ชาวอเมริกัน ค่าครองชีพพุ่ง! 54% ไม่มีเงินออมฉุกเฉิน เพราะรายจ่ายมากกว่ารายได้
ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและไม่มีอะไรแน่นอนแบบนี้ การเก็บค่าใช้จ่ายสามถึงหกเดือนในบัญชีออมทรัพย์อาจเป็นตัวช่วยสำคัญในวันที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในชีวิต เช่น ตกงาน ขาดรายได้ หรือประสบอุบัติเหตุที่ทำให้ต้องจ่ายเงินค่าพยาบาลก้อนใหญ่
แต่แม้ว่าหลายคนจะวางแผนที่จะเก็บเงินเพื่อรักษาความมั่นคงทางการเงินของตัวเอง แต่ปัญหาที่พวกเขาพบคือ "ค่าครองชีพ" ที่พุ่งสูงมากกว่ารายได้ ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ในการเก็บเงินของใครหลายคน เนื่องจากราคาสินค้าที่แพงนั้น ค่อย ๆ กัดกินเงินในกระเป๋าจนไม่มีเงินเหลือพอให้ออม
จากผลสำรวจของ Bankrate พบว่า ชาวอเมริกันมากกว่า 54% ไม่มีเงินเก็บ เพราะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศสหรัฐฯที่สูง ซึ่งส่งผลให้การประหยัดและอดออมเป็นไปได้ยากในช่วงที่เศรษฐกิจปั่นป่วนแบบนี้
เศรษฐกิจผันผวน และเงินเฟ้อ กําลังกัดกินเงินเก็บของชาวอเมริกัน
CNBC และ CBS รายงานว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลหรือ PCE ในสหรัฐอเมริกาพุ่งสูงขึ้นในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมายประจำปีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ พยายามไม่ให้เกิน 2%
โดยราคาสินค้าในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนพฤษภาคมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามข้อมูลของ PCE ไม่รวมอาหารและพลังงานที่ผันผวน พบว่ามีราคาเพิ่มขึ้น 2.7% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้นจากอัตรา 2.5% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
นอกจากตัวเลขเงินเฟ้อแล้ว การใช้จ่ายและรายได้ของผู้บริโภคยังแสดงสัญญาณของการอ่อนค่าลงอีก เพราะชาวอเมริกันต้องการรักษาความมั่นคงทางการเงินของตัวเองในยุคที่เศรษฐกิจผันผวน โดยพบว่า การใช้จ่ายลดลง 0.1% ในเดือนพฤษภาคม
ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น แต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง และได้มีการพยายามผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ผ่อนคลาย เพราะอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ หากราคาเริ่มสูงขึ้นอีกครั้ง FED จะสามารถเปลี่ยนเกียร์เดินเครื่องให้เศรษฐกิจผ่านไปได้ด้วยดีเสมอ
แต่เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงเตือนให้ระมัดระวังอัตราเงินเฟ้ออาจลุกโชกอีกครั้ง ส่งผลให้เหล่าผู้บริโภคในสหรัฐยังลดการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องหลังจากที่มีการประกาศนโยบายภาษีทรัมป์จนถึงทุกวันนี้
แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอีกต่อไป แต่ในปีนี้ผู้คนจํานวนมากขึ้นรู้สึกว่าเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อเงินออมของพวกเขาให้ลดน้อยลง โดยเฉพาะเงินสําหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ/ราคาที่สูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น หรือการเปลี่ยนแปลงรายได้หรือการจ้างงาน
เกือบ 3 ใน 4 ของชาวอเมริกัน กล่าวว่าพวกเขาต้องการค่าใช้จ่ายอย่างน้อยสามเดือนในการออมฉุกเฉินเพื่อให้รู้สึกสบายใจในยุคที่เศรษฐกิจไม่มีอะไรแน่นอน แต่มีเพียง 27 % เท่านั้นที่มีเงินเก็บมากกว่าสามเดือน เพราะอัตราเงินเฟ้อ ทำให้ค่าใช้จ่ายของพวกเขาพุ่งสูงมากขึ้น จนแทบจะไม่เหลือเงินให้เก็บ
"เช่นเดียวกับที่อัตราเงินเฟ้อทําให้ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนสูงขึ้น มันยังบ่อนทําลายระดับความสะดวกสบายที่ชาวอเมริกันมีกับเงินออมฉุกเฉิน" แมคไบรด์ หัวหน้านักวางแผนการเงิน (CFA) ของ Bankrate กล่าว
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า สถานการณ์ของชาวอเมริกันในช่วงนี้ กำลังประสบปัญหาเรื่องค่าครองชีพสูง เพราะความผันผวนของตลาดและเศรษฐกิจในประเทศ การใช้จ่ายน้อยลงเพราะผู้คนพยายามเก็บออมมากขึ้นเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่อุปสรรคที่พวกเขาต้องเผชิญกลับเป็นภาวะเงินเฟ้อที่กำลังทำให้เงินในกระเป๋าของพวกเขาหายไปจนแทบไม่เหลือให้เก็บออม
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : Thairath Money
- LINE Official : Thairath