จีนประกาศ “ยุติสงครามราคา” เดินหน้าคุมกำลังผลิตเกิน เร่งเครื่องฟื้นเศรษฐกิจ
จีนกำลังเร่งแก้ปัญหาการแข่งขันที่รุนแรงเกินไปในเศรษฐกิจตัวเอง ซึ่งทำให้เกิด “สงครามราคา” (Price Wars) และเป็นสาเหตุสำคัญของเงินฝืด แถมยังทำให้จีนมีปัญหากับประเทศคู่ค้าอย่างสหรัฐฯ
ในการประชุมสำคัญของ โปลิตบูโร (Politburo) ซึ่งเป็นการประชุมคณะผู้บริหารระดับสูงสุด 24 คนของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ให้คำมั่นว่าจะจัดการอย่างจริงจังกับปัญหา “กำลังผลิตล้นตลาด” (Overcapacity) ในอุตสาหกรรมหลัก ๆ และควบคุมการแข่งขันที่ไม่เป็นระเบียบของบริษัทต่าง ๆ นอกจากนี้ยังจะคุมเข้มวิธีที่รัฐบาลท้องถิ่นใช้ดึงดูดการลงทุนด้วย
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังเน้นย้ำว่าต้อง “หยุดการแข่งขันที่บั่นทอนตัวเอง” (Break Involution) ซึ่งหมายถึงการผลิตที่มากเกินไปจนคนต้องทำงานหนักขึ้นแต่ได้ผลตอบแทนน้อยลง ปัญหานี้เกิดจากการที่รัฐบาลท้องถิ่นเคยให้สิทธิพิเศษเพื่อดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ๆ คล้ายๆ กัน จนสินค้าล้นตลาดและราคาก็ตกฮวบ
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นภายหลังการประชุมหารือทางการค้าที่กรุงสตอกโฮล์ม ระหว่างรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สกอตต์ เบสเซนต์ และรองนายกรัฐมนตรีจีน เหอ ลี่เฟิง ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อขยายการพักรบเรื่องภาษีศุลกากรที่เคยกำหนดไว้ 90 วัน
แม้เศรษฐกิจจีนจะรับมือกับภาษีของสหรัฐฯ ได้ดีเกินคาด เพราะได้แรงหนุนจากการส่งออกและการสนับสนุนจากรัฐบาล แต่แรงกดดันจากภาวะเงินฝืดยังคงเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้นำจีนต้องรีบหยุดสงครามราคา เพราะมันทำให้กำไรบริษัทและค่าแรงลดลง นอกจากนี้ สหรัฐฯ และคู่ค้าอื่นๆ ก็วิจารณ์ว่าจีนมีกำลังการผลิตมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม โปลิตบูโรยังคงแสดงความเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจจีน แต่ก็ยอมรับว่ายังมีความเสี่ยงและความท้าทายอยู่มาก จึงยืนยันว่าจะเดินหน้ามาตรการที่ส่งเสริมการเติบโตที่มีอยู่แล้ว และพร้อมจะเพิ่มมาตรการทางเศรษฐกิจถ้าจำเป็น รวมถึงการเร่งออกพันธบัตรรัฐบาลและการลดต้นทุนการกู้ยืม
อ้างอิง: Bloomberg