วอนรัฐบาลช่วย หวั่นวิกฤติ ‘นมโรงเรียน’ ล้นตลาด สูญกว่า 1,000 ล้าน
เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2568 นายสมควร สว่างอารมณ์ ผู้จัดการสหกรณ์โคนมชะอำ-ห้วยทราย จำกัด ได้ออกมาเปิดเผยถึงวิกฤติครั้งใหญ่ของภาคโคนมไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกรภาคกลางตอนล่าง-ภาคใต้ รวม 10 จังหวัด ที่กำลังเผชิญกับภาวะนมดิบล้นตลาด และไม่มีช่องทางจำหน่ายที่ชัดเจน
นายสมควร ระบุว่า สหกรณ์โคนมชะอำ-ห้วยทราย รับซื้อนมดิบจากเกษตรกรวันละ 23 ตัน แต่เนื่องจากปัญหาการจัดสรรสิทธินมโรงเรียน ที่ไม่สอดคล้องกับปริมาณเด็ก รวมถึงผลกระทบจากการเปิดการค้าเสรี ทำให้นมผงจากต่างประเทศมีราคาถูกกว่านมดิบในประเทศมาก ส่งผลให้ผู้ประกอบการเอกชนลดปริมาณการรับซื้อนมดิบลงอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันสหกรณ์มีนมดิบเหลือจากการผลิตวันละกว่า 10 ตัน ทำให้ต้องนำไปแปรรูปเป็นนมกล่อง UHT ตราโรงเรียน ทำให้มีนมกล่องคงค้างอยู่กว่า 7 ล้านกล่อง คิดเป็นมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท ซึ่งกลายเป็นภาระหนักของสหกรณ์ หากรัฐบาลไม่เข้ามาช่วยเหลือ สหกรณ์จะสามารถรับซื้อนมจากเกษตรกรได้อีกเพียง 1 เดือนเท่านั้น และจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในทันที
สหกรณ์ได้เสนอแนวทางแก้ไขไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐบาลอย่างเร่งด่วน โดยขอให้พิจารณาจัดสรรงบประมาณมาซื้อนมกล่องที่ตกค้างจากสหกรณ์ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับนักเรียนเพิ่มเติม ปรับปรุงเขตการจัดสรรนมโรงเรียนใหม่ให้สอดคล้องกับปริมาณนมและจำนวนนักเรียน และส่งเสริมให้เด็กดื่มนมครบ 365 วันต่อปี ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหานมดิบล้นตลาดในระยะยาว
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาสำคัญที่ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ซึ่งมีหนี้ค้างชำระกับเกษตรกรและคู่ค้ากว่า 800-1,000 ล้านบาท หาก อ.ส.ค. ต้องหยุดกิจการ จะทำให้ปริมาณนมดิบอีกวันละ 400 ตัน ไม่มีที่รองรับทันที และจะทำให้เกิดวิกฤตินมล้นประเทศอย่างรุนแรง สหกรณ์จึงวอนขอให้รัฐบาลเร่งตรวจสอบและหามาตรการเยียวยา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศ