สวยหล่อแบบเกาหลี "K-Beauty" โตแซงหน้าอเมริกา ขึ้นแท่นเบอร์ 2 เครื่องสำอางโลก
"K-Beauty" สู่ระดับสากล
มาแรงที่สุดในระดับโลกตอนนี้ คือ เครื่องสำอางของเกาหลีใต้
ไม่ใช่แค่คนไทยที่นิยม อยากสวยหล่อเหมือนดาราเหมือนไอดอลเกาหลี
แต่วันนี้ยอดการส่งออกเครื่องสำอางเกาหลีใต้ แซงหน้าสหรัฐอเมริกาไปแล้ว
กลายเป็นเบอร์สองของโลก เป็นรองเพียงแค่พี่ใหญ่ฝรั่งเศสประเทศเดียว
กระแส K-beauty มาแรงไม่แผ่ว คนไทยเรารู้จักกันดี
หลายคนใช้กันอยู่แล้ว ตั้งแต่คุชชั่นไปจนถึงน้ำตบ
ส่วนหนึ่งมาจากอิทธิพลของ K -POP K - Drama
ตั้งแต่ซีรีส์ไปจนถึงเพลงจากเกาหลีใต้ เราได้เห็นหน้าตาสวยๆหล่อๆของไอดอล
และนักแสดงชั้นนำ ที่ต่างก็เป็นพรีเซนเตอร์สินค้าต่างๆ ในตลาดความงาม
ตั้งแต่ของกินยันของใช้ ที่แฟนคลับก็อยากจะอุดหนุน
ยิ่งถ้าใครดูซีรีส์ น่าจะเข้าใจ และเห็นภาพได้ชัด
หลายครั้งที่กล้องตั้งใจจับภาพตอนที่นางเอกแต่งหน้าด้วยลิปติกของเกาหลียี่ห้อดัง
หรือก่อนนอนและตอนเช้าต้องทาครีมตัวไหนบ้าง นางเอกก็ขยันทาให้ดู
รวมไปถึงสไตล์การแต่งหน้า ของคนเกาหลีใต้
กับสายฝอ หรือแบบตะวันตก แบบฝรั่งก็แตกต่างกัน
ความหวาน ความใส เน้นเป็นธรรมดา ถือเป็นหัวใจหรือ Beauty Standard ของเกาหลี
หลายคนดูแล้วก็อยากสวยอยากหล่อตามแบบฉบับนี้
แน่นอนว่าก็ต้องอยากใช้สินค้าของเกาหลีใต้เท่านั้น จะได้ถอดแบบออกมาเหมือนกันเป๊ะๆ
แม้กระทั่งผู้ชายเองสมัยนี้ก็มีการดูแลตัวเอง แต่งหน้าเป็นเรื่องปกติ
เช่นเหล่าไอดอลหรือนักร้องของเกาหลีที่นิยมแต่งหน้าเขียนตา หรือทำสีผมให้ดูสดใส
และทั้งหมดนี้มีสินค้าภายใต้แบรนด์เกาหลีรองรับอยู่ทุกตัว
แต่ถามว่ากระแสเหล่านี้จะไปได้ไกลแค่ไหน หรือฮิตแค่ไทยเท่านั้น
คำตอบ คือ ไปได้ไกลระดับโลก
ข้อมูลจากทางการเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ยอดส่งออกเครื่องสำอางของเกาหลีใต้
4 เดือนแรกของปี 2568 พุ่งแรงแซงหน้าสหรัฐอเมริกาได้เป็นครั้งแรก
และขึ้นแท่นกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากฝรั่งเศส
ข้อมูลของสมาคมการค้าระหว่างประเทศเกาหลีใต้ (KITA) ระบุว่า
ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน 2568 ยอดส่งออกเครื่องสำอางของเกาหลีใต้
แตะ 3.61 พันล้านดอลลาร์ มากกว่าสหรัฐฯ ซึ่งส่งออกได้ที่ 3.57 พันล้านดอลลาร์
แม้ตัวเลขจะห่างกันไม่มากนัก แต่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่เกาหลีใต้สามารถแซงหน้าสหรัฐฯ ได้สำเร็จในตลาดความงามโลก
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 68
เกาหลีใต้ยังตามหลังสหรัฐฯ โดยมียอดส่งออกแตะ 2.58 พันล้านดอลลาร์
เทียบกับสหรัฐฯ ที่ 2.72 พันล้านดอลลาร์
ก่อนที่ยอดส่งออกของเกาหลีใต้จะพุ่งหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลายคนอาจจะคิดว่าเครื่องสำอางเกาหลีอาจจะขายได้แค่ในเอเชีย
แต่ในความเป็นจริง สินค้าจากเกาหลีใต้กำลังมาแรงไปทั่วโลกแล้ว
โดยเฉพาะในตลาดใหม่อย่างยุโรปและตะวันออกกลาง
เช่น โปแลนด์ ไอร์แลนด์ เบลเยียม และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)
เจาะตัวเลขแค่ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้
ยอดส่งออกเครื่องสำอางของเกาหลีใต้ไปยังโปแลนด์
รวมมูลค่าอยู่ที่ 111.8 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 121% เมื่อเทียบรายปี
ส่วนยอดส่งออกไปยัง UAE พุ่งขึ้น 74% แตะ 99.3 ล้านดอลลาร์
จาก 57 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
เครื่องสำอางเกาหลีใต้ ปี 67 นิวไฮ ทะลุหมื่นล้านเหรียญ
เครื่องสำอางเกาหลีใต้ กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง
ปีที่แล้ว ทำสถิตินิวไฮ ส่งออกได้กว่าหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
และโตที่สุดในกลุ่มท้อปทรีของโลก
ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้เองก็เร่งเครื่อง ส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง
รายงานจากสมาคมการค้าระหว่างประเทศเกาหลีใต้
ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว (2567)
เกาหลีใต้ส่งออกเครื่องสำอางรวม 1.03 หมื่นล้านดอลลาร์ โต 20.3% เมื่อเทียบรายปี
แซงหน้าเยอรมนีขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของโลก
ส่วนอันดับหนึ่ง คือ ฝรั่งเศส ที่ขยายตัวเพียง 6.3%
และอันดับสอง คือสหรัฐฯ โตที่ 1.1%
จะเห็นได้ว่าการเติบโตมากกว่าหลายประเทศชั้นนำ
การันตีถึงความแกร่งของกระแส K Beauty
ขณะเดียวกันรัฐบาลของเกาหลีใต้ก็มีการส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง
ย้อนกลับไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมาทางการของเกาหลีใต้
โดยกระทรวงความปลอดภัยอาหารและยาของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า
ยอดส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของเกาหลีใต้ที่มีมูลค่าทะลุ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567
นับเป็นหลักชัยสำคัญของอุตสาหกรรมความงามเกาหลี
รายงานระบุว่า ยอดส่งออกเครื่องสำอางของเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 20.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี
สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.02 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2567
หรือคิดเป็นเงินไทยคือมากกว่า 3.4 แสนล้านบาท
เพิ่มขึ้น 20.6% จากปีก่อน
มาจากแรงหนุนของ K Culture หรือกระแสวัฒนธรรมเกาหลี
ที่ได้กำลังเติบโตได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สินค้า Skin Care ได้รับความนิยม - ส่งออกพุ่งสูงสุด
สินค้าที่ขายดี ส่งออกเยอะที่สุด คือ กลุ่มของ Skin Care
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวขั้นพื้นฐานมีมูลค่าการส่งออกสูงสุดที่ 7,670 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( 265,458 ล้านบาท)
ตามด้วยเครื่องสำอางแต่งหน้า ที่ 1,350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( 46,723 ล้านบาท)
และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ที่ 470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (16,266 ล้านบาท)
ซึ่งกลุ่มของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุด
คือยอดเพิ่มขึ้นถึง 30.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี
แล้วถามว่าประเทศนำเข้าเยอะสุด หรือชอบสินค้าจากเกาหลีมากสุด
พบว่ามีประเทศจีนเป็นเบอร์หนึ่ง
จีนนำเข้าเครื่องสำอางเกาหลีใต้มากที่สุดด้วยมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์
ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกา 1.9 พันล้านดอลลาร์
และญี่ปุ่น 1 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ยังมีฮ่องกง เวียดนาม รัสเซีย และไต้หวัน
รวมถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ที่ติดอันดับ 10 อันดับแรก
แซงหน้ามาเลเซีย
เจ้าหน้าที่ในอุตสาหกรรมดังกล่าวให้ข้อมูลว่า
ผู้บริโภคในสหรัฐให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
ซึ่งมีส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพ
ส่วนผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นสนใจเครื่องสำอางที่มีสีสันเฉพาะ
และบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัย
ขณะที่สื่อของเกาหลีใต้ สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า โอ ยูคยอง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความปลอดภัยอาหารและยา ระบุว่า
“รัฐบาลจะเสริมสร้างความร่วมมือกับบรรดาประเทศคู่ค้า
เพื่อช่วยให้บริษัทในประเทศขยายการส่งออกเครื่องสำอางต่อไปได้
พร้อมทั้งช่วยให้บริษัทเหล่านี้สามารถปฏิบัติ
ตามมาตรฐานความปลอดภัยในสหรัฐอเมริกาและจีน”
ชัยชนะของเกาหลีใต้ปาดหน้าอเมริกาได้สำเร็จ
แถมลูกค้าหลักยังเป็นอเมริกาอีกด้วย
เพราะเครื่องสำอางของเกาหลีใต้มีการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง
ตั้งใจขยายกลุ่มลูกค้าให้หลากหลายและสากลมากขึ้น
อ้างอิงจากรายงานของ BBC ระบุว่า เครื่องสำอางของเกาหลีใต้
มีการพัฒนาสินค้าให้หลากหลายรองรับความแตกต่างกันทั่วโลกมากขึ้น
อย่างที่คนไทยเราชินตากันว่า ความงามแบบเกาหลี
คือผิวที่ขาวใส หรือหน้าตาแบบคนเอเชียดั้งเดิมเท่านั้น
แต่ถ้าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปขายยังต่างประเทศ
ที่มาตรฐานความงามแตกต่างออกไป จะขายได้อย่างไร
ก่อนหน้านี้ไม่นานในโลกโซเชียลเกิดกระแสไวรัล
เมื่อมีอินฟลูเอนเซอร์ต่างชาติ
ทำคลิปรีวิวบอกว่าไม่สามารถหาเครื่องสำอางเกาหลีที่มีสีเหมาะสมกับผิวของเธอได้
ตั้งแต่รองพื้น ลิปสติก ไปถึงบลัชออนที่ปัดแก้ม
แต่ล่าสุดสิ่งนั้นกำลังเปลี่ยนไป
เพราะแบรนด์ของเกาหลีใต้ได้ออกเฉดสีที่หลากหลายมากขึ้นแล้ว
และโปรโมทขับเคลื่อนโดยเหล่าอินฟลูเอนเซอร์
ที่มากันรีวิวให้เห็นว่าใช้ได้จริง และสวยสมใจ
และเกิดกระแสในทางบวกว่าแบรนด์เหล่านี้ใส่ใจลูกค้า
K-Beauty ขยายตลาดใหม่ สินค้ารองรับความหลากหลาย
BBC รายงานว่าเครื่องสำอางเกาหลีได้รับความนิยมในทวีปแอฟริกา
เช่น เคนยาและไนจีเรีย
ความสำเร็จส่วนใหญ่มาจาก K Culure อุตสาหกรรมบันเทิงต่างๆ
ที่มีอิทธิพลกับแฟนคลับและคนที่ติดตาม
ร้านเครื่องสำอางแห่งหนึ่งในเมืองหลวงของเคนยา
บอกว่ารองพื้นคุชชั่นของเกาหลีเป็นหนึ่งในสินค้าขายดีที่สุดของร้าน
ขณะที่ผู้ใช้หลายชอบที่ราคาจับต้องได้ และมีประสิทธิภาพที่ดี
ขณะที่โคลมาร์ (Kolmar) เป็นผู้ผลิตเครื่องสำอาง
(Original Design Manufacturer - ODM) ให้กับแบรนด์ความงาม
มากกว่า 3,700 แบรนด์ในเกาหลีใต้
บอกว่าบริษัทได้ทำการวิจัยกับกลุ่มเป้าหมายจากแอฟริกา อเมริกา แปซิฟิก และภูมิภาคอื่น ๆ
มีการจับคู่เฉดสีกับโทนสีผิวที่หลากหลาย
และพัฒนาเฉดสีที่หลากหลายขึ้นเพื่อรองรับโทนสีผิวเข้ม
ที่สำคัญ คือ การเติบโตของตลาดทวีปแอฟริกานั้นน่าสนใจ
จากข้อมูลของนักวิเคราะห์ตลาด สตาติสตา (Statista) คาดว่า
รายได้ในตลาดความงามและการดูแลส่วนบุคคลของแอฟริกา
จะเติบโตจาก 66,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2024
พุ่งเป็น 85,170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2027
นับว่าเป็นปรากฎการณ์ของเครื่องสำอางเกาหลีใต้ที่กำลังมาแรง
ขึ้นแท่นเป็นตัวท็อปเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำของตลาดโลกได้สำเร็จและสวยงาม
ที่น่าสนใจมาก คือ นี่อาจจะกลายเป็นเทรนด์ของความงามแบบเอเชีย หรือ ตะวันออกที่มาแรงมากขึ้น
แข่งกับมหาอำนาจตะวันอย่างอเมริกา หรือยุโรป
และที่สำคัญกว่านั้นนี่คือผลส่วนหนึ่งจาก Soft Power จาก K Culture ด้วย
ซึ่งหลายประเทศ แม้กระทั่งประเทศไทยก็อยากจะถอดความสำเร็จเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เศรษฐกิจ"เวียดนาม" 6 เดือนโตร้อยละ 7.52
- "เกาหลีใต้" ล้มยักษ์ "อเมริกา" ขึ้นเบอร์ 2 ตลาดเครื่องสำอางโลก l World Wide Wealth
- "พิชัย" โต้ข่าว สหรัฐฯเก็บภาษีไทย 18-36% ยันยังไม่มีข้อสรุป เร่งทำข้อเสนอใหม่ส่งก่อนเส้นตาย
- วิกฤต "ข้าวกล่องญี่ปุ่น" ร้านเล็กแบกต้นทุนไม่ไหว ล้มละลายพุ่ง
- รายงานเผย หนุ่มสาวเกาหลีใต้ที่ยังโสดและอยู่กับครอบครัว ไม่อยากทำงานเพิ่มมากขึ้น