เรียกสอบพยาน 6 ปาก ปมคลิปเสียง ‘อังเคิลฮุนเซน’ ยันส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดชี้ขาด เดือนสิงหาคมนี้
เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนบรมราชชนนี สำนักอัยการสูงสุด นัดประชุมหารือกับ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตร.ไซเบอร์) กรณีคลิปเสียงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฮุน เซน เพื่อหารือกำหนดแนวทางการสอบสวน โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 และรองโฆษก ตร. ร่วมประชุม
ต่อมา นายวัชรินทร์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ภายในสัปดาห์หน้า จะมีการเชิญตัวพยานทั้งหมด 6 ปาก มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดย 6 คนนี้เป็นคนไทย ประกอบด้วย นายสมคิด เชื้อคง ผู้กล่าวหา ตำรวจไซเบอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องของเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงพยานจากส่วนกลางมาให้ความเห็น ส่วนการเรียกสอบปากคำนายกฯ ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น เนื่องจากจะต้องสอบปากคำฝ่ายผู้ร้องให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะเป็นขั้นตอนต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากสัปดาห์หน้าไม่สามารถสอบปากคำพยานได้ทัน ก็จะขยายเวลาให้เพิ่มอีก 1 สัปดาห์ แต่ตนยืนยันว่าคดีนี้จะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม ก่อนที่จะเสนอให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาดสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง และหากอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง คดีนี้ก็จะถือว่าสิ้นสุด
นายวัชรินทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนหากทางสมเด็จฮุน เซน อ้างว่าเฟซบุ๊กดังกล่าว เป็นเพจปลอมนั้น ก็สามารถทำได้ แต่ตำรวจไซเบอร์สามารถยืนยันหลักฐานและความชัดเจนกับเฟซบุ๊กนี้ได้ ว่าใครเป็นผู้ใช้หรือโพสต์ ส่วนจะสามารถออกหมายจับได้หรือไม่ และกระบวนการขั้นตอนการออกหมายแดงและส่งผู้ร้ายข้ามแดน จะต้องรอให้ทางอัยการสูงสุดวินิจฉัยแล้วเสร็จก่อน แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน
ส่วนกรณีที่ในคลิปเสียงมีการพาดพิงถึงแม่ทัพภาคที่สองนั้น เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ทางอัยการไม่ขอก้าวล่วง
ด้าน พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ตอนนี้มีหลักฐานเพียงพอที่สามารถดำเนินคดี หลังจากที่อัยการสูงสุดมอบหมายให้เป็นพนักงานสอบสวนในคดีนอกราชอาณาจักร ส่วนรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ เบื้องต้นตำรวจตรวจสอบแล้วขณะมีการโพสต์ แอดมินทั้ง 4 คน อยู่ในประเทศกัมพูชา.