ส่องแม่ทัพ 2,3 ผบ.เหล่าทัพใหม่ สู้ศึกเขมร ต.ค.68
จากประเด็น ผลการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค(RBC) ไทย - กัมพูชา (สมัยวิสามัญ) ระหว่างกองทัพภาคที่ 1 ของไทยที่ดูแลพื้นที่จ.สระแก้ว กับ ภูมิภาคทหารที่ 5 ของเขมร วันที่ 22 ส.ค. 68 ที่ออกมาแม้จะดูเหมือนเขมรจะ “ลดสอบ” ท่าทีลงบ้าง กับการยอมรับข้อตกลงการประชุม ของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทั้ง 13 ประเด็น
และมีเพิ่มข้อหารือร่วมมือกันอีก 4 ข้อ เพื่อนำไปสู่วงประชุม GBC ทั้งการกำจัดทุ่นระเบิด,การจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ไม่ได้มีการสรุปประเด็นการละเมิดMOU43 ที่ไม่อยู่ในอำนาจของRBC แต่โดยรวม ยังมีการจับตาว่าการประชุม RBC ของกองทัพภาคที่2 ของ”พล.ท.บุญสิน พาดกลาง”แม่ทัพภาคที่2
ซึงมีพื้นที่ขัดแย้งและปะทะมากที่สุดและเป็นแม่ทัพที่ฝ่ายเขมรไม่ชอบและไม่อยากคุยมากที่สุด ที่เขมรขอเลื่อนจาก21ไปวันที่ 27 ส.ค. จะมีได้ข้อสรุปแบบเดียวกันกับ กองทัพภาคที่ 1 หรือไม่
หรือยังจะยัง “ดึงเช็ง”ขอเลื่อนการประชุมออกไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยน แม่ทัพคนใหม่
ที่ประเด็นการเปลี่ยนแม่ทัพภาค2 แทน “บิ๊กกุ้ง”ที่จะเกษียญสิ้นเดือนก.ย.68 แม้หลายฝ่ายจะคลายกังวล ที่ แคนดิเดตแม่ทัพภาค 2 แต่ละคน ล้วนเป็น “ลูกหม้อ”กองทัพภาคที่ 2 ที่ร่วมรบกับ “บิ๊กกุ้ง” รู้กระบวนท่าเขมรทุกคนสามารถรับมือได้ หากแต่บางฝ่ายที่ตัด “ฝ่ายการเมือง”รัฐบาล ที่ดูจะพึ่งหวังได้ไม่มาก ก็ยังเป็นห่วง “ความเป็นเอกภาพ” ของ “กองทัพไทย”บก เรือ อากาศ และกองบัญชาการกองทัพไทย
รวมถึงกระทรวงกลาโหม ที่จะทำศึกกับเขมร อย่างที่เห็นความลงตัวในการโจมตีทั้งทางบก อากาศ น้ำ จนเขมรไปเป็นเดือนที่ผ่านมา แม้จะมีข่าวว่า “แม่ทัพกุ้ง”จะมาเป็น “ที่ปรึกษา” ให้กับ “ผบ.ทบ.”พล.อ.พนา”และ แม่ทัพภาค2 คนใหม่ ต่อไป
ทำให้น่าสนใจไปส่อง ว่า หลังวันที่ 30ก.ย.จะมี “แม่ทัพนายกอง”ผู้เกี่ยวข้องหลักๆกับการทำ“ศึกเขมร” ต้องเกษียณไปกี่ท่าน รวมถึงการจัดทัพรับศึกหลังจากนั้น ที่พบว่าไม่แต่ “แม่ทัพภาคที่2”
หากแต่ยังมีผบ.3เหล่าทัพ คือ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารเรือ และผู้บัญชาการทหารอากาศ และ กลัดกลาโหม ที่จะเกษียณ โดย4 เหล่า จะเหลือเพียง “พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์” ผบ.ทบ. ที่ยังคงมีอายุราชการไปถึงปี 2570
โดยในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 มีการคาดหมายว่า “พล.ต.วีระยุทธ รักษ์ศิลป์” รองแม่ทัพภาค 2 เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 26 ขึ้นมาเป็น แม่ทัพภาค 2 คนใหม่ หรือแม้จะมีการขยับไปจากนี้ ในส่วนกองทัพภาคที่2 เองก็ยังเข้าขาและมีเอกภาคในการรบ
ส่วนกระทรวงกลาโหม ที่จะมาแทน “พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์”ก็มีรายงานว่า ได้มีการวางตัว “ พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ” รองปลัดกลาโหม เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร(ตท.)24 ให้ขึ้นแทนไว้แล้ว
ขณะที่กองบัญชาการกองทัพไทย “พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี” ผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่จะเกษียณ ก็มีรายงานว่าได้มีการ วางตัว “ พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์” รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพื่อนร่วมรุ่นตท.24 ไว้
ขณะที่ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือซึ่งมีบทบาทพื้นที่ทางทะเลจันทบุรี ตราด ที่“พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์” ผบ.ทร.จะเกษียณ มีการจับตาระหว่าง “พล.ร.อ.ณัฏฐพล เดี่ยววานิช” ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ รุ่นน้อง ตท. 25 กับ “พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์” เสนาธิการทหารเรือรุ่นน้องตท.24 จะมาเป็น ผบ.ทร.แทน
ขณะที่ กองทัพอากาศ มีบทบาทการรบในศึกเขมร กับปฏิบัติการ”ทิ้งไข่”ที่ทำให้เขมรผวา “พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล” ผบ.ทอ.จะเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย.นี้ กำลังถูกจับตาว่า จะเลือกใครมาเป็น ผบ.ทอ.แทน ระหว่าง “พล.อ.อ.เสกสรร คันธา” ผู้ช่วย ผบ.ทอ. ตท. 26 เพื่อนร่วมรุ่น “พล.อ.พนา”ผบ.ทบ. กับ “ พล.อ.อ.วชิรพล เมืองน้อย” เสนาธิการทหารอากาศ รุ่นน้อง ตท. 27 ที่หากยึดจาก “หน้างาน”และความเข้าขากับ “ทัพบก”ในการทำศึกบกอากาศกับเขมรเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา “พล.อ.อ.เสกสรร”ถูกจับตาว่าจะขึ้นมาเป็น ผบ.ทอ.แทน
เรียกว่า การเปลี่ยนตัวแม่ทัพนายกองหนนี้ ต่างจากการโยกย้ายทหารประจำปีที่ผ่านมา ที่มักปรากฎร่องรอยความขัดแย้งระหว่างรุ่นทหาร แต่ปีนี้ในจังหวะเปลี่ยน “แผงผู้นำเหล่าทัพ”หลายคน
ประเทศไทยอยู่ในภาวะ “สงบ”ไม่มีสงครามชายแดนที่ดุเดือดเลือดพล่านแบบ ตายจริง เจ็บจริง จนทำให้ “กองทัพไทย”กลับมามีบทบาทได้รับความพยามรับจาก ประชาชนคนไทย
โดยเฉพาะบทบาทในการเป็น “รั้วของชาติ”ดูแลความมั่นคง จนคำถาม “มีทหารเอาไว้ทำไม”ได้รับคำตอบ กลายเป็นแรง สะท้อนกลับ “ฝ่ายการเมือง”อย่างที่เห็น ทำให้ภาวะ “หน้างาน”ชายแดนไทย-เขมร กลายเป็น “ปัจจัยสำคัญ” ของการเปลี่ยนผบ.เหล่าทัพ และแม่ทัพขึ้นมาบัญชาการรบ.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews