปัจจุบันมีการเตรียมดำเนินการ และจะต้องเสนอ ครม.ต่อไป ซึ่งทำให้ กมธ.และผู้ที่เกี่ยวข้องมองว่า 60 วันเป็นระยะเวลาที่เหมาะสม ซึ่ง 60 วัน ทำให้เราเห็นว่าหวยเกษียณจะเกิดขึ้นในไตรมาส 4 ปีนี้ จะเปิดให้มีการซื้อสลากในงวดแรกภายในไตรมาส 4 ปีนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส.ส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนหวยเกษียณ เพื่อเป็นแนวทางออมเงินของคนไทยที่ชอบเสี่ยงโชค แต่อยากให้เพิ่มหลักเกณฑ์สามารถถอนเงินจากการซื้อหวยเกษียณออกมาใช้ได้เป็นช่วงๆ ไม่ต้องรอถึงอายุ 60 ปี เพราะนานเกินไป เนื่องจากผู้ซื้อเริ่มเข้าสู่วัยการศึกษาและวัยทำงาน จำเป็นที่จะต้องมีทุนในการใช้ชีวิต ขณะที่ สส.บางส่วนอยากให้แก้หลักเกณฑ์ผู้ซื้อสลาก กอช. จาก 15 ปีเป็น 18 ปี
โดยนายเผ่าภูมิในฐานะประธาน กมธ.ชี้แจงว่า หวยเกษียณไม่ใช่การพนัน เพราะทุกบาททุกสตางค์ที่ซื้อคือเงินออม จึงควรเปิดกว้างเรื่องฐานอายุให้มากที่สุด คนมีอายุ 15 ปี มีวุฒิภาวะการตัดสินใจ เข้าสู่การออมได้แล้ว เมื่อเทียบกับสลากออมสิน สลาก ธ.ก.ส. มีการกำหนดอายุ 7 ปี ซึ่้งน้อยกว่าหวยเกษียณ ทาง กมธ.จึงพิจารณาเห็นว่า 15 ปี เหมาะสมในการสนับสนุนการออมของประเทศ และการออมไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจ ยิ่งออมได้เร็วเท่าไรยิ่งเป็นผลดี
ส่วนการขอให้ถอนเงินซื้อหวยเกษียณได้ก่อนเกษียณอายุนั้น กมธ.ได้เพิ่มหลักเกณฑ์ใหม่ โดยออกเป็นกฎกระทรวงเปิดช่องให้ถอนเงินบางส่วนได้ก่อนอายุ 60 ปี เช่น เมื่อสะสมเงินครบถึงจำนวนหนึ่งที่เพียงพอต่อการยังชีพแล้ว เงินส่วนเกินสามารถถอนออกมาได้ สร้างความสมดุลระหว่างการออมกับความจำเป็นในการใช้เงิน เพื่อให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
รมช.การคลังกล่าวถึงเหตุผลที่จำกัดการซื้อหวยเกษียณใบละ 50 บาท อยู่ที่ 3,000 บาทต่อคนต่อเดือนว่า ได้เปิดสิทธิ์ให้กับทุกคนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป และมีสัญชาติไทย จึงมีทั้งคนรวยและคนที่ยังไม่รวย เราไม่ต้องการให้คนรวยมากว้านซื้อ จึงกันไว้ที่ 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน เพื่อไม่ให้คนที่มีรายได้สูงมาแย่งสิทธิ์ของคนที่มีรายได้น้อย เพราะเจตนารมณ์คือคนที่มีรายได้น้อย คนที่เป็นฐานของประเทศ จึงต้องพัฒนาคนกลุ่มนี้ให้มีการออมเกิดขึ้น
“อีกหนึ่งเจตนาของหวยเกษียณคือหวยใต้ดิน เพราะนี้คือหวยที่เงินไม่หาย เป็นหวยที่ทุกบาทกลายเป็นเงินออม เพราะฉะนั้นด้วยตัวของมันเองสามารถต่อสู้กับหวยใต้ดินได้ ลองนึกภาพดูหวยใต้ดินพี่น้องประชาชนมีความสุขตอนซื้อ แต่มีความทุกข์ตอนถูกหวยกิน และเงินที่ถูกหวยกินลงสู่ใต้ดิน ไม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ แต่หวยเกษียณเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ” นายเผ่าภูมิ กล่าว
ภายหลัง สส.อภิปรายครบถ้วนทุกมาตราแล้ว จากนั้นเป็นการลงมติวาระ 3 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ ด้วยคะแนน 427 เสียง ไม่เห็นชอบ 1 เสียง งดออกเสียง 3 ไม่ลงมติ 4 เสียง.