โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อัพเดท สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด วันนี้ 25 ก.ค. 68

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 22 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ฐานเศรษฐกิจ ยังคงเกาะติดอัพเดท "สถานการณ์การปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา" ล่าสุดวันนี้ 25 ก.ค. 2568 อย่างต่อเนื่อง

โดย พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก สรุปสถานการณ์เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมาว่า ยืนยันว่าไทยไม่ได้มีเจตนาหรือแรงจูงใจที่จะโจมตีฝ่ายกัมพูชา และไม่ได้ประโยชน์ใดจากการกระทำดังกล่าว

การปฏิบัติการของกองทัพไทยเกิดขึ้นภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ และตามกฎบัติสหประชาชาติ มาตรา 51 ที่อนุญาตให้ประเทศใช้กำลังในการป้องกันตนเองจากการโจมตี

พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การตอบโต้ของไทยมุ่งเน้นไปที่การทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และขอให้ทั้งสองฝ่ายพยายามเจรจาหาทางออกในระดับรัฐบาล เพื่อไม่ให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว

ในส่วนของการโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกัมพูชา โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า การใช้อาวุธในพื้นที่จำกัดและเน้นเป้าหมายทหารเป็นหลักเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎสากล ซึ่งการโจมตีพลเรือนนั้นถือเป็นการละเมิดกฎระเบียบของนานาชาติ

เกี่ยวกับการส่งเครื่องบิน F-16 ของไทยโจมตี 2 รอบ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การใช้เครื่องบินโจมตีนี้มีความแม่นยำ และไม่ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายที่ไม่ใช่ตามแผนที่วางไว้

ทั้งนี้ ฝ่ายไทยยังไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความสูญเสียของฝ่ายกัมพูชาอย่างเป็นทางการ และยังไม่สามารถประเมินได้ว่าการปฏิบัติการนี้จะยืดเยื้อไปนานแค่ไหน

อัพเดทตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บล่าสุด (ณ เวลา 22.00น. 24ก.ค.68)

กระทรวงสาธารณสุข ได้อัปเดตล่าสุดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาเพิ่มขึ้นเป็น 14 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 13 ราย เป็นพลเรือนและ 1 รายเป็นทหาร ส่วนผู้บาดเจ็บยังคงมีจำนวนมาก โดยมีรายละเอียดดังนี้

พลเรือน

  • เสียชีวิต 13 ราย
  • บาดเจ็บสาหัส 7 ราย
  • บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย
  • บาดเจ็บเล็กน้อย 12 ราย

ทหาร

  • เสียชีวิต 1 ราย
  • บาดเจ็บสาหัส 6 ราย
  • บาดเจ็บปานกลาง 5 ราย
  • บาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย

Update สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาล่าสุด 25 ก.ค.68

00.26 น.

  • มีคำสั่งด่วน ให้เจ้าหน้าที่บุคลากรโรงพยาบาลบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ทั้งหมดอพยพออกจากพื้นที่ทันที

03.25 น.

  • เปิดฉากยิงปะทะ กันอีกเสียงปืนดัง ด้าน อ.กันทรลักษ์

05.30 น.

  • อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ บริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม และ ปราสาทตาควาย เริ่มมีการปะทะด้วยอาวุธปืน บริเวณดังกล่าว

06.30 น.

  • กองทัพภาคที่2 และตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 กำลังเร่งดำเนินการเข้าเก็บกู้วัตถุระเบิด ที่ตกค้าง ณ ปตท. บ้านผือ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตออกจากพื้นที่

08.00 น.

  • กองทัพภาคที่ 2 แจ้งเตือน ขณะนี้เกิดการปะทะในพื้นที่ตามแนวชายแดนหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่ตามแนวชายแดน

10.00 น.

  • กัมพูชายิงอาวุธหนักเข้าใส่ฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น(เขาสัตโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นเหตุให้กำลังพลเสียชีวิต 1 นาย ทราบชื่อ จ.ส.อ. ธวัชชัย บุสภา ตำแหน่ง นายสิบ ลว. ป.6 พัน.106 (ผตน.ฟ้าลั่น) และได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ ส.อ.ยงยุทธ พิมพกรรณ์ กรุ๊ปเลือด โอ บาดเจ็บบริเวณใบหน้า รู้สึกตัวตอบสนองได้
ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

กูรูเปิดโผ 7 กลุ่มหุ้นไทย รับผลกระทบความขัดแย้งไทย - กัมพูชา ปะทุ

25 นาทีที่แล้ว

ส่องโอกาส Medical Hub ภูมิภาคอาเซียน เวียดนาม อินโดฯ มาเลเซีย แรงแซงหน้าไทย

25 นาทีที่แล้ว

ปตท.สผ. นำส่งรายได้รัฐครึ่งปีกว่า 3 หมื่นล้าน-จ่ายปันผล 4.10 บาท

36 นาทีที่แล้ว

เช็กเรือโดยสารข้ามฟากในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา มีกี่เส้นทางที่ไหนบ้าง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่นๆ

เปิดคู่มือเอาตัวรอดภัย ‘สงคราม’ ชายแดนไทย-กัมพูชา

เดลินิวส์

‘ทูตกัมพูชา’ ตีมึนโวย ‘ไทย’ ต้องหยุดยิง แต่ ‘ทหารเขมร’ เปิดฉากยิง ‘ภูมะเขือ’ แต่เช้ามืด

เดลินิวส์

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง

สำนักข่าวไทย Online

ไฟไหม้โกดังเก็บผ้าย่านทุ่งครุ ดับเพลิงระดมฉีดน้ำกว่าครึ่งชม. เร่งหาสาเหตุ!

เดลินิวส์

‘ทีมโฆษกกองทัพบก’ โพสต์อาลัย 6 ทหารกล้า เสียชีวิตจากการปฏิบัติภารกิจ พิทักษ์อธิปไตยของชาติ

เดลินิวส์

เกาะติดสถานการณ์เหตุปะทะไทย-กัมพูชา 26 ก.ค. 68 ยังมีเหตุปะทะต่อเนื่อง

PPTV HD 36

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 26 ก.ค. 68

AEC10NEWs

ราคาน้ำมันวันนี้ (26 ก.ค. 68) เช็กราคาดีเซล-แก๊สโซฮอล์ล่าสุด

ประชาชาติธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...