หลายประเทศในยุโรปเผชิญคลื่นความร้อนรุนแรงต่อเนื่อง
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 1 กรกฎาคม 2568 เวลา 17.10 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทลอนดอน 1 ก.ค. – หลายประเทศในยุโรปยังเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด ทางการต้องประกาศเตือนอันตรายให้ประชาชนหามาตรการป้องกัน ส่วนฝรั่งเศสร้อนจัดจนเกิดไฟป่าปะทุเผาผลาญพื้นที่แล้วหลายพันไร่
สเปนและโปรตุเกส รายงานอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ที่ 46 และ 46.6 องศาเซลเซียสตามลำดับ ขณะคลื่นความร้อนจะแผ่ปกคลุมยุโรปใต้และอังกฤษต่อเนื่อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศต่าง ๆ ตามแนวชายฝั่งตอนเหนือของทะเลเมดิเตอเรเนียนต้อง ออกคำเตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือและปกป้องผู้ที่เปราะบางที่สุด อันหมายถึงเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย
ชาวบ้านท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว พยายามหาทางคลายร้อนระหว่างที่เกิดคลื่นความร้อนในเมืองเซบียา เมืองเอกของภูมิภาคอันดาลูเซีย ขณะที่สเปนกำลังมุ่งหน้าสู่เดือนมิถุนายนที่ร้อนที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้ ตามรายงานสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสเปน ผู้คนจำนวนมากเลือกที่จะปกป้องตัวเองจากแสงแดดด้วยการใช้ร่ม และคลายร้อนด้วยพัดลม เครื่องดื่มเย็นๆ และน้ำจากน้ำพุริมถนน ขณะพื้นที่ส่วนใหญ่ของสเปนยังคงอยู่ภายใต้คำเตือนสภาพอากาศร้อนจัด คาดว่าอุณหภูมิจะสูงเกิน 42 องศาเซลเซียสในเวลากลางวัน ส่วนกลางคืนอาจเกิน 25 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและใต้ของคาบสมุทรไอบีเรีย ร้อนจนชาวบ้านหลายคนบอกว่านอนไม่หลับ
ที่ฝรั่งเศส สภาพอากาศร้อนจัดส่งผลให้เกิดไฟป่าปะทุในจังหวัดออเด (Aude) ทางตะวันตกเฉียงใต้ตั้งแต่วันอาทิตย์ ท่ามกลางอุณหภูมิพุ่งสูง 40 องศาเซลเซียส เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วกว่า 2,500 ไร่ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฝรั่งเศสประกาศเตือนภัยคลื่นความร้อนสีแดงใน 16 ภูมิภาค รวมถึงกรุงปารีส ขณะที่อีก 68 ภูมิภาคจากทั้งหมด 96 ภูมิภาคบนแผ่นดินใหญ่ฝรั่งเศสอยู่ภายใต้คำเตือนความร้อนสีส้ม โรงเรียนกว่า 200 แห่งต้องปิดเรียน ส่วนอิตาลี เมืองใหญ่ 21 แห่งรวมถึงกรุงโรม มิลาน และเวนิส ประกาศเตือนภัยอากาศร้อนระดับสูงสุด โรงพยาบาลทั่วประเทศมีผู้ป่วยลมแดดเพิ่มขึ้นร้อยละ 10
ส่วนอังกฤษ อุณหภูมิที่สนามบินฮีทโธรว์วานนี้อยู่ที่ 33.1 องศาเซลเซียส ขณะที่สนามแข่งเทนนิสรายการแกรนด์ สแลม อย่างวิมเบิลดัน ในวันแรกเมื่อวานนี้ เผชิญอุณหภูมิสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 32.9 องศาเซลเซียส
โวลเคอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุศยชนแห่งสหประชาชาติ บอกว่าคลื่นความร้อนรุนแรงที่ปกคลุมยุโรปเวลานี้ สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการปรับตัวเรื่องสภาพอากาศ อันหมายถึงการลดละเลิกการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไปสู่การใช้พลังงานสะอาดและยั่งยืนอย่างพลังงานลมและแสงอาทิตย์ พร้อมกับเตือนว่าหลังจากนี้ คลื่นความร้อนในยุโรปและหลายพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกจะกลายเป็นเรื่องปกติ และสภาพอากาศจะยิ่งร้อนจัดมากขึ้นเรื่อยๆ.-815.-สำนักข่าวไทย