สภาล่างกัมพูชาผ่านร่างกฎหมาย ถอนสัญชาติพลเมืองสมคบคิดต่างชาติ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ว่าสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชามีมติเป็นเอกฉันท์ จากทั้ง 120 เสียงที่เข้าประชุม รับรองร่างกฎหมายเพิกถอนสัญชาติของบุคคลซึ่งสมคบคิดกับต่างประเทศเพื่อต่อต้านรัฐ
แม้ร่างกฎหมายยังคงต้องผ่านการอภิปรายและลงมติโดยวุฒิสภา แต่นั่นเป็นเพียงขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น เนื่องจากพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) ของสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และพล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นบุตรชาย ครองเสียงข้างมากแทบทั้งหมด และเมื่อร่างกฎหมายได้รับความเห็นชอบครบจากทั้งสองสภา จะมีการนำเอกสารขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี ทรงลงพระปรมาภิไธยต่อไป
การบัญญัติกฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้น หลังรัฐสภากัมพูชามีมติเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ให้มีการแก้ไขเนื้อหาบางส่วนของรัฐธรรมนูญ โดยให้ระบุว่า “การได้รับ การสูญเสีย และการเพิกถอนสัญชาติเขมร จะเป็นไปตามกฎหมาย” จากเดิมที่ระบุไว้ว่า “ไม่มีพลเมืองเขมรคนใดถูกเพิกถอนสัญชาติ ถูกเนรเทศ หรือถูกส่งตัวไปยังประเทศอื่น ยกเว้นแต่จะมีความตกลงร่วมกัน”
นายเกิต ฤทธิ์ รมว.ยุติธรรมกัมพูชา กล่าวว่า จะเป็นการปูทางให้ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถบัญญัติกฎหมาย ซึ่งจะเป็นการมอบอำนาจให้รัฐบาลสามารถเพิกถอนสัญชาติบุคคลใดก็ตาม ซึ่งมีพฤติการณ์สมคบคิดกับกองกำลังต่างชาติเพื่อต่อต้านรัฐ
อย่างไรก็ตาม บรรดานักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนหวั่นเกรงว่า จะมีการนำกฎหมายดังกล่าว ไปใช้เพื่อมุ่งเป้าไปที่นักวิจารณ์ นักการเมือง และนักเคลื่อนไหวฝ่ายตรงข้าม การเพิกถอนสัญชาติลักษณะนี้ ถือเป็น “การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง” และ "รัฐไม่ควรมีอำนาจตัดสินใจโดยพลการว่าใครเป็นหรือไม่ใช่พลเมือง"
อนึ่ง ตามข้อมูลจากการสรุปของรัฐสภายุโรป ซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ระบุว่า ตอนนี้มีประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) 15 แห่ง มีกฎหมายให้รัฐบาลสามารถเพิกถอนสัญชาติของบุคคล ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับการเป็นกบฏหรือการไม่จงรักภักดี แต่ในจำนวนนี้ มี 8 ประเทศ ที่ระบุชัดเจนในกฎหมายของตัวเอง ว่าเรื่องนี้สามารถกระทำได้เฉพาะกับพลเมืองที่แปลงสัญชาติเท่านั้น.
เครดิตภาพ : AFP