จากเงินเดือนสู่เงินลงทุน วัย 4O เริ่มได้ไม่สายไป
ใช้แรงทำเงิน& ให้เงินทำงาน กดSubscribe รอเลย…
Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line
เริ่มต้นลงทุนในวัย 40 ยังไม่สายเกินไป! มารู้จักวิธีการสร้างความมั่งคั่งและเปลี่ยนจากเงินเดือนสู่เงินลงทุนที่เหมาะสมกับวัยคุณ
วัย 40 ต้อง ‘ลงทุนสม่ำเสมอ’
ด้วยอายุงานที่มากพอ รายได้เริ่มมั่นคง ส่วนหนี้สินแม้ยังมี แต่มักไม่มีแนวโน้มเพิ่มอีกเพราะผ่านช่วงเริ่มสร้างครอบครัวแล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อบ้านหรือรถยนต์เพิ่ม ทำให้เงินเดือนที่ได้มักเพียงพอกับการใช้จ่ายโดยไม่มีเรื่องให้ต้องกังวลใจ
การแบ่งเงินเดือนไปลงทุน 20-30% ของเงินเดือนทุกเดือน จึงเป็นเรื่องที่ทำได้สำหรับวัย 40 ส่วนใหญ่ หรือหากยังรู้สึกว่าสูงเกินไป อย่างน้อย 10-15% ของเงินเดือน เป็นสิ่งที่คนวัยนี้ต้องทำได้
ต้อง ‘ลงทุนระยะยาว’
ด้วยเหลือเวลาทำงานอีกประมาณ 15-20 ปี ก่อนเกษียณอายุ จึงสามารถเลือกลงทุนในทางเลือกที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงได้ แม้ระหว่างทางจะมีความเสี่ยงหรือความผันผวนก็ตาม เพราะการลงทุนได้นานพอ ผลขาดทุนที่เห็นช่วงสั้นๆ มักลดหรือหมดไป แล้วเห็นกำไรเข้ามาแทน
จากข้อมูล Asset class returns ของ J.P. Morgan Asset Management พบว่าการลงทุนหุ้นโลก ในปี 2565 และปี 2561 มีผลตอบแทนระหว่างปีขาดทุน 18.0% และ 8.9% ตามลำดับ แต่หากลงทุนได้ยาว 10 ปี ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 10.5% ต่อปี (ข้อมูล ณ 30 มิ.ย. 68) ดังนั้นหากที่ผ่านมาลงทุนเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 10 ปี จะมีเงินก้อนเกือบ 1 ล้านบาทได้ ด้วยเงินลงทุนรวมเพียง 600,000 บาท
อีกทั้งด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยเท่าเดิม หากลงทุนเดือนละ 5,000 บาท ต่อเนื่อง 20 ปี จะมีโอกาสได้รับเงินก้อนถึง 3.6 ล้านบาท ด้วยเงินลงทุนรวมเพียง 1.2 ล้านบาท
ต้อง ‘ลดหย่อนภาษี’
ด้วยรายได้ที่สูง เช่น คนเงินเดือน 70,000 บาท 85,000 บาท และ 190,000 บาท ฐานภาษีอยู่ที่ 15%, 20% และ 30% ตามลำดับ ดังนั้นด้วยเงินลงทุนที่เท่ากัน หากฐานภาษียิ่งสูงเงินคืนภาษีที่ได้รับยิ่งสูงตาม
เช่น คนเงินเดือน 85,000 บาท การลงทุนกองทุน RMF ที่เน้นลงทุนหุ้นโลก เดือนละ 5,000 บาท หรือปีละ 60,000 บาท ผ่านไป 20 ปี นอกจากมีโอกาสได้รับเงินก้อน 3.6 ล้านบาทแล้ว เมื่อรวมเงินคืนภาษีปีละ 12,000 บาท (รวม 20 ปี 240,000 บาท ที่ฐานภาษี 20%) เสมือนว่าได้รับเงินก้อนประมาณ 3.8 ล้านบาท
นอกจากกองทุน RMF แล้ว ยังมีกองทุน ThaiESG ประกันชีวิต ประกันบำนาญ และประกันสุขภาพ ที่สามารถเลือกใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
ต้อง ‘คิดให้ครบ’ มากกว่าลงทุน
ด้วยวัยที่มักมีครอบครัวต้องดูแล และมีความเสี่ยงเรื่องเจ็บป่วยมากขึ้น ควรแบ่งเงินบางส่วนเป็นเบี้ยประกันชีวิตและประกันสุขภาพ โดยพิจารณาประกันชีวิตแบบคุ้มครองตลอดชีพหรือแบบชั่วระยะเวลา ที่ค่าเบี้ยปีละ 75,000 บาท เพื่อนำเบี้ยดังกล่าวไปลดหย่อนภาษี (รวมกับลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพแล้วไม่เกินปีละ 100,000 บาท)
และมองหาประกันสุขภาพที่มีวงเงินความคุ้มครองผู้ป่วยในหลักล้านเพื่อรองรับค่ารักษาพยาบาลระยะยาว โดยหากปัจจุบันมีสวัสดิการสุขภาพที่เบิกได้ สามารถเลือกประกันสุขภาพแบบมี Deduct (ความรับผิดส่วนแรก) ที่ค่าเบี้ยถูกลง โดยยังคงนำเบี้ยไปลดหย่อนภาษีได้ ไม่เกินปีละ 25,000 บาท
วัย40 ถือเป็นวัยที่รายได้มั่นคง และยังมีเวลาเพียงพอที่จะเริ่มต้นลงทุนสะสมความมั่งคั่ง โดยหากรอจนอายุมากขึ้น เวลาที่เหลืออาจไม่พอให้สามารถสร้างความมั่งคั่งได้เพียงพอกับการใช้ชีวิตในอนาคต