กรมชลฯ ประกาศเตือน 11 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ
(21ก.ค.68) พายุโซนร้อน “วิภา” ได้อ่อนกำลังลงแล้ว ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกค่อนทางใต้เล็กน้อยด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะลงสู่อ่าวตังเกี๋ยและขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันนี้ ก่อนจะอ่อนกำลังลง แม้ไม่ขึ้นฝั่งไทยโดยตรง แต่จะเสริมกำลังมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ในช่วงวันที่ 21 - 24 ก.ค. 68 อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดจากฝั่ง จนถึงวันที่ 25 ก.ค.2568 นี้
ขณะที่นายฐนันดร์ สุทธิพิศาล รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 3 ถึงผู้ว่าราชการ 11 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ
จากการคาดการณ์โดนกรมชลประทาน ในช่วง 1 - 7 วันข้างหน้า โดยในวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่าน ประมาณ 1,400 – 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดการณ์ปริมาณน้ำจากลำน้ำสาขามีปริมาณประมาณ 100 -150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณระหว่าง 1,500 -1,650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และทางกรมชลประทานรับน้ำเข้าสู่ระบบชลประทาน 2 ฝั่ง ในอัตรา 400 -450 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
กรมชลประทานมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราระหว่าง 700 – 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 20 – 80 เซนติเมตร บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา พื้นที่แม่น้ำน้อย โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน
สำหรับปัจจุบัน ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,199 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 15.47 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 10.28 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 6.71 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยา มีอัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 800ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงส่งผลทำให้ที่ สถานี C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 815 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทั้งนี้หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ทางกรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน ได้แจ้งเตือนให้ 11 จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ข่าวเวิร์คพอยท์23
ข่าวที่เกี่ยวข้อง