“Stop Killing Games” คืออะไร? แคมเปญเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของวงการเกม
“Stop Killing Games” แคมเปญของเกมเมอร์ในยุโรปที่ต่อต้านการทำลายเกมของผู้เล่นที่พวกเขาเสียเงินซื้อ ได้กลายเป็นกระแสใหญ่ในวงการเกมทั่วโลก ซึ่งหลายๆคนอาจจะสงสัยว่าแคมเปญนี้มันเกิดขึ้นมาได้ยังไง และทำไมมันถึงกลายเป็นประเด็นครั้งใหญ่ของวงการเกม วันนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับแคมเปญ “Stop Killing Games”
“Stop Killing Games” คืออะไร?
“Stop Killing Games” คือแคมเปญรณรงค์ของผู้บริโภค ที่เรียกร้องให้บริษัทเกม หยุดปิดเกมที่ลูกค้าซื้อไปแล้ว โดยเฉพาะเกมที่พึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ออนไลน์เป็นหลัก เมื่อบริษัทหยุดให้บริการ เกมเหล่านี้ก็จะ "ตาย" และไม่สามารถเล่นได้อีก แม้ว่าผู้บริโภคจะจ่ายเงินซื้อมาแล้วก็ตาม
“Stop Killing Games” เกิดขึ้นมาได้อย่างไร?
“Stop Killing Games” เกิดขึ้นมาครั้งแรกจากกรณีที่ Ubisoft ปิดเกม The Crew ซึ่งแม้ผู้เล่นจะซื้อไว้ถูกต้อง แต่เมื่อเซิร์ฟเวอร์ถูกปิด เกมก็ไม่สามารถเล่นได้แม้ในโหมดคนเดียว เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้เล่นหลายต่อหลายคนรู้สึกไม่พอใจ เพราะพวกเขาควรจะได้เล่นเกมที่พวกเขาเสียเงินซื้อมาแล้วไปตลอด
และรวมถึง Ross Scott เจ้าของช่องยูทูบ Accursed Farms และนักพัฒนาเกมอินดี้ ได้ออกมาวิจารณ์พร้อมกับปล่อยแคมเปญ Stop Killing Games ผ่านระบบของสหภาพยุโรปที่ชื่อว่า European Citizens’ Initiative (ECI) ในเดือนมีนาคม 2024
ซึ่งทาง Ross Scott ไม่ได้ต่อต้านที่เกมโดนปิด แต่ผู้พัฒนาก็จะควรจะปล่อยให้ผู้เล่นสามารถเข้าเล่นโหมดเล่นคนเดียวได้ ไม่ใช่ว่าปิดเกมทิ้งไปแบบดื้อๆแบบนี้ ซึ่งก็มีผู้คนไม่น้อยออกมาแสดงความเห็นด้วย
“Stop Killing Games” กลายเป็นกระแสครั้งใหญ่ของวงการเกม
หลังจากที่ “Stop Killing Games” ได้ถูกปล่อยออกมา แคมเปญนี้ได้สร้างกระแสครั้งใหญ่ในวงการเกมเมอร์ เหมือนเป็นครั้งแรกที่ทางผู้เล่นได้รวมตัวกันเพื่อส่งข้อความถึงทางผู้พัฒนา
ซึ่งในปัจจุบัน ได้มีผู้คนมาร่วมลงนามในแคมเปญนี้เกิน 1 ล้านรายชื่อแล้ว รวมถึง Nicolae Ștefănuță รองประธานสภายุโรป ก็ได้ออกมาร่วมสนับสนุน พร้อมกับเตรียมผลักดันประเด็นดังกล่าวเข้าการประชุมอย่างจริงจัง
ซึ่งในปัจจุบันนี้ แม้ว่าแคมเปญนี้จะมีการสนับสนุนมากมาย แต่มันก็ได้กลายเป็นประเด็นร้อน และแบ่งผู้คนในวงการออกเป็นสองฝั่ง โดยฝั่งสนับสนุนก็เห็นด้วยที่ว่าการที่ผู้เล่นเสียเงินซื้อเกมมาแล้ว พวกเขาก็ควรจะได้สิทธิเป็นเจ้าของเกม
แต่อีกฝั่งก็ได้ออกมาโต้แย้งว่าการที่จะให้ทางผู้พัฒนาดูแลเกมไปตลอดก็เป็นการเพิ่มต้นทุนโดยใช่เหตุ หากเกมไม่ได้ทำรายได้แล้ว
แล้วคุณล่ะ คิดว่าการที่เราเสียเงินซื้อเกมไปแล้ว เราควรจะได้สิทธิในการเล่นเกมไปตลอดหรือไม่? หรือการที่ผู็พัฒนาตัดสินใจปิดเกมทิ้งเป็นเรื่องปกติที่ยอมรับได้?
อ่านเพิ่ม