โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ศาลเลื่อนพิพากษาคดีม็อบ นปช.ปี 52 เหตุจำเลยหนี-สส.ติดประชุมสภา

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2568 ที่ห้องพิจารณา 909ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดี หมายเลขดำอ.968/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (ปธ.นปช.) พร้อมแกนนำ นปช. คนอื่นๆ รวม 10 คนเป็นจำเลย 1-10 ในความผิด ฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่10 คนขึ้นไป สร้างความกระด้างกระเดื่องก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ,ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548

กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 31 ม.ค. - 9 เม.ย. 52พวกจำเลยร่วมกันชุมนุมขับไล่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปิดทางเข้าออกทำเนียบรัฐบาล เพื่อขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ รวมถึงมีผู้ชุมนุมบางส่วนบุกไปยังบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี(ขณะนั้น) เพื่อกดดันให้ พล.อ.เปรม พร้อมด้วย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ลาออกจากองคมนตรีรวมทั้งการปิดล้อมสถานที่ราชการสำคัญๆหลายแห่งใน กทม.

จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยจำเลยทั้ง 13 คน ได้แก่

1.นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์
2.นายจตุพร พรหมพันธุ์
3.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
4.นพ.เหวง โตจิราการ
5.นายสิระ หรือสรวิชญ์ พิมพ์กลาง
6.นายนายณรงศักดิ์ มณี
7.นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท
8.นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์
9.นายพายัพ ปั้นเกตุ
10.นายพงศ์พิเชษฐ์ หรือพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง
11.นายอดิศร เพียงเกตุ
12.นายพีระ พริ้งกลาง (เสียชีวิต)
13.นายเมธี อมรวุฒิกุล

ทั้งนี้เมื่อถึงเวลานัด ศาลนั่งบัลลังก์พิจารณา นายประกันของ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แจ้งต่อศาลว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมสภา ซึ่งนายอดิศร ต้องเข้าร่วมประชุมจึงขอเลื่อนฟังคำพิพากษาออกไปก่อน 1 นัด ในส่วนของ นายพงศ์พิเชษฐ์ สุขจินดาพล จำเลยที่10 ทราบนัดแล้ว แต่ไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลเห็นว่ามีพฤติการณ์จะหลบหนีให้ออกหมายจับ ปรับนายประกัน และให้นัดฟังคำพิพากษาวันที่ 7 ต.ค. 2568 เวลา 09.00 น. พร้อมทั้งกำชับให้จำเลยทุกคนมาศาลตามนัด หากจำเลยคนใดไม่มาศาล ศาลจะพิจารณาเพิกถอนการประกันตัว

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หนึ่งในจำเลย ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลเลื่อนฟังคำพิพากษาว่า คดีนี้มีจำเลยทั้งหมด 12 คน จากทั้งสิ้น 13 คนเสียชีวิต 1 ราย วันนี้มีจำเลยมาศาล 9 ราย อีก 2 รายคือนายพีระ จำเลยที่ 12 และนายพงษ์พิเชษฐ์ จำเลยที่ 10 ทนายความแจ้งว่าไม่สามารถติดต่อได้สักพักแล้ว ส่วนนายอดิศร จำเลยที่ 11 ติดประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่สามารถมาฟังคำพิพากษาได้ โดยศาลให้ออกหมายจับนายพงศ์พิเชษฐ์ และปรับนายประกัน และเนื่องจากว่าคดีนี้ใช้นายประกันคนเดียวกัน ตนจึงประสานนายประกัน และทนายความแถลงต่อศาล ขอให้พิจารณาปรับนายประกันโดยหักยอดเฉพาะจำเลยที่ 10

เมื่อถามว่าคดีนี้เป็นคดีเดียวกันกับการก่อการร้ายของกลุ่มนปช. หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เป็นคนละคดีกันคดีนั้นเกิดขึ้นที่สะพานผ่านฟ้าในเดือน เม.ย. 2553 และได้สู้คดีจนคดียุติไปแล้ว

เมื่อถามว่าบรรยากาศในห้องพิจารณาคดีวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง และได้คุยกับนายจตุพรหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ได้มีการทักทายกันตามปกติ เพราะปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่าตน นายจตุพร และแกนนำคนอื่นได้ร่วมต่อสู้ทางการเมืองมาด้วยกัน แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไปก็อาจจะมีความเห็นและทิศทางทางการเมืองแตกต่างกันบ้าง และตนเชื่อว่าแกนนำรายอื่นก็คิดแบบตนว่า จะเอาอุดมการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ไปทำลายความเป็นมิตรที่เคยต่อสู้ร่วมกันมาไม่ได้ แต่ตนก็ไม่ได้คุยเรื่องทางการเมืองกับใครเท่าไหร่ นอกจากการถามเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพของนายวีระกานต์เท่านั้น

เมื่อถามว่าปัจจุบันยังได้มีการหารือทางการเมืองกับนายจตุพรหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่มีการหารือเป็นส่วนตัวหรือนัดหมายพบกันเป็นส่วนตัวอย่างแน่นอน แต่อย่างที่ได้บอกไปว่า ตนและนายจตุพร ร่วมเป็นร่วมตายกันมาตั้งแต่การชุมนุมในครั้งนั้น และในทางส่วนตัวไม่มีความรู้สึกเป็นศัตรูกับนายจตุพร แต่ในทางการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ยืนอยู่คนละขั้วกัน

เมื่อถามว่าในวันที่ 22 ส.ค.นี้ จะมีการพิพากษาคดีมาตรา 112 ของนายทักษิณ ชินวัตร จะเข้ามาให้กำลังใจหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คงไม่ได้มาในวันนั้นแต่ก็ขอให้กำลังใจนายทักษิณ และมีความเห็นอยู่ 2 ประการ โดยประการแรกคิดว่าการแจ้งข้อหาตามมาตรา 112 ต่อนายทักษิณ ถ้าดูจากสถานการณ์ในเวลานั้นเห็นว่าเป็นกระบวนการทางการเมืองที่มุ่งใช้กฎหมายมาตรานี้เล่นงานฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ประการที่ 2 มองว่า ไม่ใช่เฉพาะคดีนายทักษิณเท่านั้น แต่ใครก็ตามไม่ควรใช้กฎหมาย มาตรา 112 เป็นเครื่องมือทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายตนหรือฝ่ายตรงข้าม เพราะว่าวิถีทางความขัดแย้งทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยย่อมเกิดขึ้นได้ แต่การนำกฎหมายที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้ในความขัดแย้งทางการเมืองไม่ควรเกิดขึ้น

ในส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนคดีคลิปเสียงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 21 ส.ค. นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขอให้กำลังใจกับนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางไปชี้แจงด้วยตนเอง และมีความเชื่อมั่นถึงเจตนาและวิธีการที่เกิดขึ้นในคบิปเสียงดังกล่าวที่ตั้งใจจะรักษาสันติภาพไม่ให้บายปลาย แต่ทุกอย่างล้มลงเพราะมีการแอบอัดเสียงและปล่อยออกมาเพื่อทำลายเสถียรภาพทางการเมืองของไทย ตนจึงมองว่าคนที่จะขาดจริยธรรมอย่างร้ายแรงน่าจะเป็นผู้ที่ปล่อยคลิปเสียง และหาก น.ส.แพทองธารพ้นจากตำแหน่งด้วยเรื่องนี้ ฝ่ายที่จงใจปล่อยคลิปเสียงจะมองว่าเป็นความสำเร็จทางการเมืองหรือไม่ และถ้าศาลจะมีคำสั่งออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับดุลพินิจของศาล

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

‘AI’ กับการพลิกโฉม วงจรการพัฒนา ‘ซอฟต์แวร์’

28 นาทีที่แล้ว

นิทรรศการสนูปปี้ครั้งแรกในไทย ‘How Do You Do, Snoopy? 75 Years: A Journey of Friendship Through Art’

28 นาทีที่แล้ว

อินเดียเตรียม ‘แบน’ เกมออนไลน์ที่ใช้เงินเล่น ฝ่าฝืนเจอคุก 3 ปี

28 นาทีที่แล้ว

'ภูมิธรรม' ยังไม่เพิ่มผู้สังเกตการณ์ไทย-กัมพูชา ใช้ทวิภาคีแก้

35 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ศบ.ทก. ยันกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 จริง นำหลักฐานฟ้องเวทีโลก

PostToday

"แม่ทัพภาค 1" เตรียมรับคณะทูต IOT ตรวจสังเกตการณ์หยุดยิงชายแดนสระแก้ว 22 ส.ค.

สยามรัฐ

ศบ.ทก. ยันคลิปทหารเขมรใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 ของจริง ชงหลักฐานฟ้องเวทีโลก

Khaosod

ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุดตั้งแต่เกิดเหตุปะทะกระทบประชาชน 7.7 แสนชีวิต

TNN ช่อง16

รองแม่ทัพภาค 2 เปิดเบื้องหลังปม "ช่องอานม้า" กับปัญหาที่ยืดเยื้อถึงปัจจุบัน

WeR NEWS

ศบ.ทก. ชี้ คลิปวางทุ่นระเบิด หลักฐานสำคัญกัมพูชาละเมิดข้อตกลง

INN News

ข่าวและบทความยอดนิยม