โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

เมียนมายกเลิกภาวะฉุกเฉิน ปูทางเลือกตั้ง ธ.ค.68 หลังประกาศใช้กว่า 4 ปี

PostToday

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว

พลตรี ซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวในข้อความเสียงที่ส่งถึงผู้สื่อข่าวว่า "ภาวะฉุกเฉินถูกยกเลิกในวันนี้เพื่อให้ประเทศสามารถจัดการเลือกตั้งบนเส้นทางสู่ประชาธิปไตยแบบหลายพรรค" และเสริมว่า "การเลือกตั้งจะจัดขึ้นภายในหกเดือน"

โดยกองทัพเมียนมาได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 หลังจากโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนของนางออง ซาน ซูจี ซึ่งจุดชนวนให้เกิดสงครามกลางเมืองหลายฝ่ายที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วหลายพันคน

การประกาศภาวะฉุกเฉินในปี 2021 ทำให้พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มีอำนาจสูงสุดเหนือฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ เขาได้ชูการเลือกตั้งเป็นทางออกสำหรับความขัดแย้งนี้

สื่อของรัฐรายงานว่า รัฐบาลเมียนมาได้ประกาศจัดตั้งคณะกรรมการ 11 คน นำโดย พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย เพื่อจัดการเลือกตั้ง

สถานีโทรทัศน์ MRTV รายงานว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย จะยังคงมีอำนาจในการปกครองประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ในฐานะประธานาธิบดีชั่วคราวที่จะดูแลการลงคะแนนเสียง

ขณะที่กลุ่มฝ่ายค้าน รวมถึงอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ถูกโค่นล้มในการรัฐประหาร ได้ให้คำมั่นว่าจะคว่ำบาตรการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติเมื่อเดือนที่แล้วได้ปฏิเสธว่าเป็น "การฉ้อโกง" เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการปกครองของทหารที่ดำเนินต่อไป

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย จะยังคงดำรงตำแหน่งไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดีหรือผู้บัญชาการทหารสูงสุด หลังการเลือกตั้ง และจะรวมอำนาจในตำแหน่งนั้น ซึ่งจะขยายวาระการดำรงตำแหน่งในฐานะผู้ปกครองโดยพฤตินัย

ทั้งนี้ รัฐบาลเมียนมายังไม่ได้ประกาศวันเลือกตั้งที่แน่นอน แต่พรรคการเมืองต่างๆ กำลังอยู่ในระหว่างการลงทะเบียน ขณะที่การฝึกอบรมการใช้เครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ดำเนินการไปแล้ว

เมื่อวันพุธ รัฐบาลทหาร กล่าวว่า ได้ออกกฎหมายใหม่ที่กำหนดโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี สำหรับการพูดหรือการประท้วงที่มีเป้าหมาย "ทำลายส่วนหนึ่งของกระบวนการเลือกตั้ง" ภายใต้กฎหมายใหม่นี้ ใครก็ตามที่พูด จัดระเบียบ ยุยง ประท้วง หรือแจกจ่ายจดหมายเพื่อขัดขวางส่วนใดส่วนหนึ่งของกระบวนการเลือกตั้ง จะถูกลงโทษจำคุก 3 ถึง 10 ปี รวมถึงปรับด้วย

นอกจากนี้ ยังระบุว่าใครก็ตามที่คุกคาม ขัดขวาง ทำร้าย หรือทำให้บุคลากรคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้สมัคร หรือผู้ลงคะแนนเสียงได้รับบาดเจ็บสาหัส อาจถูกตัดสินจำคุกสามปีถึงตลอดชีวิต

ผลการสำรวจสำมะโนประชากรที่จัดขึ้นเมื่อปีที่แล้วเพื่อเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งระบุว่า ไม่สามารถเก็บข้อมูลจากประชากร 19 ล้านคน จากทั้งหมด 51 ล้านคน ของประเทศได้ ผลเบื้องต้นอ้างว่า "ข้อจำกัดด้านความปลอดภัยที่สำคัญ" เป็นสาเหตุหนึ่งของความไม่สมบูรณ์ ซึ่งบ่งชี้ว่าขอบเขตของการเลือกตั้งอาจจำกัดเพียงใดท่ามกลางสงครามกลางเมือง

นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่ากลุ่มกบฏจะเปิดฉากการโจมตีในช่วงเวลาใกล้การเลือกตั้ง เพื่อแสดงออกถึงการต่อต้าน อย่างไรก็ตาม ในเดือนนี้ คณะรัฐประหารได้เริ่มเสนอเงินรางวัลให้กับผู้ที่ยินดีวางอาวุธและ "กลับคืนสู่กรอบของกฎหมาย" ก่อนการลงคะแนนเสียง

ที่มา :France 24

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก PostToday

“รมว.นฤมล” ลงพื้นที่น่าน ให้กำลังใจครู-นักเรียน น้ำท่วม พายุวิภา

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ก.ล.ต. มองภาษีนำเข้า 19% แข่งประเทศในภูมิภาคได้ บวกต่อตลาดทุน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 24.02 จุด sell on fact รับข่าวภาษีสหรัฐฯ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

BPP เร่งเครื่องพลังงานโลก! เดินเกมซื้อกิจการดันกำลังผลิต 5,000 เมกกะวัตต์ปี 73

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

รายงานวิจัยเผยแผนที่ ‘ทวีปที่ 8’ ของโลก

เดลินิวส์

กรุงฮานอยเตรียมติดตั้ง “สถานีชาร์จอีวี” ตามลานจอดรถ

เดลินิวส์

มาริษ ยินดีสหรัฐลดอัตราภาษีไทย ย้ำความเป็นพันธมิตร-หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์

MATICHON ONLINE

กัมพูชา เอาอีกแล้ว! ล่าสุด อ้าง 2 ทหาร ที่ไทยปล่อยมา ร่างกายพิการ มีความผิดปกติทางจิต คาดถูกทรมาน

สยามนิวส์

ผลการพาทูตทหารลงพื้นที่ และประชุม GBC อาทิตย์หน้าที่มาเลเซีย

Amarin TV

ชาวสวนยูนนานเก็บเกี่ยว “มะม่วงพันธุ์สุกช้า” ลูกอวบสีสวย

เดลินิวส์

เปิดถ้อยแถลง "รมว.กต" กรณีสหรัฐฯ ลดภาษีไทยเหลือ 19%

Thai PBS

"ทูตกัมพูชา" ชี้ไทยคุมตัวทหารละเมิดกฎหมายมนุษยธรรม

Thai PBS

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...