โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ในพระราชสำนัก

โรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริ สมเด็จเจ้าฟ้าฯกรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โรงงานผลิตยารักษาโรคมะเร็งแห่งแรกของประเทศไทย

สยามรัฐ

อัพเดต 23 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 23 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ด้วยพระปรีชาสามารถ และสายพระเนตรอันยาวไกลของศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในการพัฒนางานด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศไทย ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการต่อยอดเชื่อมโยงงานวิจัยเข้าสูภาคอุตสาหกรรม ด้วยทรงตระหนักถึงความยากลำบากของผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ขาดโอกาสการเข้าถึงเภสัชภัณฑ์ประสิทธิภาพสูง ทรงมีพระดำริให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จัดตั้งโรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริ ณ พระตำหนักพิมานมาศ อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2563 เพื่อเติมเต็มนิเวศวิจัยด้านเภสัชกรรมให้ครบวงจรซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการวิจัยและการพัฒนาเภสัชภัณฑ์สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งให้ต่อเนื่องสมบูรณ์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ด้วยเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย เพื่อให้ได้เภสัชภัณฑ์คุณภาพสูง โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน และสิ่งแวดล้อม


โรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดําริ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นโรงงานผลิตยารักษาโรคมะเร็งแห่งแรกของประเทศไทย มีพันธกิจในการผลิตเภสัชภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงเพื่อสนับสนุนการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง ช่วยให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งได้เข้าถึงการรักษาประสิทธิภาพสูงได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม จึงก้าวตามรอยพระบาท และพระปณิธานอันแรงกล้าขององค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ที่ทรงแสวงหาทุกโอกาสที่จะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยพระนโยบายการดูแลผู้ป่วยในทุกมิติ ซึ่งยารักษาโรคมะเร็งมุ่งเป้าชนิดเม็ดเป็นหนึ่งในนวัตกรรมพลิกโฉมการรักษาโรคมะเร็ง นอกจากจะมีประสิทธิภาพสูง ยังสะดวกต่อการใช้งาน ช่วยให้ผู้ป่วยและผู้ดูแลมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น จึงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่น เหมาะสมที่จะนำมาเป็นต้นแบบนำร่องการพัฒนาอุตสาหกรรมยารักษาโรคมะเร็งของประเทศ


โดยความสามารถผลิตยาจากโครงการนี้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายการนำเข้าจากต่างประเทศ รวมทั้งยังเป็นการเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีเภสัชกรรม และเภสัชอุตสาหการซึ่งเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมยาให้ก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยประเทศ อันเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางยาให้แก่ประเทศไทยอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ด้านการสร้างความเป็นเลิศทางการวิจัยและนวัตกรรมเชิงสุขภาพเพื่อความยั่งยืน สนองแนวพระดำริที่จะทรงใช้งานวิจัยมาพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
สำหรับอาคารโรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดําริ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ตั้งอยู่ภายในบริเวณพระตำหนักพิมานมาศ อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็นอาคาร 4 ชั้น ซึ่งมีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยในการดำเนินงาน ประกอบด้วย

ชั้น 1 บริเวณผลิตยารักษามะเร็งแบบมุ่งเป้า เป็นพื้นที่ที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับใช้ผลิตยารักษาโรคมะเร็งซึ่งเป็นพิษต่อเซลล์มนุษย์ ต้องมีการจัดการคุณภาพอากาศ วัสดุ บุคลากร และของเสียอย่างเข้มมงวด การผลิตยารักษาโรคมะเร็งเป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อนและต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเนื่องจากความเป็นพิษของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต โรงงานแห่งนี้ออกแบบให้มีการผลิตในระบบปิด (Containment Production Process) ในทุกกระบวนการ ด้วยเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ได้รับการออกแบบและรับรองมาตรฐานการป้องกันระดับสูงสุด (OEB5) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการผลิตเป็นไปตามข้อกำหนดที่เคร่งครัด ทั้งในด้านคุณภาพของยา ความปลอดภัยของพนักงาน และการป้องกันการปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม

กระบวนการผลิตเริ่มต้นจากการนำวัตถุดิบที่ผ่านการทดสอบคุณภาพตามข้อกำหนดทางเภสัชกรรม มาชั่งน้ำหนักด้วยเครื่องมือที่มีความแม่นยำสูง ตามสูตรการผลิตที่ได้รับการวิจัยพัฒนาแล้วว่ามีความสม่ำเสมอ ให้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน การชั่งน้ำหนักและการผสมวัตถุดิบจะดำเนินการในสภาพแวดล้อมที่สะอาดและอยู่ภายใต้การควบคุมอุณหภูมิ ความชื้นและความดันอากาศอย่างเข้มงวด

วัตถุดิบที่ชั่งอย่างแม่นยำแล้วจะถูกตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งก่อนนำเข้าสู่การขึ้นรูปแกรนูลแบบต่อเนื่อง ผ่านเครื่องจักรที่ออกแบบมาเฉพาะได้แก่ เครื่องผสมผงยา เครื่องอบแห้งแบบลอยตัว และเครื่องบดลดขนาด ซึ่งทำงานภายใต้ระบบปิดเพื่อควบคุมสภาพแวดล้อมและป้องกันการปนเปื้อน กระบวนการนี้ช่วยให้วัตถุดิบทั้งหมดถูกผสมเข้ากันอย่างสม่ำเสมอและช่วยปรับปรุงคุณสมบัติให้เหมาะสมสำหรับการอัดขึ้นรูป


ผงยาที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบจะถูกลำเลียงเข้าสู่ขั้นตอนการขึ้นรูปเม็ดยา กระบวนการนี้ใช้เครื่องจักรอัดขึ้นรูปให้ได้เม็ดยาที่มีขนาด รูปร่าง และปริมาณตัวยาที่ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ เม็ดยาที่ขึ้นรูปแล้วจะถูกลำเลียงผ่านเครื่องกำจัดฝุ่น ทำหน้าที่ขจัดเศษฝุ่นหรืออนุภาคส่วนเกินที่อาจตกค้างจากกระบวนการขึ้นรูป จากนั้นเม็ดยาจะถูกลำเลียงผ่านเครื่องตรวจจับโลหะเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของโลหะจากกระบวนการผลิต แล้วจึงนำไปเคลือบผิวโดยสารเคลือบจะถูกเลือกใช้ให้เหมาะสมกับยาแต่ละชนิด เพื่อให้ได้ยาที่คุณลักษณะตรงตามข้อกำหนดและเพื่อปกป้องยาจากความชื้นและแสง ช่วยให้ยาคงสภาพและคุณภาพ บางกรณีการเคลือบยังถูกออกแบบเพื่อควบคุมการปลดปล่อยตัวยาหลังรับประทาน เพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการรักษาและลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

ยาเม็ดที่ผ่านกระบวนการผลิตจนเสร็จสมบูรณ์ จะถูกบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบและทดสอบความคงสภาพสามารถปกป้องยาจากการปนเปื้อน ความชื้น อากาศ และแสง เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพของยาตลอดกระบวนการจนถึงมือผู้ป่วย ตลอดกระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์จะถูกสุ่มตัวอย่างทดสอบคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ ด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย เพื่อรับประกันว่ายาทุกเม็ดที่ผลิตขึ้น มีคุณภาพเท่าเทียมกัน

ชั้น 2 บริเวณวิศวกรรม และระบบสนับสนุน เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการผลิต ควบคุมมลพิษ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การดำเนินการของโรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริไม่เพียงแต่คำนึงถึงคุณภาพของยาและสวัสดิภาพของผู้ปฏิบัติงาน แต่ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มั่นใจว่าโรงงานมีการจัดการที่เหมาะสมและอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างปลอดภัย ภายใต้ระบบจัดการอาคารอัตโนมัติ (Building Automation System; BAS) ซึ่งเป็นระบบควบคุมอัตโนมัติที่ใช้ในการบริหารจัดการอาคารอย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบ BAS ทำหน้าที่ควบคุม ตรวจสอบ และบริหารจัดการระบบต่าง ๆ ภายในอาคารโดยเฉพาะ ระบบหมุนเวียนปรับอากาศ (Heating Ventilation and Air Conditioning; HVAC) เพื่อรักษาควบคุมสภาพแวดล้อมในอาคาร ทั้งการอุณหภูมิ ความชื้น ปริมาณฝุ่นละออง และจุลชีพ รวมถึงการไหลเวียนอากาศให้เป็นไปตามข้อกำหนดตลอดเวลา


นอกจากระบบข้างต้นแล้วพื้นที่วิศวกรรมยังประกอบด้วยระบบสนับสนุนการผลิตอื่น ๆ ได้แก่ ระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ ระบบผลิตลมอัดแห้ง ระบบดักจับมลภาวะไม่เพียงแต่คำนึงถึงประสิทธิภาพแต่ยังออกแบบให้เอื้อต่อการบำรุงรักษาได้อย่างสะดวกปลอดภัย สามารถปกป้องผู้ปฏิบัติงานไม่ให้สัมผัสกับสารปนเปื้อนฤทธิ์ยาโดยตรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับน้ำทิ้งที่ปนเปื้อนยารักษาโรคมะเร็ง จะถูกรวบรวมไปที่อาคารกำจัดฤทธิ์ยา ก่อนที่จะกำจัดฤทธิ์ยาด้วยปฏิกิริยาเคมีที่ได้ทำการวิจัยทดสอบไว้แล้ว เพื่อทำลายโครงสร้างทางเคมีของยารักษาโรคมะเร็งให้ไม่มีพิษ ก่อนส่งน้ำเสียไปบำบัดในบ่อบำบัดน้ำเสียรวมของโครงการต่อไป

ชั้น 3 พื้นที่ห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพ และการวิจัยพัฒนาเภสัชภัณฑ์ เป็นห้องปฏิบัติการด้านเภสัชกรรมครบวงจร ซึ่งได้รับการออกแบบให้สะดวกต่อการทำงาน และปลอดภัยสำหรับการทำงานกับยาที่เป็นพิษต่อเซลล์มนุษย์เช่นยารักษาโรคมะเร็ง ห้องปฏิบัติการนี้มีความสามารถตรวจวิเคราะห์ทางเคมีกายภาพ จุลชีววิทยา และหัวข้อจำเพาะด้านเภสัชกรรม โดยเครื่องมือที่จำเป็นต่อการควบคุมคุณภาพ รวมถึงการวิจัยและพัฒนาเภสัชภัณฑ์ที่ครบวงจร และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ห้องปฏิบัติการแห่งนี้ทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพตั้งแต่ วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ระหว่างกระบวนการ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป การทดสอบความคงสภาพ สำหรับกำหนดอายุยา รวมถึงสภาวะแวดล้อมในสถานที่ผลิตยา ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดอยู่ภายใต้หลักการประกันคุณภาพโดยใช้วิธีทดสอบ และเครื่องมือที่ได้มาตรฐานซึ่งผ่านการตรวจสอบความถูกต้อง และสอบเทียบตามแนวทางสากลอย่างสม่ำเสมอ

และชั้น 4 เป็นส่วนของสำนักงาน และศูนย์จัดการข้อมูล การดำเนินการทุกขั้นตอนของโรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริเป็นไปตามหลักการประกันคุณภาพสากลซึ่งเชื่อว่าคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นผลรวมของคุณภาพจากทุกองค์ประกอบตั้งแต่วัตถุดิบ วัสดุบรรจุ เครื่องมือ เครื่องจักร สถานที่ สภาวะแวดล้อม บุคลากร ตลอดจนกรรมวิธีการผลิตซึ่งต้องถูกต้องแม่นยำผ่านเกณฑ์การทดสอบ เป็นไปตามมาตรฐาน และข้อกำหนดที่ระบุไว้ในเภสัชตำรับ และทะเบียนยาที่จดแจ้งกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งโรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริ ได้ดำเนินการครบถ้วนสมบูรณ์ในทุกด้านแล้วจึงได้รับการรับรองมาตรฐานวิธีการที่ดีในการผลิตยาและการกระจายยา GMDP PIC/s ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดในด้านการผลิตยาที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นับเป็นโรงงานผลิตยารักษาโรคมะเร็งแห่งแรกของประเทศไทยที่ผ่านการรับรองมาตรฐานนี้ จึงเป็นการรับประกันชั้นหนึ่งว่าผลิตภัณฑ์จากโรงงานแห่งนี้ มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยเท่าเทียมกับผลิตภัณฑ์จากอารยประเทศ

ด้วยพระปรีชาสามารถ และความเข้าพระทัยด้านเภสัชกรรมอย่างถ่องแท้ทรงวางพระนโยบายที่รอบคอบรัดกุมไม่เพียงหวังให้ได้ยาที่มีคุณภาพสูง แต่ยังมุ่งผลิตองค์ความรู้ใหม่ทางเภสัชอุตสาหการเพื่อใช้พัฒนาศักยภาพของบุคลากรในประเทศให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในแขนงต่าง ๆ ตั้งแต่การพัฒนาตำรับ การขยายกำลังการผลิต การควบคุมผลิต การควบคุมคุณภาพ การประกันคุณภาพ และการจัดการสิ่งแวดล้อม เตรียมความพร้อมให้แก่ประเทศ รองรับการวิจัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ตลอดจนเปิดโอกาสให้หน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมเรียนรู้ไปด้วยกันกับโรงงานฯ เกิดเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเครือข่ายด้านเภสัชกรรมที่เชื่อมโยงภาคการศึกษา การวิจัย และอุตสาหกรรมไว้ด้วยกันอย่างมั่นคงแข็งแรงก่อให้เกิดความยั่งยืนแก่ระบบสาธารณสุขอย่างแท้จริง ไม่เพียงช่วยลดการพึ่งพาต่างชาติ แต่ในระยะยาวอุตสาหกรรมยาที่ได้รับการยกระดับขึ้นนี้จะเป็นจักรกลสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

อำเภอศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรีปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด "No Drugs No Dealers" ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด

21 นาทีที่แล้ว

เตือนภัยบัญชีม้ารูปแบบใหม่ LINE BKผู้ลักลอบเปิดไปขายต่อ ระวังโทษหนัก

21 นาทีที่แล้ว

รวบเครือข่ายหลอกโอนเงินโปรโมทสินค้าเสียหาย 1.3 แสน อายัดทันกว่า 3.5 หมื่น นำคืนผู้เสียหาย

25 นาทีที่แล้ว

TCL คว้า No.1 ยอดขายแอร์ Fresh Air ของโลก พร้อมเปิดโฉมสินค้าใหม่ VoxIN Series แอร์อัจฉริยะ สั่งการด้วยเสียง ประหยัดพลังงาน

26 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความในพระราชสำนักอื่น ๆ

ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเปิดงานประชุมวิชาการเฉลิมพระเกียรติฯ ในหัวข้อ “มิติใหม่การพัฒนายาชีววัตถุ: เพื่ออนาคตที่สดใสของประเทศไทย”

สยามรัฐ

"ในหลวง" ทรงมีพระราชสาส์นอำนวยพรไปยังประธานาธิบดีแห่งสมาพันธรัฐสวิส ในโอกาสวันชาติ

สยามรัฐ

"ในหลวง" พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พวงมาลา และพระราชทานเพลิงศพ เป็นกรณีพิเศษ แก่กำลังพลที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมทรงรับศพผู้เสียชีวิตในพระบรมราชานุเคราะห์

สยามรัฐ

"ในหลวง" พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พวงมาลาและพระราชทานเพลิงศพ เป็นกรณีพิเศษ แก่กำลังพลและราษฎรที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมทรงรับศพผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

สยามรัฐ

โปรดเกล้าผู้ว่าฯสุรินทร์ เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานมอบแก่กำลังพลบาดเจ็บจากเหตุไม่สงบจังหวัดชายแดนไทย –กัมพูชา

สยามรัฐ

โปรดเกล้าผู้ว่าฯศรีสะเกษเชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานมอบแก่กำลังพลและราษฎรรับบาดเจ็บจากเหตุไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย – กัมพูชา

สยามรัฐ

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงเปิดงาน "สืบสานใจ หัตถศิลป์ไทย สู่สากล" รายได้ช่วยผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา

Khaosod

โปรดเกล้าผู้ว่าฯอุบลฯ เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานมอบแก่กำลังพลรับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ ไม่สงบจังหวัดชายแดนไทย – กัมพูชา

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม