'สรวงศ์' ร่วมเสวนา 'ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก' ระดมสมองจากผู้นำองค์กรชั้นนำ รวมพลังเศรษฐกิจไทย
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงฯ และโฆษกกระทรวงฯ, นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ, นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีฯ และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าร่วมงานเสวนาระดมสมองครั้งสำคัญจากผู้นำองค์กรชั้นนำ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมกันนำเสนอข้อมูลสำคัญด้านเศรษฐกิจ ผ่านเวทีเสวนาในหัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” (Unlocking Thailand’s Future) เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.30 น.
ภายในงานเริ่มต้นด้วยการเสวนาในหัวข้อ “ปลดล็อกทุกข้อจำกัด สร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน เพื่ออนาคตไทย” เป็นการแลกเปลี่ยนแนวคิดในช่วงเวลาที่โลกและประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า มาตรการทางภาษี และการเงินการคลัง รวมถึงการขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศ
นายสรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “การที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนลดลง ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในระดับหนึ่ง แต่ก็มีตลาดใหม่เข้ามาทดแทน เช่น นักท่องเที่ยวจากอิสราเอลที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 70% จากปีที่ผ่านมา และยังมีนักท่องเที่ยวจากประเทศรองอื่น ๆ อาทิ ยูเครน สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา อิตาลี และอินเดีย โดยเฉพาะอินเดียซึ่งในปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวมากถึง 2.1 ล้านคน
ในปีนี้จะมีอีเวนต์สำคัญที่รัฐบาลมองว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามายังประเทศไทยได้มากขึ้น ผมเชื่อมั่นว่าภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นความหวังในการพัฒนาประเทศอย่างแน่นอน แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลงในบางช่วง แต่ภาพรวมยังถือว่าเป็นภาคส่วนที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยได้
ในช่วงครึ่งปีหลัง เรามีอีกหลายกิจกรรมที่จะเสนอให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เช่น งบประมาณ 157,000 ล้านบาท ที่เตรียมไว้เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมถึงการสนับสนุนภาคเอกชนด้านการเดินทาง เช่น การเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน ซึ่งรัฐบาลมองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า โดยท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่จำกัดเฉพาะฤดูกาล
นอกจากนี้ ในช่วงกลางปีนี้ ประเทศไทยยังได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก FIVB Women’s World Championship 2025 ซึ่งมี 32 ประเทศเข้าร่วมแข่งขันใน 4 จังหวัดเจ้าภาพ สร้างโอกาสในการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้จัดทำแพ็กเกจส่งเสริมการใช้จ่ายของนักกีฬาและแฟนกีฬา เพื่อให้อยู่ในประเทศไทยได้นานขึ้น
ช่วงปลายปีนี้ ประเทศไทยยังจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และในต้นปีหน้าจะเป็นเจ้าภาพอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้จะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยอย่างเป็นรูปธรรม”