ราคา “เงิน” พุ่งทะลุ 40 ดอลลาร์/ออนซ์ ครั้งแรกในรอบ 14 ปี หนุนเฟดลดดอกเบี้ย
ราคา "เงิน" พุ่งทะลุ 40 ดอลลาร์/ออนซ์ ครั้งแรกในรอบ 14 ปี หลังนักลงทุนเร่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยเดือนกันยายน
วันที่ 1 กันยายน 2568 เวลา 09.33 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าราคาซิลเวอร์ (เงิน) ทะยานขึ้นเหนือระดับ 40 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2554 ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ กระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยจากนักลงทุน
*สัญญาซื้อขายเงินล่วงหน้า (Spot silver) ปรับขึ้นสูงสุด 1.4% แตะ 40.2920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันจันทร์ ทำให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีพุ่งเกิน 40% สอดคล้องไปกับกระแสการปรับขึ้นของทองคำ แพลทินัม และพัลลาเดียม โดยราคาทองคำเองก็ปรับตัวขึ้นสูงสุด 0.7% ในช่วงต้นสัปดาห์ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ทำสถิติในเดือนเมษายนที่ผ่านมา*
นักลงทุนยังคงเข้าซื้อโลหะมีค่าในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากบรรยากาศตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนทางการเงิน โดยเฉพาะจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โจมตีการทำงานของเฟดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลาง
ขณะเดียวกันตลาดเพิ่มน้ำหนักความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินที่จะมีขึ้นในเดือนนี้ โดยรายงานการจ้างงานสำคัญของสหรัฐฯ ซึ่งจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ คาดว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ การกู้ยืมที่มีต้นทุนต่ำมักเป็นผลดีต่อการลงทุนในโลหะมีค่า เนื่องจากโลหะเหล่านี้ไม่ก่อให้เกิดดอกเบี้ย
ซิลเวอร์ยังเป็นที่ต้องการในเชิงอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เช่น แผงโซลาร์เซลล์ ท่ามกลางความต้องการดังกล่าว ตลาดกำลังเผชิญภาวะขาดดุลอุปทานต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ตามรายงานของสมาคมอุตสาหกรรมเงิน (Silver Institute)
นอกจากนี้นักลงทุนยังแห่เข้าซื้อกองทุน ETF ที่อ้างอิงซิลเวอร์ โดยมียอดถือครองเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ในเดือนสิงหาคม ถือเป็นการไหลเข้าต่อเนื่องยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563 การเข้าซื้อที่มากขึ้นนี้ได้ดึงสต๊อกโลหะที่สามารถใช้ซื้อขายได้ในตลาดลอนดอนลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดเงินยังคงเผชิญภาวะตึงตัว
อ้างอิง : www.bloomberg.com