โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

รฟท. เล็งดึงกลุ่มทุนรถไฟฟ้า ชิง PPP เดินรถ ‘ไฮสปีดไทย - จีน’

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นประธานในเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อแนะนำโครงการศึกษา ทบทวน และวิเคราะห์ความเหมาะสมของการจัดทำเอกสารประกวดราคา ตลอดจนแนวทางการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย ภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย และจีน (ไฮสปีดไทย - จีน) ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในวันนี้ (15 ก.ค.68)

อย่างไรก็ดี การสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นกลไกสำคัญในการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาโครงการให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และภาคธุรกิจ ตลอดจนขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพ ซึ่งโครงการนี้ รฟท.มีเป้าหมายดำเนินการในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐ และเอกชน (PPP) เพื่อลดงบประมาณการลงทุนของภาครัฐ และเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เอกชนจะนำมาดำเนินการ โดยเอกชนคู่สัญญาจะร่วมดำเนินงานในส่วนของการติดตั้งงานระบบ การบริหารจัดการเดินรถ และการบำรุงรักษา ตลอดแนวเส้นทางช่วงกรุงเทพฯ - หนองคาย

“หลังเปิดรับฟังความเห็นครั้งนี้ การรถไฟฯ จะเปิดเวทีรับฟังความเห็นของภาคเอกชนในช่วงเดือนต.ค.นี้ เพื่อนำข้อเสนอของประชาชน และเอกชนมาจัดทำข้อมูลรูปแบบการลงทุน ก่อนเสนอกระทรวงคมนาคมภายใน ธ.ค.2568 และคาดว่าจะเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า หลังจากนั้นกลับมาจัดทำเอกสารประกวดราคาเสร็จในไตรมาส 2 เบื้องต้นจึงคาดว่าจะเปิดประมูลได้ในช่วงไตรมาส 3 ปีหน้า”

นายวีริศ กล่าวต่อว่า การเปิด PPP บริหาร และเดินรถไฮสปีดไทย-จีนเป็นเรื่องที่ รฟท.ต้องเร่งดำเนินการ เพื่อให้ทันต่อการเปิดเดินรถใน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา ที่ปัจจุบันงานโยธาคืบหน้าแล้วกว่า 45.65% และคาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดบริการในปี 2572 ซึ่งเอกชนคู่สัญญาร่วมทุนนั้นจะต้องดำเนินการส่วนของระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา ครอบคลุมงานบริหารโครงการ และบำรุงรักษาโครงการด้วย ส่วนการติดตั้งระบบ และขบวนรถในส่วนของระยะที่ 1 รฟท.ได้ดำเนินการลงทุนให้แล้ว โดยปัจจุบันจัดหาขบวนรถจำนวน 4 ขบวน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากจีนรถไฟรุ่น Fuxing Hao Series CR 300 AF ดังนั้นหากประมูลได้ตัวเอกชนก็จะสามารถบริหารการเดินรถได้ทันที

ส่วนความรับผิดชอบระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย เอกชนคู่สัญญาจะต้องติดตั้งงานระบบ การบริหารจัดการเดินรถ และการบำรุงรักษา รวมไปถึงการจัดหาขบวนรถเพิ่มเติมให้เพียงพอต่อการบริการผู้โดยสาร และเพื่อให้โครงการเดินรถเป็นระบบเดียวกันตลอดแนวเส้นทาง จะต้องจัดใช้ระบบอาณัติสัญญาณ และขบวนรถของจีน ตามมาตรฐานเช่นเดียวกับโครงการระยะที่ 1 อีกทั้งจะต้องเอื้อต่อการเชื่อมต่อระบบรถไฟไปยังลาว และจีนด้วย เพื่อให้โครงการไฮสปีดสายนี้เกิดประโยชน์เชื่อมต่อการเดินทาง และการขนส่งตามเป้าหมาย โดยจะเปิดบริการได้ในปี 2574

“เชื่อว่าเอกชนทั้งไทย และต่างชาติจะสนใจเข้าร่วม PPP บริหารและเดินรถไฮสปีด ซึ่งเอกชนไทยกลุ่มเป้าหมายที่การรถไฟฯ มองว่าจะเข้าเงื่อนไขร่วมลงทุนได้ ต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์บริหารรถไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 2-3 ราย ส่วนต่างชาติก็สามารถรวมกลุ่มกับเอกชนไทยเข้าร่วมประมูลได้ ซึ่งขณะนี้กลุ่มทุนจีนแสดงความสนใจจำนวนมาก เพราะไฮสปีดสายนี้จะเชื่อมต่อไปจีน อีกทั้งยังใช้ระบบเทคโนโลยีที่มาจากจีนด้วย”

นอกจากการเร่งดำเนินการ PPP บริหาร และการเดินรถ ขณะนี้ รฟท.ยังอยู่ระหว่างเตรียมประมูลงานโยธาระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย มูลค่า 3.4 แสนล้านบาท โดยสถานะปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนแบ่งสัญญาประมูล เบื้องต้นประเมินไว้เป็น งานโยธา 7 สัญญา และศูนย์ซ่อม 1 สัญญา ทั้งนี้คาดว่ารายละเอียดทั้งหมดจะแล้วเสร็จในกลางเดือนส.ค.นี้ และออกประกาศเชิญชวนผู้รับเหมายื่นข้อเสนอในเดือนก.ย.2568 หลังจากนั้นเร่งรัดก่อสร้างในปี 2569

รายงานข่าวจาก รฟท. เผยว่า มูลค่าโครงการ PPP บริหารและเดินรถไฮสปีดไทยจีนนั้น ประเมินว่าจะมีมูลค่าสูงประมาณ 1 แสนล้านบาท เนื่องจากเฉพาะส่วนของงานระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย ซึ่งเอกชนจะต้องดำเนินการทั้งติดตั้งระบบ บริหารการเดินรถ และบำรุงรักษา ประเมินว่าจะมีมูลค่ากว่า 8 หมื่นล้านบาท รวมงานส่วนของระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา ที่เอกชนต้องบำรุงรักษา และการจัดหาขบวนรถมาให้บริการเพิ่มเติมรวม 14 ขบวน ก็คาดว่าจะมีมูลค่างาน PPP มากกว่า 1 แสนล้านบาท ส่วนระยะเวลาสัมปทานนั้น ผลการศึกษาก่อนหน้านี้ประเมินไว้ที่ 30 ปี ซึ่งขณะนี้ รฟท.อยู่ระหว่างรับฟังความเห็น และประเมินความเหมาะสม

สำหรับ เวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียครั้งนี้ มีผู้สนใจเข้าร่วมทั้งภายในงาน และระบบออนไลน์รวมกว่า 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อาทิ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ขณะเดียวกันยังพบว่ามีเอกชนรับเหมารายใหญ่ คือ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมรับฟังรายละเอียดโครงการด้วย

พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

ศูนย์ฮีลใจนักวิ่ง! 'HOKA Culture Hub' รันคลับใหม่ใจกลางเจริญกรุง

41 นาทีที่แล้ว

'อนุทิน' รับส่งเอกสารแจงกกต.ปม'ทักษิณ' ครอบงำพรรค ยันภท.อิสระ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Quiet Firing ทำไมยุคนี้เจอบ่อย? เปิดเบื้องหลังการไล่ออกเงียบๆ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไทยเผชิญ 'ภาษีทรัมป์-หนี้ครัวเรือนพุ่ง สมาคมธนาคารไทย ชง 3 แนวทางฝ่าวิกฤติ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

รถไฟฯเปิดเวทีรับฟังความเห็นปชช. "รถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพมหานคร – หนองคาย" ชูกระตุ้นศก.พื้นที่แนวเส้นทาง

สยามรัฐ

“สุริยะ” เผย “ทช.” เปิดใช้สะพานเชื่อมระบบนิเวศ “เขาอ่างฤาไน - เขาชะเมา - เขาวง” ยกระดับเดินทางเชื่อม 2 จังหวัด แก้ปัญหาคนกับช้าง หนุนศก.ท่องเที่ยว

สยามรัฐ

ไทยเผชิญ 'ภาษีทรัมป์-หนี้ครัวเรือนพุ่ง สมาคมธนาคารไทย ชง 3 แนวทางฝ่าวิกฤติ

กรุงเทพธุรกิจ

#ภควัตจัดให้!! Trading Idea หุ้น NSL

ทันหุ้น

TISCO โชว์กำไรครึ่งปีแรก 3,287 ล้านบาท ลดลง 5.7% YoY สู้เศรษฐกิจชะลอ

StockRadars

รฟท.เอาผิดนักท่องเที่ยว พ่นสีหัวรถจักร -ตู้โดยสาร ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด ปกป้องสมบัติของประเทศ

สยามรัฐ

ก.ล.ต. สั่ง ECF แจงปรับราคาแปลง ECF-W5 เป็น 5 บ. เดิม 0.55 บาท หวั่นกระทบผู้ถือสิทธิ

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ราคาน้ำมันวันพรุ่งนี้ 16 ก.ค. อัปเดตราคาเบนซิน-ดีเซล-แก๊สโซฮอล์ ล่าสุดที่นี่

The Bangkok Insight

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...