คลังเผยจีดีพี ปี 68 โตร้อยละ 2.2
ก.คลัง 30 ก.ค. – คลังมั่นใจจีดีพีปี 68 โตร้อยละ 2.2 รวมเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา น้ำท่วมภาคเหนือ ภาษีทรัมป์ หวังงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยฟื้นเศรษฐกิจชายแดน ต่างชาติเตือนนักท่องเที่ยวระวังเหตุชายแดน ไม่กระทบภาพรวม
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงผลการประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 ว่า คลังคาดการณ์จีดีพีไทย ในปี 68 ขยายตัวร้อยละ 2.2 ต่อปี สอดรับกับกองทุนไอเอ็มเอฟ คาดการณ์จีดีพีไทย เติบโตร้อยละ 2 และเศรษฐกิจโลกขยายตัวร้อยละ 3 จากประมาณการณ์เศรษฐกิจเดิมร้อยละ 2.1 โดยรวมปัจจัยเหตุการณ์ความรุนแรงชายแดนไทย-กัมพูชา และปัญหาน้ำท่วมในภาคเหนือ
มีแรงหนุนจากหลายปัจจัย ทั้งการส่งออก คาดว่าขยายตัวที่ร้อยละ 5.5 ต่อปี เนื่องจากการเร่งนำเข้าของประเทศคู่ค้า แต่การส่งออกสินค้าของไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 68 อาจ ชะลอตัวลงจากผลกระทบของภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ คาดว่าไทยได้รับข้อตกลงการผ่อนปรนภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ โดยคาดหวังไทยมีช่วงภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 15-36 ด้านเสถียรภาพภายในประเทศ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปร้อยละ 0.4 ต่อปี ดุลบัญชีเดินสะพัด เกินดุล 14.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 2.9 ของ GDP จากดุลการค้าที่เกินดุล
ขณะนี้หน่วยงานรัฐ แบงก์รัฐร่วมช่วยกันฟื้นฟูและแก้ปัญหาตามแนวชายแดน โดยยังใช้งบกลาง และงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลืออยู่ 4.2 หมื่นล้านบาท อาจปรับให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ลดผลกระทบการส่งออก พัฒนาการท่องเที่ยว พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน คณะกรรมการสามารถนำมาปรับใช้ฟื้นฟูพื้นที่ชายแดนได้ และยังมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ครึ่งปีหลังเพิ่มเติม ซึ่งรัฐบาลกำลังพิจารณาใช้เงิน 2.5 หมื่นล้านบาท จากงบปี 69 มาฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
สำหรับปัญหาเศรษฐกิจชายแดนไทย-กัมพูชา คลังประเมินว่า ปัญหาความรุนแรงจำกัดพื้นที่เฉพาะในชายแดน และมูลค่าการค้าชายแดนไม่สูงมากนักเพียงร้อยละ 1.4 ของการค้าทั้งหมด อีกทั้งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทย ไม่ได้อยู่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา อีกทั้งหลายประเทศ ทั้ง สหรัฐ อังกฤษ เตือนพลเมืองห้ามเดินทางไปพื้นที่เสียงรัศมี 50 กิโลเมตร จากชายแดน จึงไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวโดยรวม โดยยังคาดการนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี เดินทางเข้าไทย 34.5 ล้านคน ทำรายได้เข้าประเทศ 1.62 ล้านล้านบาท ใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวต่อทริป 46,900 บาท
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า “เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะขยายตัวได้ดีในครึ่งปีแรก ยอมรับว่าเศรษฐกิจไทย เผชิญความท้าทายจากแรงกดดันจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ กระทบต่อไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยกระทรวงการคลังได้เตรียมตัวรับมือและบรรเทาสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจัดเตรียมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ ผ่านแบงกก์รัฐ ส่วนความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ได้ขยายวงเงินทดรองราชการให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ จังหวัดละ 100 ล้านบาท และพร้อมพิจารณาขยายเพิ่มหากไม่เพียงพอเพื่อให้จังหวัดสามารถบริหารจัดการได้อย่างคล่องตัว การเลื่อนกำหนดเวลาชำระภาษี การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเสริมสภาพคล่องและพักชำระหนี้ เพื่อรวมฟื้นเศรษฐกิจชายแดนไทย-กัมพูชา.-515 -สำนักข่าวไทย