โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

สรุปคำชี้แจง "นายกฯแพทองธาร" ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ปมคลิปเสียงหลุด

คมชัดลึกออนไลน์

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หลังจากศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติและอ่านคำวินิจฉัย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประเด็นคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ในวันที่ 29 ส.ค. 2568 ที่จะถึงนี้

สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้รับคำชี้แจงของ น.ส.แพทองธาร ที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ น.ส.แพทองธาร ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ที่ว่าขาดความซื่อสัตย์สุจริต และฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงในการปฏิบัติหน้าที่

น.ส.แพทองธาร ยืนยัน

  • การกระทำของตนเองตามข้อกล่าวหาของผู้ร้อง ไม่เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ.2564

  • การกระทำของตนเองก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนในความสุจริตและเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งแต่ประการใด

ชี้แจง 2 ข้อกล่าวหาหลัก

"อยากได้อะไรดีให้ท่านบอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะจัดการให้"

  • เจตนาที่ต้องการให้คู่เจรจาได้เสนอเงื่อนไขหรือความต้องการออกมาก่อน ตามหลักการสำคัญของการเจรจาเชิงผลประโยชน์ (Principled Negotiation) โดยการใช้เทคนิคสำคัญ คือ การตั้งคำถามเพื่อค้นหาความต้องการที่แท้จริง (Interest-Based) ในลักษณะไม่โจมตีจุดยืนของคู่เจรจา

  • ไม่ได้มีเจตนาดำเนินการตามเงื่อนไขที่เสนอมาทุกกรณี แม้ สมเด็จฮุน เซน เสนอให้ฝ่ายไทยยอมเปิดด่านก่อน ฝ่ายกัมพูชาจะหลังจากนั้นภายใน 5 ชั่วโมง แต่ข้าพเจ้าก็เสนอกลับไปว่า ให้เปิดด่านพร้อมกัน

  • สมเด็จฮุน เซนไม่ได้ตอบรับหรือยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว และข้าพเจ้าก็ยังไม่ได้มีการตอบรับในเงื่อนไขดังกล่าวของสมเด็จฮุน เซน เช่นเดียวกัน เนื่องจากข้อเสนอใด ๆ จะต้องไปพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงของไทยก่อน เพื่อร่วมกันพิจารณาและตัดสินใจ

"กล่าวถึงแม่ทัพภาคที่ 2 (พลโท บุญสิน พาดกลาง) ว่าเป็นฝั่งตรงข้าม"

  • นายฮวด คนสนิทของสมเด็จฮุน เซน พยายามอธิบายมูลเหตุของการที่สมเด็จฮุน เซน สั่งการให้มีการปิดด่าน เนื่องจากไม่พอใจแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นการเฉพาะเจาะจง

  • ข้าพเจ้าจึงจำต้องใช้เทคนิคการเจรจาที่แบ่งแยกปัญหาออกจากตัวบุคคล ไม่ได้เป็นการตำหนิติเตียนในทางลบ หรือแสดงให้เห็นว่าแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลไทย

  • แต่เป็นการอธิบายสถานการณ์ต่อฝ่ายกัมพูชาในเชิงสร้างความเข้าใจว่า ฝ่ายบริหารของไทยมีเจตนาที่จะรักษาสันติ และไม่ได้เป็นการโอนอ่อนหรือเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากแต่เป็นการดำเนินนโยบายโดยอาศัยหลักทางการทูตเพื่อรักษาเสถียรภาพของประเทศ และป้องกันความขัดแย้งที่อาจลุกลาม

  • เมื่อเกิดความเข้าใจผิด ข้าพเจ้ากล่าวคำขอโทษต่อแม่ทัพภาคที่ 2 และแม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ติดใจคลิปเสียงของข้าพเจ้า

  • ไม่ได้เกิดความขัดแย้งระหว่างนายกรัฐมนตรีกับแม่ทัพภาคที่ 2 และไม่ได้มีผลกระทบต่อการทำงานของกองทัพ

ไม่เรียกร้องผลประโยชน์ส่วนตัวและครอบครัว

น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ความตั้งใจเดียวของข้าพเจ้าตลอดบทสนทนา เป็นเรื่องการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ไม่มีเจตนาจะได้มาซึ่งผลประโยชน์ส่วนตน ดังจะเห็นได้จากบทสนทนาว่า ไม่มีข้อความตอนใดที่ข้าพเจ้าเรียกร้องเอาผลประโยชน์ให้ตกเป็นของตนเองหรือครอบครัว หรือ ถือเอาประโยชน์ส่วนตนเหนือกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ หรือได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีโดยไม่ซื่อสัตย์สุจริต หรือแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ

ขอไต่สวนพยานผู้เชี่ยวชาญ 5 ราย

น.ส.แพทองธาร ยืนยัน พยานทั้ง 5 ราย มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของประเทศและตามแนวชายแดนปัจจุบัน บางรายมีประสบการณ์ในอดีตทั้งความมั่นคงและการต่างประเทศ

1. ฉัตรชัย บางชวด - เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะผู้ทำงานร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกเหล่าทัพ และเป็นบุคคลที่ทราบถึงเจตนาอันแท้จริงของนายกฯ ในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน

2. อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ - ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้สั่งการฝ่ายปกครองด้านชายแดน

3. พล.อ.ภุชงค์ รัตนวรรณ - ข้าราชการบำนาญที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกัมพูชา ทำงานด้านปฏิบัติในกัมพูชามาตั้งแต่ยศร้อยโท และทำงานกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ดำรงตำแหน่งแม่ทัพที่ 2 และผู้บัญชาการรบพิเศษอย่างต่อเนื่อง

4. พล.ท.พุฒิพงษ์ ชีพสมุทร - รองเจ้ากรมพระธรรมนูญทหาร ในฐานะผู้ชำนาญด้านกฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงของทหารและเรื่องอำนาจอธิปไตยของประเทศ

5. ธนาธิป อุปัติศฤงค์ - อดีตทูตไทยประจำญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และรัสเซีย ในฐานะผู้ชำนาญด้านการต่างประเทศและสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงวิธีปฏิบัติทางการทูตในการเจรจาแบบไม่เป็นทางการ

แต่สุดท้าย ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ไต่สวนเลขาธิการ สมช. เพียงรายเดียว

ขอยกเลิกคำสั่งพักงาน

น.ส.แพทองธาร ขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัย ตามที่ผู้ร้องขอให้ศาลสั่งให้เธอหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย เนื่องจากเมื่อคำนึงถึงความเป็นสัดส่วนในความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการหยุดปฏิบัติหน้าที่ หากยังคงปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ต่อไป ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและอธิปไตยของชาติ นอกจากนี้ ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะบูรณาการเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายให้สนับสนุนการทำหน้าที่ของฝ่ายทหาร และแสดงถึงความเข้มแข็งภายในชาติ ซึ่งส่งผลเชิงจิตวิทยาแก่กัมพูชาในการรุกรานประเทศไทย

แต่ศาลรัฐธรรมนูญปัดตกคำขอให้ยกเลิกคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

  • 21 ส.ค. 68 ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยาน 2 ราย คือ แพทองธาร และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในวันที่ 21 ส.ค. 68

  • 29 ส.ค. 68 เวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก คมชัดลึกออนไลน์

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "อิทธิพร แก้วทิพย์" อัยการสูงสุดคนที่ 20

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ใจทราม! วัยรุ่นจุดไฟเผาสุนัขทั้งเป็น คาห้องน้ำร้างวัด

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม