โต้ดรามาคลิป‘นั่งลงลูก’ ศร.ขู่ละเมิดอำนาจศาล
"อิ๊งค์" รีโพสต์สตอรีไอจีโต้ดรามาคลิป "นั่งลงลูก" ข่าวมั่ว เลขาธิการนายกฯ พร้อมส่งคำแถลงปิดคดีคลิปเสียง เผยอยู่ระหว่างพิจารณานายกฯ ไปฟังด้วยตัวเองหรือไม่ "ศาล รธน." โต้คลิปบิดเบือนยันตุลาการพูดว่า "นั่งลงครับ" จ่อดำเนินคดีฐานละเมิดอำนาจศาล-ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ "มทภ.2" ชี้คดีคลิปเป็นเรื่องการเมือง ไม่กระทบปัญหาชายแดน กองทัพทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยต่อไป
เมื่อวันจันทร์ เวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม กรณีได้รีโพสต์สตอรีในอินสตาแกรม เป็นคลิปวิดีโอข่าวของสำนักข่าว VOICE TV ที่มีข้อความข่าวระบุด้วยว่า "ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า 'นั่งลงครับ' ไม่ใช่ 'นั่งลงลูก' อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่วอย่าบิดเบือนข่าว"
ทั้งนี้ หลังมีกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า "นั่งลงลูก" ภายหลัง น.ส.แพทองธาร กล่าวคําปฏิญาณ ในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานคดีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการยื่นคำแถลงปิดคดีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธารกับสมเด็จฮุน เซน ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยื่นภายในวันเดียวกันนี้ว่า กำลังดำเนินการ ซึ่งจะต้องยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันเดียวกันนี้ตามกำหนด
ผู้สื่อข่าวถามว่า น.ส.แพทองธารจะเดินทางไปฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วยตัวเองในวันที่ 29 ส.ค.นี้หรือไม่ นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า อยู่ระหว่างการพิจารณา
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ในฐานะผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าฟังการไต่สวนในศาลรัฐธรรมนูญ โพสต์คลิปวันไต่สวนพยานซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบอก น.ส.แพทองธาร “นั่งลงครับ” พร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "แจ้งเพื่อทราบครับ คำว่า 'นั่งลงลูก' เป็นข่าวปลอม คำว่า 'นั่งลงครับ' เป็นคำที่ถูกต้อง"
"สังคมไทยควรติดตามแก่นของการพิจารณาคดี พึงอย่าหลงเชื่อกระพี้ เพราะคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในคดีที่ยึดหลักนิติธรรม จะผดุงความยุติธรรม รักษาเอกราชอธิปไตย รักษาประเทศชาติให้ดำรงอยู่ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้คงมั่นสถาวรสืบไปครับ" นายสมชายระบุ
วันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารชี้แจงว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำจำนวน 2 ปาก ได้แก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ปรากฏว่าภายหลังวันดังกล่าวมีการเผยแพร่คลิปและข่าวในสื่อสารมวลชนหลายช่องทาง อันเป็นเท็จบิดเบือนข้อเท็จจริงในกระบวนการไต่สวนของศาล ลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวอ้างว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งพูดกับผู้ถูกร้องว่า “นั่งลงลูก” ซึ่งความจริงท่านพูดว่า “นั่งลงครับ”
"การเผยแพร่และบิดเบือนดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลตามมาตรา 38 และมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 และข้อ 10 และข้อ 11 ของข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะดำเนินการทางกฎหมายแก่บุคคลที่กระทำการบิดเบือนและเผยแพร่คลิปดังกล่าวต่อไป" แถลงการณ์ระบุ
ที่รัฐสภา พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 กล่าวถึงการสรุปสำนวนปิดคดีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธารกับสมเด็จฮุน เซน ว่าวันนี้ (25 ส.ค.) มอบหมายให้ พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. ไปดำเนินการจัดทำคำแถลงปิดคดีและส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งวันนี้จัดส่งเป็นหนังสือไปแล้ว ไม่ได้ไปด้วยตัวเอง
เมื่อถามว่า วันที่ 29 ส.ค.นี้ วุฒิสภากลุ่ม 36 สว.ที่เป็นผู้ยื่นคำร้องจะมีการจัดตั้งวอร์รูมหรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ไม่มีการจัดตั้งวอร์รูม พร้อมโบกมือปฏิเสธ
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงการประเมินแนวโน้มผลวินิจฉัยคดีคลิปเสียงสนทนาของ น.ส.แพทองธาร ที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดนัดฟังคำวินิจฉัยวันที่ 29 ก.ย.นี้ว่า ในเรื่องของการพิจารณาคดีขอให้เป็นเรื่องของศาล ตนคงไปก้าวล่วงในข้อคิดเห็นของศาลไม่ได้ก่อนจะมีคำตัดสินออกมา ส่วนหลังจากคำตัดสินออกมาแล้ว การเมืองจะเป็นไปในทิศทางใดนั้น ยืนยันว่าพวกเราพร้อมจะใช้จำนวน สส.ในสภากำกับทิศทางของระบบการเมืองภายในสภา ให้เดินหน้าไปเป็นเสาหลักให้ความมั่นคงแก่ประชาชนได้
ถามว่า หากต้องมีการโหวตเลือกแคนดิเดตนายกฯ คนใหม่ นายณัฐพงษ์มองว่า ทุกคนที่อยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคการเมือง ทุกคนมีสิทธิตามกฎหมาย ส่วนใครที่ ปชน.จะโหวตให้นั้น เป็นไปตามที่เราได้แถลงข่าวไปแล้ว ว่าเราจะไม่ร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน หากวันหนึ่งการเมืองไทยจะไปถึงทางตัน สส.ของพรรคการเมืองอื่นๆ ไม่สามารถรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็จำเป็นต้องรับเงื่อนไขตามที่ ปชน.ได้แถลงข่าวไปก่อนหน้านี้
"เงื่อนไขต่างๆ ยังคงเป็นไปตามเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เรายืนยันอีกครั้งว่า ณ วันนี้สิ่งที่สังคมไทยต้องการเป็นอย่างยิ่ง คือรัฐบาลที่มีความชอบธรรม เปลี่ยนรัฐบาลที่มีเสียงข้างมาก มีเสถียรภาพมากเพียงพอในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และการรับมือกับภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา" นายณัฐพงษ์กล่าว
ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์กรณีวันที่ 29 ส.ค.นี้จะมีการตัดสินคดีคลิปสนทนาระหว่างนายกฯ กับสมเด็จฮุน เซน จะส่งผลต่อสถานการณ์ชายแดนกัมพูชาหรือไม่ว่า ถือเป็นเรื่องของการเมือง ในส่วนเรื่องของชายแดนเราก็ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย คงไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง
เมื่อถามว่า มีความพยายามที่จะดิสเครดิตกองทัพหรือไม่ เช่นการปล่อยคลิปเก่านายทหารทำร้ายกำลังพล และการทำโพลสำรวจความคิดเห็น โดยใช้หัวข้อว่าสนับสนุนให้ทหารเป็นนายกฯ หรือไม่ พล.ท.บุญสินกล่าวว่า มีส่วน ในส่วนของกองทัพเรามีความมุ่งมั่นอยู่แล้ว ปฏิบัติตามกรอบและหน้าที่ที่ถูกต้อง ใช้ความจริงใจในการทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ซึ่งเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจและรับรู้ได้
เมื่อถามย้ำว่า หากผลวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีคลิปเสียงออกมาเป็นลบ ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลเกิดสุญญากาศ จะส่งผลต่อพื้นที่ชายแดนหรือไม่ พลโทบุญสิน กล่าวว่า ต้องดูสภาพแวดล้อมทั่วไป เนื่องจากต้องวิเคราะห์หลายๆ อย่างร่วมกัน ยืนยันว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อนอยู่แล้ว เพราะเรามุ่งมั่นที่จะยึดถือในเส้นเขตแดน
ถามต่อว่า หากผลเป็นลบจะกระทบต่อการหารือ การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ที่จะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้หรือไม่ พล.ท.บุญสินมองว่า ข้าราชการประจำก็ต้องทำงานอยู่ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องหรือส่งผลอะไร การเมืองก็ว่ากันไป.